(D)
เฉลิมพระเกียรติ"7รอบปีฉลูนักษัตร"สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
ซึ่งจะเวียนมาบรรจบครบ 84 พรรษา
ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552
พระราชธิดาพระองค์เดียวในล้นเกล้ารัชกาลที่ 6
สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า
เป็นเวลา ๘๔ ปีล่วงมาแล้ว ที่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ประสูติมาเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย คนที่มีอายุตั้งแต่ ๕๐ ปีขึ้นไปคงพอจำได้ว่า ในอดีต สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ จะเสด็จไปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจพร้อมด้วย พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี พระชนนีเสมอ แต่คนรุ่นใหม่น้อยคนนักจะรู้จักพระชนนีของสมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์นั้น
อีกไม่กี่เดือน ในวันอังคารที่ ๒๔ พฤศจิกายน ศกนี้ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ จะทรงเจริญพระชนมายุ ๗ รอบ เป็นสมัยอันควรแก่การเฉลิมฉลอง จึงขอนำเสนอเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงความรักและผูกพันของ เจ้าฟ้า กับ แม่ก๊ะ ทั้งสองพระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐของปวงชนชาวไทย
พอพระเจ้าอยู่หัวองค์ใหม่เสด็จกลับออกไปจากห้องแล้ว ฉันก็กอดลูกร้องไห้ต่อไปอีก ..ต่อจากวันนั้นก็ไม่เป็นอันกินอันนอน...
รับสั่งสั้นๆ แต่สะเทือนใจนี้ เป็นของพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖ ที่ทรงเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อแรกประสูติ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ แต่แล้วเพียงวันเดียว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระสวามี ก็ด่วนเสด็จสวรรคตจากไปอย่างกะทันหัน
สองปีก่อนพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเสด็จสวรรคต คุณเครือแก้ว อภัยวงศ์ กุลนารีผู้มีความสามารถด้านการขับร้อง รับราชการในกรมมหรสพ ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นเจ้าจอม ครั้นมีครรภ์พระหน่อ ก็ได้รับพระราชทานสถาปนาในที่ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี
จริงอยู่ ความวิปโยคโศกเศร้าจากการสูญเสียสามีไปอย่างรวดเร็วเกินคาดฝันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสของสตรีวัยเพียง ๒๐ แต่นั่นคงยังน้อย หากเทียบกับเหตุการณ์สตรีชาววัง ผู้เพิ่งได้รับพระราชทานสถาปนาขึ้นเป็นราชนารี แล้วพลันต้องสูญเสียสามีผู้เป็นพระมหากษัตริย์ และนั่นยังไม่เท่าความรักและเป็นห่วงของแม่ต่อพระธิดาผู้เพิ่งประสูติได้เพียงวันเดียว ก็ทรงเป็นกำพร้าพระชนกเสียแล้ว
พระนางเจ้าสุวัทนาฯ หรือที่ชาววังออกพระนามเรียกขานว่า เสด็จพระนาง ทรงมุ่งมั่นอภิบาลสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นความรักและทุ่มเททั้งหมดในพระชนมชีพ คุณหญิงนิธิวดี อ้นตระการ ข้าในพระองค์ เล่าว่า ...เสด็จพระนางฯ กับสมเด็จฯ บรรทมด้วยกันบนพระแท่นเดียว เสด็จพระนางบรรทมข้างหนึ่งฯ สมเด็จฯ บรรทมข้างหนึ่ง สมเด็จฯ ท่านร้อนง่าย พอร้อนหน่อยก็จะกันแสงโยเย สมัยก่อนยังไม่มีพัดลมไฟฟ้า ...เสด็จพระนางฯ โปรดให้ข้าหลวงไปอยู่งานพัดทางฝั่งที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ บรรทม เพื่อลมจะได้ตกถึงสมเด็จฯ ก่อน จะได้ทรงสบาย ส่วนลมที่เหลือค่อยตกถึงเสด็จฯ จะเย็นบ้างไม่เย็นบ้างก็ไม่เป็นไร ...ท่านรักลูกท่านเหลือเกิน
ตั้งแต่เมื่อแรกรับสั่งได้ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ทรงเรียกพระชนนีว่า แม่ก๊ะ ซึ่งเลือนมาจากพระสุรเสียง แม่คะ อย่างเด็กหัดพูด ครั้นเจ้าฟ้าหญิงทรงเจริญพระวัย พระชนนีก็ทรงจัดการศึกษาถวายอย่างเต็มที่ จนสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ มีพระอัจฉริยภาพหลายประการ เช่น ทรงคำนวณปฏิทินร้อยปีได้ในพระทัยอย่างแม่นยำ ทรงเปียโนได้คล่องแคล่งโดยไม่ต้องทอดพระเนตรโน้ต ที่เรียกว่า play-by-ear ทรงสนพระทัยภูมิศาสตร์ ทิศทาง และเวลา ทั้งยังทรงงานเย็บปักถักร้อยอย่างกุลสตรีได้เป็นอย่างดี
ในยามที่ต้องเสด็จนิราศไปประทับ ณ ประเทศอังกฤษ เพื่อความปลอดภัยจากเหตุการณ์หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง และเพื่อการเสด็จไปทรงศึกษาต่อและรักษาพระอนามัยของเจ้าฟ้าหญิง พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ยิ่งต้องทรงพระอุตสาหะเป็นทวีคูณ จากที่ไม่เคยต้องทรงสนพระทัยเรื่องธุรกิจ ก็ต้องทรงเริ่มศึกษา เรื่องภาษาก็ต้องทรงเรียนอย่างจริงจัง จนหญิงชาววังที่ดูเหมือนจะไม่ต้องต่อสู้อะไรกับโลกภายนอก กลับกลายเป็นสตรีผู้เก่งกล้า ทรงใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว ทรงติดต่อเจรจาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และหลักทรัพย์ เพื่อหารายได้มาผดุงพระเกียรติยศของพระธิดา ครั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ต้องทรงอดออมยิ่งเพราะทางเมืองไทยก็ไม่อาจส่งเงินส่วนพระองค์ไปถวายได้ ต้องทรงงานบ้านเอง และทรงพาเจ้าฟ้าหญิงลี้ภัยออกไปประทับอยู่ที่แคว้นเวลส์
พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ทรงคำนึงถึงการรักษาพระเกียรติศักดิ์ความเป็นราชนารีไทยของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ และพระองค์เองไว้อย่างเคร่งครัด สังคมในสมัยนั้นยังเพ่งเล็งการวางตัวของสตรีมากกว่าบุรุษ จึงทรงวางพระองค์เปิดเผย ไม่ให้ใครนินทาว่าร้ายได้ พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ทรงจ้างข้าหลวงรับใช้เป็นสตรีทั้งสิ้น
เมื่อเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวรในปี ๒๕๐๒ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ กับพระนางเจ้าสุวัทนาฯ ประทับ ณ วังรื่นฤดี สุขุมวิท ๓๘ อย่างเรียบง่าย และทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจเพื่อประชาชนมากขึ้นเป็นลำดับ ไม่ว่าจะใกล้ไกลเพียงใดก็เสด็จไปถึงทั่วทุกภาคของประเทศ พระนางเจ้าสุวัทนาฯ โปรดสร้างถาวรวัตถุเพื่อสาธารณประโยชน์ แต่ก็ไม่เคยโปรดที่จะออกพระนามพระองค์เอง แต่ให้ออกพระนามสมเด็จเจ้าฟ้าฯ แทนเสมอ
การเลี้ยงลูกที่เป็นเจ้าฟ้า ให้ทรงบริบูรณ์ด้วยพระจรรยามารยาทและพระเกียรติคุณ เป็นที่นิยมนับถือของมหาชนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวที่มีกำเนิดเป็นสามัญชน ทั้งยังประสบเคราะห์กรรมตกตั้งแต่วัยสาว แต่แล้ววันเวลาผ่านไปหลายทศวรรษ เจ้าฟ้าหญิงก็ทรงพระเจริญขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ ที่ทรงเพียบพร้อมด้วยพระจริยวัตรอันงามสมพระทัยและความวิริยอุตสาหะของพระชนนีทุกประการ และทรงเจริญพระชนมายุสูงสุดในหมู่พระบรมวงศ์ ณ กาลบัดนี้
ขอสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.
ดร.ชัชพล ไชยพร เรียบเรียง |