กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

ประชาชนทั่วไป ทำให้บริษัทมีรายได้จากยาตัวนี้ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และมีการคาดคะเนว่ามีชาวอเมริกันประมาณ 55,00 คนตายจากผลข้างเคียงของยานี้ ซึ่งเกิดคดีฟ้อร้องเรียกค่าเสียหายกันมากมายและบริษัทยังถูกปรับฐานปกปิดข้อมูลที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยและประชาชนอีกเป็นจำนวนเนมหาศาล
นับว่า ผู้เขียนโชคดีที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากยานี้ และผู้เขียนก็เข้าใจหมอกระดูก-ข้อที่เป็นลูกศิษ์ที่สั่งยานี้ให้ เพราะในขณะนั้น แรงโฆษณาของบริษัทยาทำให้แพทย์ส่วนใหญ่เข้าใจว่ายา vioxx เป็น NSAID ใหม่ที่ดีที่สุด ลูกศิษย์จึงอยากให้อาจารย์ได้กินยาที่ดีที่สุดนั่นเอง
อันที่จริง ยาใหม่จำนวนมาก มักจะยังไม่ผ่านการใช้ของผู้ป่วยในจำนวนมากพอที่จะรู้ถึงผลดีและผลเสียของยาอย่างเพียงพอ ดังตัวอย่างยาทั้งสองที่กล่าวถึงข้างต้น แพทย์และผู้ป่วยที่ชอบสั่งและ/หรือใช้ยาใหม่ตามแรงโฆษณา จึงพึงตระหนักถึงอันตรายของยาที่ผู้ผลิตและจำหน่ายยาเจตนาปกปิดไว้หรือไม่ได้ทำการวิจัยอย่างเพียงพอจนรู้ถึงผลข้างเคียงทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้
ยาทุกตัวมีพิษมากบ้างน้อยบ้างเสมอ ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรใช้ยา ให้ใช้การป้องกันและรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหรือโรค โดยวิธีต่างๆ ตามธรรคมชาติ เช่น อาหาร อากาศ อารมณ์ ออกกำลังอิงธรรม เป็นต้น และถ้าจำเป็นต้องใช้ยาจริงๆ ควรเลือกใช้แต่ "ยาดี ใช้ดี มีค่า" เท่านั้น (ดูหนังสือ "ฉลาดใช้ยาไ โดยสำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน พ.ศ. 2555)
หนังสือ bangkok post วันที่ 15 พฤษภาคม 2557 รายานว่า ตำรวจจีนได้ตั้งข้อหา Mr. Mark Reilly ๖รองประธานอาวุโสของบริษัท Gloxo Smith kliv ของอังกฤษในจีนและฮ่องกง และเป็ฯอดีตผู้จัดการทั่วไปของบริษัทนี้ในจีน) ว่าให้สนบนแพทย์และโรงพยาบาลในประเทศจึนเพื่อให้สั่งใช้ยาและราชภัณฑ์ของบริษัทที่มีราคาสูงผิดปกติ โดยตำรวจจีนได้เริ่มสืบสวนสอบสวนบริษัทยาตางชาติที่ให้สินบนแพทย์และเจ้าหน้าที่ของรัฐตั้งแต่กรกฎาคม พ.ศ. 2556 และเพิ่มตั้งข้อหาผู้บริหารบริษัทยาชาวต่างชาติเป็นรายแรกว่า เป็นผู้สร้างเครือข่ายสินบนมหาศาล (massive bribery network) จากคำสารภาพของลูกจ้างชาวจีนหลายคนที่ทำงานบริษัทดังกล่าวว่า Mr. Reilly เป็นผู้สุ่งใหดำเนินการดังกล่าวตั้งแต่ พ.ศ. 2552 นอกจากนั้น บริษัทยาและเวชภัณฑ์ต่างชาติอีกหลายแห่งก็กำลังถูกสืบสวนสอบสวนเช่นกัน
หวังว่า ตำรวจและ/หรือองค์กรที่คุ้มครองผู้บริโภคไทย จะได้ดำเนินการเช่นกัน เพราะค่าใช้จ่ายยาในไทยเมื่อเทียบกับค่ารักษาทั้งหมดในสัดส่วนที่สูงกว่หลายๆ ประเทศมาก (ดุหนังสือ "ฉลาดใช้ยา" ดังกล่าวข้างต้น)