 (N)
เมื่อเวลา 09.00 น .ของวันนี้ที่ 4 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงพยาบาลอ่างทองหลังรับแจ้งว่าพระครูเขมสุตาภรณ์ หรือหลวงพ่อเชื้อ เจ้าอาวาสวัดเยื้องคงคาราม อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง มรณภาพด้วยโรคไตวาย หลังจากเดินทางไปถึงก็พบกับลูกศิษย์ลูกหากำลังแต่งตัวห่มจีวรให้กับหลวงพ่อ เชื้อ ก่อนจะนำศพกับมาทำพิธีภายในวัด ซึ่งทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ
พระครูเขมสุตาภรณ์ หรือหลวงพ่อเชื้อ นั้น ปัจจุบันอายุ 84 ปี บวชมาแล้ว 64 พรรษา ก่อนที่จะมรณภาพได้มีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวาน และโรคไต เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว มีการฟอกเลือดมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายแพทย์จะทำการฟอกเลือดให้อีกครั้ง แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากหลวงพ่อเชื้อมีความดันโลหิตที่ต่ำ เป็นอันตรายในการฟอกเลือด แพทย์และพยาบาลได้ทำการดูแลอาการอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเมื่อเวลา 06.55 น. หลวงพ่อเชื้อได้มรณภาพลงในอาการที่สงบ
พระสมพงษ์จตตมโล อายุ 25 ปี พระลูกศิษย์ของหลวงพ่อเชื้อ ได้กล่าวว่า อาตมาเป็นพระลูกศิษย์ ซึ่งดูแลปรนนิบัติหลวงพ่อมาตลอด หลวงพ่อร่างกายไม่ไหวมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว โดยบ่นเปรย ๆ ตลอดว่าเป็นห่วงวัด ซึ่งขณะนั้นที่วัดกำลังสร้างศาลาอยู่ หลวงพ่อก็จะบอกว่ายังเป็นอะไรไปไม่ได้ในตอนนี้ เป็นห่วงกลัวว่าศาลาจะสร้างไม่เสร็จ หากสร้างศาลาเสร็จแล้วจะเป็นอะไรก็เป็นกัน เพราะว่าในวัดไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง โบสถ์วิหารอะไรก็สร้างไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งเมื่อปีก่อนศาลาได้สร้างเสร็จเรียบร้อย หลวงพ่อก็เบาใจ จนกระทั่งป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล หลวงพ่อก็สั่งไว้ว่าหากเป็นอะไรไปก็ให้ดูแลวัดให้ดี รวมถึงให้ดูแลสุนัขตัวโปรดที่ชื่อเจ้าเชียร์ และเจ้าเงาะให้ดีด้วย
ด้านนายดิเรก บำเพ็ญบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเยื้องคงคาราม กล่าวว่า หลวงพ่อมีคนนับถือมาก มีลูกศิษย์ลูกหานับถือทั่วสารทิศ โดยในวันที่ 15 มิ.ย. 58 ที่จะถึงนี้จะถึงวันเกิดของหลวงพ่อ โดยหลวงพ่อได้ชอบลิเกมาก ได้ไปหาลิเกคณะพรเทพ พรเทวี ชุดใหญ่ทั้งคณะให้มาเล่นที่วัดในคืนวันที่ 14 มิ.ย. 58 โดยเป็นการเล่นในงานวันเกิดของหลวงพ่อ และนอกจากนั้นยังได้ไปติดต่อนางเอกลิเกดวงแก้ว ลูกท่าเรือ ให้มาเล่นร่วมกับลิเกพรเทพด้วย ซึ่งส่วนตัวหลวงพ่อชอบนางเอกลิเกดวงแก้วเล่นร่วมกับพระเอกพรเทพมาก สำหรับเรื่องศพของหลวงพ่อนั้นจะทำการตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเยื้อง โดยจะเก็บเอาไว้รอพระราชทานเพลิงศพหลังจากเลยวันเกิดของหลวงพ่อไปแล้ว ซึ่งรายละเอียดนั้นจะต้องปรึกษาหารือกับทางคณะกรรมการวัดเสียก่อน
สำหรับประวัตินั้น เดิมท่านเป็นคนบ้านข่อยใต้(อ.เมือง ลพบุรี ติดต่อเขต อ.ท่าวุ้ง) ได้บวชเรียนที่วัดข่อยใต้ตั้งแต่ยังเด็ก และได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านข่อยใต้(ปรมาจารย์ยุคแรกๆ ของลพบุรี) และได้จากวัดบ้านข่อยไปอยู่ ณ วัดถ้ำช้างเผือก(อยู่บนเทือกเขาสมอคอน ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง) ได้ศึกษาวิชาทางด้านวิปัสนากรรมฐานที่นั้น และได้กลับมาวัดบ้านข่อยอีกครั้ง เพื่อมาดูแลหลวงพ่อจันทร์ ในวัยชราภาพ จนหลวงพ่อจันทร์ได้มรณะภาพแล้วท่านจึงได้ธุดงตามป่าเขาเพื่อเสาะแสวงธรรม และได้กลับไปวัดถ้ำช้างเผือก อยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาได้มีชาวบ้านวัดเยื้องคงคาราม ในช่วงนั้นขาดผู้รู้หรือผู้ดูแลบูรณะวัด หลวงพ่อวัดถ้ำช้างเผือกจึงมอบหมายให้หลวงพ่อเชื้อให้มาบูรณะจะดูแลวัดที่ กำลังทรุดโทรมอย่างขณะนั้น โดยวัตถุโบราณสถานได้ทรุมโทรมมาก หลวงพ่อจึงได้รับ คำสั่งหลวงพ่อวัดถ้ำช้างเผือกและประชาชนแถวนั้นมาบรูณะ
ท่าน เป็นผู้พัฒนาวัดเยื้องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งปัจจุบัน ได้นำผงวัดสัมฤทธิ์มาทำเป็นพระสมเด็จที่เรียกกันว่า พระสมเด็จวัดเยื้อง ใช้แม่พิมพ์พระวัดเกตุที่โด่งดังไปทั่ว และมีพระเครื่องอีกหลายพิมพ์ที่หลวงพ่อได้ทำไว้ ประวัติการทำพระ ของท่านศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์เพราะการทำพระท่าน ท่านเองจะทำด้วยมือของท่านเองทุกองค์ และจะไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด ผง วัดสัมฤทธิ์ คือ ผงอิธิเจ ที่มีเทพมานิมิตหลวงพ่อให้ไปพบ แล้วให้นำมาบำรุงพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง คาดว่าอายุผงนี้อยู่ประมาณ ๔๐๐ กว่าปี เพราะเป็นวัดร้างสร้างในยุคอยุธยาตอนกลาง น่าจะราวๆสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(พบใบลานจารอักขรบอกไว้ว่าเป็นผงอิธิ เจ) ปาฏิหารของผงนี้ มีมากมาย เป็นที่ประจักแก่ผู้คนทั้งลพบุรี และอ่างทอง ตลอดจนผู้คนในบริเวณใกล้เคียงทั้งย่านแม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำเจ้าพระยา รู้จักกันดีในวงการพระสงฆ์ว่า วัดทุกวัดในเขตภาคกลางนี้เมื่อมีวาระจะต้องสร้างพระเครื่อง จะต้องมาขอแบ่งผงนี้ไปเป็นมงคลวัตถุผสมอยู่ด้วยทุกครั้ง จนปัจจุบันนี้หาผงนี้ไม่ได้อีกแล้ว คงเหลืออยู่เล็กๆ น้อยๆ กับคนที่รู้จริงและเลี่ยมใส่ตลับบ้าง ใส่หลอดบ้างเอาไว้บูชากัน แต่ก็หวงแหนกันยิ่งชีวิต
พระสมเด็จพิมพ์เกษไชโย หลวงพ่่อเชื้อ เนื้อมีหลายสี ขึ้นอยู่กับการผสมเนื้อแต่ละครั้ง พระจึงมีทั้งสีขาว ขาวออกเทาเข้มไปจนถึงดำ สีขาวออกเหลือง และมีบางองค์ได้มาเป็นสีขาวแต่พอใช้ไปสีกลับเป็นเหลืองเข้มขึ้นเรื่องๆก็มี เวลานี้หาไม่ได้อีกแล้ว ท่านจะสร้างพระในช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น ท่านจะสร้างไปเรื่อย ๆ เฉลี่ยประมาณวันละ 30กว่าองค์ วันไหนไม่ว่าง ไม่อยู่วัดก็ไม่ได้ทำ พรรษานึงก็จะได้พระไม่น่าจะเกิน 3000 องค์
สำหรับประสบการณ์ปรากฎว่ามีพุทธคุณ เด่นทุกทาง โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม และป้องกันตัวจากภยันตรายและวิชามารสายดำทั้งมวล จนผู้มีฐานะเหนือคนทั่วไปที่เคารพนับถือท่าน และเห็นประสบการณ์ตรงๆ เต็มๆ ต่างมาบูชาพระของท่านทุกรุ่นไปจนหมดวัด เหลือก็แต่ที่บรรจุใส่ไว้ในเจดีย์
ที่มา www.doopra.com |