ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ประวัติพระเกจิ "หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน"

(D)
หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน อำเภอสองพี่น้อง
หลวงพ่อโหน่ง ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2409 ที่ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง สุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ โต โยมมารดาชื่อ จ้อย อาชีพทำนา เมื่ออายุได้ 24 ปี พ.ศ.2433 ท่านก็อุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง โดยมีพระอาจารย์จันทร์ วัดทุ่งคอก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการดิษฐ์ วัดทุ่งคอก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการสุด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อหลวงพ่อโหน่งอุปสมบทแล้วท่านก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปจำพรรษาอยู่กับพระน้าชาย ซึ่งมีสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ต่อมาหลวงพ่อโหน่งท่านได้เห็นพระน้าชายมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ มีสิ่งของมากมาย ท่านจึงถามพระน้าชายว่าท่านสละกิเลสหมดแล้วหรือ หลังจากนั้นท่านก็ลาพระน้าชายกลับมาจำพรรษายังวัดสองพี่น้องตามเดิม หลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งคอก เพื่อศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับพระอธิการจันทร์ พระอุปัชฌาย์ของท่าน

หลวงพ่อโหน่งได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานอยู่กับหลวงพ่อจันทร์ได้ 2 พรรษา จึงได้เดินทางมาศึกษาวิปัสสนากรรมฐานต่อกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ตำบลโคกคราม อำเภอบางปลาม้า จนกระทั่งมีความรู้แตกฉาน เป็นที่ไว้วางใจของหลวงพ่อเนียมได้ เมื่อตอนหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยามาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเนียม หลวงพ่อเนียมได้พูดกับหลวงพ่อปานว่า "เวลาข้าตายแล้วเอ็งสงสัยอะไรก็ให้ไปถามโหน่งเขานะ โหน่งเขาแทนข้าได้"

เมื่อหลวงพ่อโหน่งกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสองพี่น้อง ท่านเกิดมีจิตใจไม่สบายอย่างไรชอบกล ท่านจึงเดินทางไปหาหลวงพ่อเนียมอีก ยังไม่ทันที่หลวงพ่อโหน่งจะกล่าวอะไร หลวงพ่อเนียมท่านพูดขึ้นก่อนว่า "ฮื้อ ทำไปเองนี่นา ไม่มีอะไรหรอก กลับไปเถอะ" หลวงพ่อโหน่งท่านจึงรู้สึกสบายใจกลับไปวัดสองพี่น้องได้

ต่อมาหลวง พ่อแสงผู้สร้างวัดคลองมะดัน ทราบว่าหลวงพ่อโหน่งเป็นผู้ที่จะมาแทนท่านได้จึงนิมนต์หลวงพ่อโหน่งให้มาจำ พรรษาอยู่ที่วัดคลองมะดัน เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านอาจารย์แสง เมื่อหลวงพ่อแสงมรณภาพลง หลวงพ่อโหน่งก็รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาส และเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา

เมื่อหลวงพ่อโหน่งท่านมาจำพรรษาอยู่ที่วัด คลองมะดัน ท่านฉันภัตตาหารเจ ก่อนออกบิณฑบาตจะมานมัสการต้นโพธิ์ทุกเช้า เมื่อบิณฑบาตกลับมาก็จะใส่บาตรถวายสังฆทาน ท่านเอามารดามาอยู่ที่วัดด้วยปรนนิบัติจนกระทั่งถึงแก่กรรม หลวงพ่อโหน่งท่านเคร่งครัดในการอบรมสั่งสอนพระเณรและลูกศิษย์วัด ไม่รับเงินทอง เจริญวิปัสสนากรรมฐานในป่าช้าเป็นประจำ ท่านถือสันโดษไม่สะสมทรัพย์สิน ท่านได้สร้างสาธารณูปการเพิ่มขึ้นอีกมากมาย หลวงพ่อโหน่งท่านล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้เสมอ พระเณรทำผิดอะไรที่ไหนท่านรู้หมดโดยที่ไม่มีใครมาบอกท่าน มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงพ่อปานจะไปหาหลวงพ่อโหน่งที่วัดคลองมะดัน หลวงพ่อโหน่งได้บอกกับลูกศิษย์ให้จัดเตรียมที่ทางไว้ วันนี้จะมีพระผู้ใหญ่มาหา และในวันนั้นหลวงพ่อปานก็ไปหาหลวงพ่อโหน่งที่วัดจริงๆ หลวงพ่อโหน่งท่านถึงแก่มรณภาพเมื่อวันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2477 สิริอายุได้ 68 ปี พรรษาที่ 44

หลวงพ่อโหน่งท่านได้สร้างพระเครื่อง ไว้ให้แก่ศิษย์เป็นพระเนื้อดินเผา สันนิษฐานว่าท่านสร้างไว้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2461 โดยใช้เวลาการสร้างนานถึง 10 ปี มีอยู่หลายพิมพ์ด้วยกันเช่น พิมพ์ซุ้มกอ พิมพ์ขุนแผนหน้าค่าย พิมพ์ปรุหนัง พิมพ์สมเด็จ พิมพ์ท่ากระดาน พิมพ์ชินราช พิมพ์พระเจ้าห้าพระองค์ พิมพ์ลีลา พิมพ์ปิดตา พิมพ์ขุนแผน พิมพ์ไสยาสน์ เป็นต้น

พระเครื่องของหลวงพ่อโหน่งล้วนแต่มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เป็นที่หวงแหนของ ชาวสุพรรณฯ พิมพ์ที่นิยมมากๆ ก็คือ พิมพ์ซุ้มกอและพิมพ์ขุนแผนหน้าค่าย

ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด
แทน ท่าพระจันทร์

โดยคุณ boonsak (485)  [จ. 14 ก.ย. 2552 - 22:01 น.]



โดยคุณ boonsak (485)  [จ. 14 ก.ย. 2552 - 22:07 น.] #839878 (1/3)
ศิษย์เอกของหลวงปู่เนียม

คุณมนัส โอภากุล (พ่อของคุณแอ๊ด คาราบาว) คนสุพรรณผู้เชี่ยวชาญและโด่งดังจากการรวบรวมค้นคว้าและเขียนเรื่องพระเกจิ อาจารย์และพระเครื่องเมืองสุพรรณบุรีจนเป็นที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่องได้ เขียนว่า สุพรรณบุรีมีพระเกจิอาจารย์ดังมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศ และพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ ผู้ทรงวิทยาคมที่ถือว่าเป็นที่สุดยอดของพระมหาเกจิ-เถราจารย์ของเมืองสุพรรณ ก็คือหลวงปู่เนียม

คุณมนัสกล่าวว่า ลูกศิษย์ของหลวงปู่เนียมที่ดังๆ ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศก็มีหลายรูปด้วยกัน ที่ท่านค้นคว้ามาได้มีหลวงพ่ออ่ำ แห่งวัดชีปะขาว อ.บางปลาม้า หลวงพ่อรูปนี้หลวงพ่อเนียมเป็นผู้บวชให้และมีศักดิ์เป็นหลานของท่านด้วย ที่ดังระดับประเทศก็คือ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน อ.สองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ผู้เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ และอีกรูปก็คือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) แห่งวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี

ไตรภาคี ตรีเพชร เซียนพระเครื่อง ท่านหนึ่งได้เขียนเรื่องของหลวงปู่เนียมและหลวงพ่อโหน่งไว้ในนิตยสารพระเครื่องชื่อ พุทโธ ฉบับที่ ๖ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๓๑ ว่าหลวงปู่เนียมเป็นพระนักปฏิบัติธรรม เชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน และมีวิทยาคมแก่กล้า ที่หลวงพ่อปานมาฝากตัวขอเป็นศิษย์ และได้รับการถ่ายทอดทั้งวิชาทางด้านวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมไปจนหมดสิ้น ครั้นเมื่อเรียนจบแล้วก่อนจะลากลับสู่สำนักเดิม หลวงปู่เนียมยังได้ส่งเสียว่าในวันข้างหน้าถ้าติดขัดสงสัยในเรื่องคำสอนของ ท่าน ขอให้ไปสอบถามหลวงพ่อโหน่ง ศิษย์รุ่นพี่ (ห่างกันหลายปีและไม่ทันเห็นกันในขณะนั้น) โดยบอกว่า ถ้าข้าตายไปแล้ว หากสงสัยอะไร ให้ไปถามท่านโหน่ง วัดคลองมะดัน เขาพอแทนข้าได้

ใหญ่ ท่าไม้ เซียนพระ เจ้าของนิตยสารพระเครื่องดังของเมืองไทยอีกท่านหนึ่ง ได้เขียนถึงความเป็นพระอริยสงฆ์ของหลวงปู่เนียมและหลวงพ่อโหน่งศิษย์อาวุโสของท่าน ในนิตยสารพระเครื่องชื่อ มหาโพธิ์ ฉบับพิเศษ ที่ ๑๓ ว่าหลวงปู่เนียมและหลวงพ่อโหน่งเป็นพระผู้มีอภิญญาสูง รู้เวลาตายของตนเอง เพราะทั้งสองท่านมรณภาพในท่านอนพนมมือ

โดยคุณ Ronado (10.2K)  [จ. 14 ก.ย. 2552 - 23:26 น.] #840016 (2/3)
สุดยอดเลยครับ

โดยคุณ บ้านพระ (4.7K)  [อ. 15 ก.ย. 2552 - 10:51 น.] #840494 (3/3)
..<<เยี่ยม>>..

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5