ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ปรัชญา...จากหมากล้อม

(N)
....แต่ก่อนมีแม่ทัพคนหนึ่งเล่นหมากล้อมเก่งมาก ฝีมือแม่ทัพดีหาคนเล่นชนะได้ยาก และก็ภูมิใจในฝีมือตนมาก

กาลนั้น แม่ทัพเดินทางไปออกรบ ผ่านหมู่บ้านกันดาร เห็นบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่ง มีป้ายติดว่า “หมากล้อม อันดับ 1 ของแผ่นดิน”

แม่ทัพเห็นแล้วรู้สึกไม่ยอมรับในใจ จึงพักทัพ แวะเข้าไปหาเจ้าของบ้าน ขอประลองหมากล้อมด้วย

ปรากฎว่า เจ้าของบ้านแพ้ทั้ง 3 กระดาน

แม่ทัพยิ้ม เอามือลูบเครา พลางหัวเราะใส่เจ้าของบ้าน “เหอะๆ..แกเอาป้ายลงได้แล้ว”
แล้วแม่ทัพก็ไปออกรบด้วยความกระหยิ่มในฝีมือการวางหมากล้อม และวิสัยทัศน์ในกลยุทธของตน

หลังจากนั้นไม่นาน แม่ทัพรบชนะกลับมา ผ่านมาที่หมู่บ้านนี้อีก ก็ยังเห็นป้าย อันดับ 1 แขวนอยู่ที่บ้านหลังเดิม จึงอดฉุนไม่ได้ แม่ทัพเข้าไปหาเจ้าของบ้าน และท้าดวลหมากล้อมอีก

คราวนี้แม่ทัพบอกแกมขู่สำทับเจ้าของบ้านว่า เล่นให้ดี ถ้าชนะจะให้รางวัล แต่ถ้าแพ้จะปลดป้ายอวดดีที่ติดไว้หน้าบ้านทิ้ง

ปรากฎว่าครั้งนี้ แม่ทัพพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงทั้ง 3 กระดาน ไม่เหลือเค้าลางความเก่งเดิมที่เคยทะนงในฝีมือ

แม่ทัพประหลาดใจมาก ถามเจ้าของบ้านว่าเพราะอะไร ?
ไปฝึกที่ไหนเพื่อมาแก้มือหรือเปล่า ?

แม่ทัพรู้สึกไม่อาจยอมรับได้ว่าเจ้าของบ้านเก่งกว่า เลยอ้างว่าเพิ่งเดินทัพกลับมาอาจจะเหนื่อยล้าจึงพ่ายแพ้ พรุ่งนี้จะมาเล่นด้วยใหม่

เป็นอย่างนี้ สามวัน ทุกวันแม่ทัพแพ้หมากล้อมอย่างหมดรูป 3 กระดาน ทั้งสามวัน จนไม่อาจไม่ยอมรับว่าฝีมือตนด้อยกว่า และไม่มีเหตุผลใดกล่าวอ้างอีก จึงยอมรับนับถือฝีมือเจ้าบ้านอย่างจริงใจ ยอมตบรางวัลให้ตามสัญญา แต่ก็ยังอดถามไม่ได้ว่า แล้วทำไม

เจ้าบ้านขอร้องให้แม่ทัพรับปากว่าถ้าตอบตามจริงแล้วจะไม่มีโทษ แม่ทัพให้คำสัตย์

เจ้าของบ้านจึงตอบตามตรงว่า

เพราะท่านเป็นแม่ทัพ และข้าเป็นผู้น้อย
วันแรกที่เจอกัน ท่านเดินทัพไปรบ แต่กลับอดไม่ได้ต้องแวะมาลองฝีมือกับข้าพเจ้า ย่อมแสดงว่าท่านรู้สึกไม่ยอมรับนับถือผู้ใดในสิ่งที่ท่านคิดว่าท่านเก่งกว่า

อีกทั้งเมื่อเดินหมากท่วงทีกลยุทธเดินหมากท่านดุดันวางรุกรุนแรงหมายกินพื้นที่ไม่เหลือ มุ่งหมายชนะฝ่ายเดียว

ข้าพเจ้าจึงรู้ว่าแพ้ชนะมีผลต่อความมั่นใจของท่านในการออกรบ ครั้งก่อนนั้น ท่านกำลังมีภารกิจต้องไปออกรบ ข้าน้อยจะไปลบเหลี่ยม ทำให้ท่านหมดขวัญกำลังใจไม่ได้

แต่ครั้งนี้ ท่านชนะกลับมา และบังคับให้ข้าน้อยเล่นอีก ถ้าแพ้จะปลดป้ายของข้าน้อยออก จึงมิอาจออมมือให้แล้วขอรับ”

แม่ทัพพยักหน้ายอมรับในเหตุผล ที่เจ้าของบ้านอ่านได้กระจ่าง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าไม่พึงใจออกมา แต่ก็ไม่ว่ากระไร มอบรางวัลแล้วกลับไปยังทัพของตน

พอถึงที่พักก็คิดว่า คนที่อ่านกลหมากได้จนรู้ความคิดอ่านของตนย่อมจะเป็นภัย ใครรู้ว่าแม่ทัพแพ้หมดรูปขนาดนั้นถึงไหนอายถึงนั่น จึงสั่งลูกน้องคนสนิทให้ไปฆ่าเจ้าของบ้านเสีย

โดยให้เหตุผลว่าถ้าข้าศึกรู้ว่ามีคนนี้อยู่อาจเอาไปใช้เป็นประโยชน์ในการศึกคราวต่อไป แต่เมื่อไปถึง เจ้าของบ้านก็เก็บของและป้ายนั้นพร้อมออกเดินทางหายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว

หมากล้อมกระดานนี้ สอนให้แม่ทัพและพวกเรารู้ว่า....

คนที่เก่งจริงในโลกนี้ คือคนชนะได้ แต่ไม่จำเป็นต้องชนะ
มีใจกว้างขวางพอที่จะให้คนอื่นได้ชนะ ได้ภูมิใจในฝีมือของตน
ได้ไปรบในสนามรบของตนอย่างมั่นใจ

การใช้ชีวิต ก็เหมือนกัน.....
รู้ ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่พูด ใช่ว่าจะไม่รู้

หากคุณพูดในสิ่งที่คุณรู้ แต่เป็นเรื่องที่เจ้าของเรื่องไม่อยากให้รู้ หรือไม่คิดว่าคนอื่นจะรู้ คุณไม่ได้มิตร แต่คุณได้ศัตรู

คนทุกคนบอกว่ารับความจริงได้ ต้องการให้คุณพูดความจริง แต่พอคุณพูดแล้ว ใช่ว่าจะรับได้ทุกคน อาจจะโกรธคุณอีกต่างหาก ที่รู้ความจริงในใจ หรือความคิดของเขา

การที่เขาบอกให้คุณพูดความจริง ที่จริงแค่ต้องการจะรู้ว่าคุณรู้เท่าไหน แต่ไม่ได้หมายความว่ารับความจริงได้ เมื่อรู้ว่าคุณรู้เยอะมาก เยอะกว่าที่เขาคาดไว้ เขาย่อมโกรธคุณ เพราะ “รู้ทัน” หรือไม่ทำใจยอมรับได้ว่า ในเรื่องนั้นคุณเก่งกว่า รู้เยอะกว่าเขา

ต่อหน้าคนใจแคบ คุณต้องใจกว้าง ถ้าทำใจกว้างไม่ได้ ก็ต้องแกล้งโง่ เพราะไม่มีทางทำให้เขาพึงใจในความเก่งของคุณได้ ต่อให้เขายอมรับก็ยอมรับด้วยความรู้สึกไม่ยินยอม และมุ่งจะเอาชนะท่านให้ได้ มีแต่เสียกับเสีย

ต่อหน้าคนใจกว้าง คุณแสดงความสามารถได้ตามจริง เต็มเท่าที่คุณมี แต่ก็ยากนักที่จะเจอคนใจกว้างได้ง่ายๆ ในสังคมปัจจุบัน

คนเก่งหมากล้อมอ่านพินิจวิธีการเดินหมากล้อมก็เห็นความคิดอ่าน
คนเก่งใช้ชีวิต ก็ต้องอ่านพินิจวิธีคิดอ่านของคนที่ตนพบด้วย เพราะมีผลต่อการปฏิสัมพันธ์กันในอนาคต


*****************************

สาระดี ๆ มีประโยชน์..เอามาปรับใช้ในวงการนี้ได้ครับ


โดยคุณ เจ๋งจริง (10.2K)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 15:43 น.]



โดยคุณ looknam1 (2.6K)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 16:04 น.] #3634931 (1/14)
นับเป็นข้อเขียน บรมครูทีเดียว......


อ่านแล้วทำให้คิดได้หลายๆอย่าง เริ่มหันมามองตัวเองว่า

จนป่านนี้แล้ววิธีคิดของตอนเองนั้นพัฒนาไปในทางไหน
จุดยืนของตัวเองนั้น ยืนแล้วทำให้ตัวเองมีความสุขได้เพียงไหน

ผมนั้นเป็นเพียงนักเดินหมากล้อมฝึกหัด เล่นทีไรมักพ่ายแพ้ทุกที
แต่ทุกครั้งที่ได้เล่น ก็ยังสนุกและพยายามหายุทธวิธีมาแก้ทางคู่ต่อสู้เสมอ

แต่สุดท้ายก็ยังพ่ายมากกว่าชนะ แต่ผมมักมีความสุขในเกมส์ที่ผมชอบน่ะไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร

เพราะผมอาจไม่ได้ชอบในผลแพ้ชนะ แต่ผมชอบเกมส์...............


ขอบคุณอาจารย์หมีสำหรับข้อความดีๆอ่านแล้วมีความสุข

ขอบคุณมากๆครับ

โดยคุณ thanaanan (7K)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 16:41 น.] #3634939 (2/14)


(N)
ขอบคุณมากๆครับ



โดยคุณ pradee2010 (4.6K)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 17:11 น.] #3634957 (3/14)

โดยคุณ patuma9 (1.2K)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 17:12 น.] #3634958 (4/14)
แม่ทัพ แบบนี้คงไม่มีเพื่อนแน่ๆ
พอใหญ่โต มีคนนับถือ อาจตั้ง กฎ ให้เพื่อนคลานเข้ามาหาก็ได้
จากที่เคยมีเพื่อนหยอกล้อได้ เห็นว่าคนนับหน้าถือตา ก็คิดว่า ข้ายิ่งใหญ่
แล้วจะไปหาเพื่อนที่ไหน คนน่าจะเท่ากัน

โดยคุณ dangnadong (729)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 17:40 น.] #3634968 (5/14)
ดีครับ สอนให้รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ ไอ้โกะนี่ผมเคยลองเล่นดู แทบกลับบ้านไม่เป็นเลยครับ มึนตึ้บ

โดยคุณ JOMPOL10 (3.9K)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 19:19 น.] #3634993 (6/14)
" รู้ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่พูดใช่ว่าจะไม่รู้ " ชอบประโยคนี้ และ ชอบประโยคนี้ " สาระดี ๆ มีประโยชน์..เอามาปรับใช้ในวงการนี้ได้ครับ "



โดยคุณ nooing (29.3K)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 22:51 น.] #3635171 (7/14)
ขอบคุณครับท่าน ที่นำสิ่งดี ๆ มาเสนอ คิดตามข้อสรุปก็ดีมากครับ นำมาปรับใช้ได้ดีมาก


ผมมีมุมต่างจะสื่อนิดนึง ตามภาษานักเขียนนะครับ อาจจะเพิ่มแนวคิดอื่นบ้างต้องขออภัยนะครับ
ตามเรื่องก็เข้าใจดี แต่ตอนสรุป ผมว่ามันไปคนละประเด็นนะครับ

- ที่สรุปมา มันใช้กับคนที่ให้คุณให้โทษกับเราได้ ผมคิดว่าน่าจะเข้ากับคำว่า "รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง" รู้หลบเมื่อพบภัย รู้ห่างไกลเมื่อภัยมา ปัจจุบันคนแบบนั้นคงไม่มีแล้ว ที่จะมาสั่งฆ่าเราได้ น่าจะปรับใช้กับ คนที่ทำงานมีเจ้านาย อะไรควรพูดก็พูด อะไรไม่ควรพูดก็นิ่งไว้ เพราะเค้าให้คุณให้โทษกับเราได้ ประมาณพูดให้เจ้านายถูกใจ แล้วจะรุ่ง ได้ครับพี่ดีครับผมประมาณนั้น

- ในวงการพระ สิ่งที่ควรเก็บไว้ เช่น ความลับทางการค้า รังพระต่าง ๆ เทคนิคการดูพระบางรุ่นที่ลึกลับ ภาษาวงการเรียกว่า เก็บไว้กินเอง

- ในชีวิตจริงก็จริงที่อะไรควรพูดก็พูด อะไรไม่ควรพูดก็นิ่งไว้ เข้าทำนอง นิ่งเสียตำลึงทอง แต่ถ้าทุกคนมัวแต่อมพะนำ ไม่พูดความจริงต่อกัน มันก็อยู่กันยากนะครับ ถ้าคนรู้ไม่พูด เราจะรู้ได้ไงว่าใครเก่ง ถ้าคนรวยไม่ใช้จ่ายให้รู้ว่ารวย แล้วจะรวยไปทำไม ยกตัวอย่างเรื่องกฏกติกา ท่าน looknam1 รู้ดีมาก แต่ถ้ามัวแต่นั่งกลัวว่าคนจะเคือง ก็นิ่งเสียไม่ตอบตรง ๆ ให้ใคร มันจะเป็นยังไง ก็น่าคิดนะครับ

ผมว่าลองเปลี่ยนเป็น เราต้องยอมรับความคิดคนอื่น ใครพูดอะไรก็ฟัง ยิ่งเยอะยิางดี ยิ่งหลายแง่คิดมุมมอง เราก็คิดตามอะไรดีก็รับไว้ อะไรไม่ดีก็ปล่อยไป น่าจะดีกว่านะครับ เหมือนพุทธสุภาษิตที่ว่า สุสสูสัง ลภเต ปัญญัง ฟังด้วยดี ย่อมได้ปัญญา




โดยคุณ wattana09 (601)  [ศ. 05 มิ.ย. 2558 - 23:06 น.] #3635181 (8/14)

โดยคุณ ข้าวไทย (2.2K)  [ส. 06 มิ.ย. 2558 - 00:32 น.] #3635235 (9/14)
การชนะคนได้ด้วยการยอมแพ้นั่นคือการชนะที่แท้จริง ..........อมิตาพุทธ

โดยคุณ Wit-sp (254)  [ส. 06 มิ.ย. 2558 - 01:40 น.] #3635242 (10/14)
ดีครับ

โดยคุณ lordcoffee (3.3K)  [ส. 06 มิ.ย. 2558 - 10:38 น.] #3635326 (11/14)
ขอบคุณ บทความ และ ข้อคิด ดีๆครับ

โดยคุณ anan6699 (17K)  [ส. 06 มิ.ย. 2558 - 21:45 น.] #3635611 (12/14)
ชอบคำนี้มากเลยครับ....ชนะด้วยการไม่คิดเอาชนะ....

โดยคุณ รักเบ๊นซ์ (738)  [อา. 07 มิ.ย. 2558 - 23:10 น.] #3636047 (13/14)

โดยคุณ AnanBhangananda (2.2K)  [จ. 08 มิ.ย. 2558 - 07:49 น.] #3636099 (14/14)


ยอดเยี่ยมครับ ได้อ่านแนวคิดคมๆของพี่ๆอาวุโส...
ขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5