(0)
พระปิดตาทองล่ำอู่หลวงพ่อเริ่มสวยเดิมผงเต็มๆครับ








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระปิดตาทองล่ำอู่หลวงพ่อเริ่มสวยเดิมผงเต็มๆครับ
รายละเอียดพระปิดตาทองล่ำอู่นี้เป็นพระปิด ตาที่สร้างโดยคุณชินพร สุขสถิตย์ ให้หลวงพ่อเริ่ม ได้ปลุกเสกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘...ด้วยความเข้าใจผิดคิดไปว่าปิดตาทองล่ำอู่และปิดตาหงษ์ทองปรโม สร้างโดยคุณชินพร เพราะพิมพ์เหมือนกัน แต่จริงๆแล้วมีข้อแตกต่างกัน
...พระปิดคาทองล่ำอู่ สร้างโดยอาจารย์ชินพรในปี๒๘ โดยนำทองเหลืองที่ทางชลบุรีเรียกว่า"ทองล่ำอู่"มาสร้าง(ในรายละเอียด ผมไม่รู้ว่ามีการนำแผ่นยันต์อะไรมาสร้างด้วยหรือเปล่า และทองเหลืองที่นำมาสร้างมีการเอาไปรีดเป็นแผ่นลงอักขระก่อนหรือไม่) แต่สิ่งที่สำคัญคือการอุดผง...ปิดตาทองล่ำอู่นี้ไม่มีการฝังตะกรุดนะครับ แลพิมพ์เป็นบัวคว่ำบัวหงาย ที่เรามักเรียกกันว่า บัวสองชั้น หลังตอกโค้ด"ร". ส่วนสำคัญคือผงที่อุด
1.ผงขูดจากกะลาไม่มีตาของหลวงปู่เริ่ม
2.ผงขูดจากกะลาไม่มีตา(ที่ได้มาจากพระหลานเหลนของหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์)
3.ผง12นักษัตร
4.สีผึ้งเจ็ดจันทร์
5.ผงพุทธคุณต่างๆของหลวงปู่เริ่ม
6.ผงของหลวงปู่ทิม(ลูกอมผงพรายกุมารที่แตกหักและพระสิวลีที่แตกหัก)
7.ผงจากเศษกรามช้างที่ได้จากการแกะ(ไม่มีใครเขียนถึงเลย)
8.ผงเศษไม้ที่ได้จากการแกะปลัดขลิกไม้คูณ(อันนี้ก็ไม่มีใครเขียนถึงเลย)
ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยว่าพระปิดตาทองล่ำอู่นั้น เด่นไปทางโชคลาภและน่าจะเสริม(จากมีไม้คูณ----ถ้าผมจำไม่ผิด เคยมีคนบอกว่าไม้คูณดีเด่นไปทางได้เสริมดวงประมาณนี้ครับ)
สำหรับปิดตาหงษ์ทองปรโม เป็นพระปิดตาที่สร้างในปีเดียวกันคือปี๒๕๒๘ หลังจากสร้างพระปิดตาทองล่ำอู่แล้ว โดยนำพิมพ์มาปรับตรงฐานโดยสร้างเป็นพระบัวชั้นเดียวและใส่เกลียวเชือกสอง เส้น ตอกโค้ดเหมือนกัน แต่ต่างกันที่การอุดผงกับฝังตะกรุด
ผงที่อุดได้แก่1.ผง ๑๒ นักษัตร
2.ผงกะลาไม่มีตาของหลวงปู่เริ่ม
3.ผงพุทธคุณของหลวงปู่เริ่ม
4.สีผึ้งเจ็ดจันทร์
5.เส้นเกศาของหลวงปู่เริ่ม
สำหรับตะกรุดที่ฝังเป็นตะกรุดหงษ์ทอง(ตรงนี้ผมไม่มีความรู้ครับ).และอ่านไม่ เคยเจอว่า มีการผสมผงของหลวงปู่ทิมด้วยหรือไม่ เพราะปิดตาหงษ์ทองปรโมนั้นสร้างโดยวัดเอง ผมก็ไม่ทราบว่าใช้ทองเหลือง"ทองล่ำอู่"เหมือนกับปิดตาทองล่ำอู่หรือเปล่า และที่บอกกันว่าหลวงปู่เริ่มมีนิมิตเห็นแก้วแหวนเงินทองเต็มไปหมดก็อ่านเจอ ในประวัติของปิดตาทองล่ำอู่เท่านั้น ผมไม่เคยอ่านพบในพระปิดตาหงษ์ทองครับ
...ดังนั้นพระปิดตาหงษ์ทอง จะฝังตะกรุดและมีเส้นเกศาของหลวงปู่เริ่ม
ผมหลงเข้าใจผิดมาตั้งนานว่า พระปิดตาทองล่ำอู่คือพระปิดตาหงษ์ทองปรโม สร้างพร้อมกันแต่ต่างพิมพ์กัน และเห็นใครๆที่ลงขายกันก็เรียกกันแบบแทนกันไปแทนกันมา พอมานั่งอ่านข้อมูลบางอย่างแล้วถึงรู้ว่าไม่ใช่
หลวงปู่เริ่ม ปรโม (๙) โดย อ.เล็ก พลูโต พระปิดตาเนื้อทองลำอู่ (โดย ชินพร สุขสถิตย์)“ศูนย์มีค่ามากกว่าหนึ่ง” ขณะกำลังลงมือดำเนินการสร้าง พระกริ่งปรโมใหม่ ๆ ผมและเพื่อน ๆ ๕-๖ คน ได้ไปกราบนมัสการ หลวงพ่อเริ่ม ที่วัดจุกกะเฌอ คุยกับท่านได้สักครู่ท่านก็หยิบ กะลา มาให้ดูลูกหนึ่ง และบอกว่า แสวงหามาเกือบ ๖๐ พรรษา จนอายุย่างเข้า ๘๐ ปีแล้ว ก็เพิ่งจะได้มาใบนี้แหละ เขาเรียกว่า คดมะพร้าว หรือ กะลามหาอุตม์ เป็นกะลาไม่มีตา


ท่านก็กล่าวกับผมต่อไปว่า ช่วยเอาไปทำพระปิดตาให้ทีเถอะ จะได้ดังระเบิดเหมือนของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์บ้าง และท่านก็กล่าวต่อไปอีกว่า ท่านเจ้าคุณอุปัชฌาย์สั่งไว้ว่า ถ้าจะสร้างพระปิดตาให้ถูกต้องตามตำราหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ให้หา “กะลาไม่มีตา” หรือ คดมะพร้าว ผสมลงไปด้วย เสร็จแล้วท่านก็ส่งกะลาใบนั้นมาให้ผมดู เป็นกะลาไม่มีตาจริง ๆ ท่านบอกว่า เนื้อน้ำแห้งอยู่ในนั้นหมด


ผมเองนั้นเคยอ่านพบเรื่องของกะลาไม่มีตาว่า “ศูนย์มีค่ามากกว่าหนึ่ง” ศูนย์นั้นหมายถึง กะลาไม่มีตา หรือเขาเรียกว่า คดมะพร้าว ส่วนหนึ่งนั้นหมายถึง กะลาตาเดียว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงนักนิยมพระเครื่องรางของขลังว่า กะลาตาเดียวนั้นนับว่าเป็นยอดของกะลา ตามตำราท่านว่าเอามาทำเครื่องรางได้สารพัด เช่น ราหูอมจันทร์ หรือ บดเป็นผงทำเป็น ผงสุริยประคา และผงจันทรประภา คือ ผงมหานิยมซึ่งทำจากกะลาตาเดียว ทำพิธีปลุกเสกตอนเกิดจันทรคราส หรือ เกิดสุริยคราส เรียกว่า ผงสุริยประภา และจันทรประภา จัดเป็นผงมหานิยมชั้นสูง อันเป็นผลได้มาจากกะลาตาเดียว

ส่วนกะลาไม่มีตา หรือ คดมะพร้าวนั้น ตามตำรากล่าวว่า นอกจากจะเป็นมหาอุตม์โดยกำเนิดของตัวเอง ที่มีทั้งน้ำและเนื้อแห้งเหือดอยู่ภายใน อุดจนไม่สามารถระเหยออกไปได้แล้ว ยังอุดมโชคอุดมลาภ อีกทั้งถ้าตกอยู่กับผู้ใด จะส่งผลทำให้มีชื่อเสียง อุดมด้วยลาภยศเงินทองเหนือกว่าคนในแวดวง หรือ วงการเดียวกัน

ผมเองนั้นความโลภก็มีเป็นธรรมดาเหมือนเขาทั้งหลาย ใจหนึ่งก็อยากได้ ใจหนึ่งก็เห็นใจหลวงพ่อเริ่ม เพราะท่านบอกว่าท่านเสาะหามาเกือบ ๖๐ พรรษา เพิ่งจะมาพบเข้าลูกนี้แหละ ผมก็เลยบอกว่า หลวงพ่อเก็บไว้เถิด ผมขอขูดเอาไปแต่ผงเท่านั้นก็พอ เพราะตามตำราบอกว่า เพียงเอาแต่เปลือก หรือผงของกะลาลูกนี้ก็มีอานุภาพพอกัน ไม่จำเป็น่ต้องเอาไปเผาเพื่อบดเอาทั้งเนื้อและน้ำที่เหือดแห้งอยู่ แต่ขอให้หลวงพ่อเก็บไว้ อย่าให้ใครอีก เป็นเหตุให้ คุณเชิดศักดิ์ ภูมิสวัสดิ์ ศิษย์เอกหลวงพ่อคูณซึ่งนั่งอยู่ต่อว่าว่า ทำไมไม่เอามา จะได้เอาไปทำลูกประคำมาใช้กัน เพราะหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ก็สั่งให้หา ดังนั้น เราจึงขอให้หลวงพ่อเริ่ม ขูดผงจากกะลาไม่มีตาลูกนั้นให้เป็นประเดิม โดยใช้หางกระเบน แล้วพวกเราก็ช่วยกันขูดต่อ ได้ผงมามากพอสมควร

วันนั้นเมื่อพวกเรากราบลาหลวงพ่อเริ่มกลับกรุงเทพฯ พร้อมผงจากกะลาไม่มีตามาด้วยแล้ว ผมก็อธิษฐานในใจว่า ด้วยเหตุที่ไม่เกิดความโลภ ในกะลาของหลวงพ่อทั้ง ๆ ที่อยากได้ก็ขอให้ผมได้กะลาไม่มีตาสักใบเถิด

พูดไปก็เหลือเชื่อหรือไม่ ก็จะหาว่าเป็นการยกยอตัวเองมากเกินไป อาทิตย์ถัดมาผมเข้าไปในตลาดพระเครื่องที่ศรีย่าน ก็มีคนเอากะลาไม่มีมามาขายผมในราคา ๒,๐๐๐ บาท เป็นกะลาที่เก่าพอสมควร และถักลวดแบบโบราณไว้ด้วย ก่อนที่จะผ่านมาถึงมือผม กะลาใบนี้ถูกเสนอให้พวกนักเลงพระ ๒ ราย ในตลาดศรีย่าน และสองคนนั้นไม่เชื่อ เป็นเหตุให้ตกมาถึงมือผม และผมก็ตกลงซื้อ และจ่ายเงินไปทันที ชั่วเวลาถัดมาไม่ถึง ๑๐ นาที ก็มีคนถึง ๒ คน มาขอซื้อต่อจากผมในราคาที่ผมน่าจะพอใจ แล้วเรื่องอะไร ผมจะไม่ขาย ?

ที่ผมบอกกับหลวงพ่อเริ่มว่า เพียงแค่ขูดเอาผงจากผิวกะลามาใช้ก็มีอานุภาพเท่ากับเอากะลาไปเผาแล้วบด เพราะจากการที่ผมไปขุดค้นเรื่อง พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี นั้น ก็ได้ยินมาว่า หลวงพ่อแก้ว ท่านก็เพียงแต่ขูดเอาผงจากกะลาไม่มีตาผสมกับผงพุทธคุณต่าง ๆ แล้วทำเป็นพระปิดตา หาได้เผาแล้วบดผงไม่ และได้ทราบว่า กะลาลูกที่หลวงพ่อแก้วใช้สร้างพระปิดตานั้นยังเหลืออยู่ แต่บางมากแล้ว และสืบได้ความว่า ครั้งสุดท้ายกะลาลูกของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ตกไปอยู่กับ หลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ และก่อนที่หลวงพ่อปานจะมรณภาพ ท่านป่วยกะเสาะกะแสะ เพราะความชราภาพ ลูกหลานจึงรับไปพยาบาลรักษาที่วัดแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้บ้าน และลูกหลานที่รับท่านได้ขนเอาข้าวของ พระบูชาในกุฏิท่านไปด้วย แต่ก็สืบไม่ได้ว่าลูกหลานท่านเป็นใคร อยู่ที่ใด และได้กะลาลูกนั้นไปจริงหรือไม่ ?

จวบจน คุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ เพื่อนรุ่นน้องซึ่งรักนับถือกันเสมือนญาติได้มาเล่าให้ฟังว่า ได้ไปพบ พระปิดตา และเหรียญของหลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ ซึ่งตกทอดอยู่กับลูกหลานของท่าน พร้อมกับ “กะลาไม่มีตา” อีกใบหนึ่ง ผมก็เลยแนะนำคุณเพียรวิทย์ให้พยามยามไปตีเอามาให้ได้ เสียเท่าไรเสียไป จนในที่สุดคุณเพียรวิทย์ก็ไปได้มาทั้งหมด เพราะนอกจากกะลาใบที่ว่านี้แล้ว คุณเพียรวิทย์ยังเอาพระปิดตา และเหรียญของหลวงพ่อปานมาเสียจนหมด

กะลาลูกที่คุณเพียรวิทย์เอามานี้ ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่า เป็นใบเดียวกับที่หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ใช้ขูดผงมาผสมทำพระ เพราะสืบทราบได้ความว่า เมื่อกะลาใบนี้มาตกอยู่กับ หลวงพ่อถัน นั้น ท่านหวงมาก ใครจะไปขอดูท่านก็ไม่หยิบมาให้ดู เอาบูชาไว้ในที่บูชาพระ ท่านว่าเป็นของสูง เป็นของครูบาอาจารย์ และเมื่อกะลาใบนี้มาตกอยู่กับหลวงพ่อปาน ท่านก็หวงมากเช่นกัน ไม่หยิบให้ใครดูง่าย ๆ ประกอบกับหลวงพ่อปานเป็นพระอาวุโส และไม่ยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์ อีกทั้งท่านเป็นพระดุ จึงไม่กล้ามีใครไปรบกวนท่าน แต่ก็มีหลายคนสงสัย เหตุใดท่านจึงเอากะลาใส่พานบูชาไว้

ท่านเคยบอกว่ากะลาใบนี้เป็นของสูงหายาก เป็นของตกทอดมาจากครูอาจารย์ กะลาใบนี้เป็นกะลาค่อนข้างใหญ่ ถูกขูดเสียจนบางมาก เข้าใจว่าทั้งหลวงพ่อแก้ว หลวงพ่อถัน และ หลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ ต่างก็ขูดเอาผงจากกะลาใบนี้มาผสมทำพระปิดตาของท่าน จนเป็นเหตุให้มีชื่อเสียงโด่งดังลือลั่นมาจนทุกวันนี้

เมื่อผมได้ข่าวว่าคุณเพียรวิทย์ไปตีเอากะลาของหลวงพ่อแก้วใบนี้มาได้แล้ว พอดีขณะนั้นผมกำลังสร้าง พระปิดตาเนื้อโลหะทองลำอู่ อยู่พอดี ก็เลยไปเยี่ยมถึงบ้านที่ จ.ระยอง พร้อมกับของขูดผง่จากกะลาใบนี้มาผสมเพื่อ “อุดก้น” พระปิดตามหาลาภเนื้อทองลำอู่ด้วย ซึ่งคุณเพียรวิทย์ก็ไม่ขัดข้อง

เป็นอันว่า พระปิดตาเนื้อทองลำอู่ จึงมีผงจากกะลาไม่มีตาถึง ๒ ใบ ผสมกับผงพุทธคุณของหลวงพ่อเริ่ม อันได้แก่ ผง ๑๒ นักษัตร ผงเมตตามหานิยม ผงพุทธคุณ ดินจากสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง ผสมกับผงของหลวงปู่ทิม และ เม็ดลูกปะคำ ตลอดจนพระสิวลีของหลวงปู่ทิมที่แตกหักชำรุด

นอกจากนี้ยังมีของสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ สีผึ้ง ๗ จันทร์ ของหลวงพ่อเริ่ม เป็นตัวประสาน โดยตำผงทั้งหลายเข้าด้วยกัน แล้วเราก็นำมาบรรจุใต้ฐานพระปิดตาเนื้อทองลำอู่ ซึ่งเจาะเป็นรูไว้ใต้ฐานพระ

พระปิดตาเนื้อทองลำอู่ สร้างเพียงเนื้อเดียว เนื้อพิเศษอื่น ๆ ไม่มี มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๕๒๘ องค์ และมีเศษสำหรับแจกอีกจำนวนหนึ่ง ลักษณะเป็นพระปิดตาหล่อลอยองค์ ประทับบน ฐานบัวชั้นเดียว เมื่อบรรจุผงเสร็จได้นำไปให้ หลวงพ่อเริ่มปลุกเสก ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ๒๕๒๘ เรื่อยมา จนไปรับพระชุดนี้กลับมาดำเนินการออกให้บูชาเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๘

เมื่อได้ถวายพระปิดตาชุดนี้ให้หลวงพ่อเริ่ม จำนวน ๑,๐๐๐ องค์ แล้ว พวกเราก็ได้ขอบูชาเป็นประเดิมกัน คนละ
ราคาเปิดประมูล500 บาท
ราคาปัจจุบัน4,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 13 ธ.ค. 2554 - 22:38:02 น.
วันปิดประมูล - 23 ธ.ค. 2554 - 22:38:02 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลjoymonton (1.7K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     4,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM