(0)
พระพิมพ์สมเด็จหลังอุ เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระพิมพ์สมเด็จหลังอุ เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ
รายละเอียดองค์นี้ผิวเดิม สวยมาก เพียงมีรอยรานด้านล้างเท่านั้น

ประวัติการสร้าง “พระสมเด็จ หลังอุ” ในบรรดาพระเนื้อผงทั้งหมดทุกพิมพ์ ที่อธิษฐานจิตโดยท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (แปลว่า “คนดีที่มีพระเจ้าแผ่นดินทรงยกย่องนับถือ”)นั้น "พระสมเด็จ หลังอุ" เป็นพระพิมพ์แรกที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของกันแทบทุกคน พระสมเด็จ หลังอุ ที่ได้นามว่า “อุ” ก็เพราะด้านหลังของพระสมเด็จพิมพ์นี้มีอักษรขอม อ่านว่า “อุ” แกะลึกลงในเนื้อพระเห็นได้ชัดเจน คำว่า “อุ” ย่อมาจากคำว่า อุดมหรืออุตมะ มีความหมายถึงสูงสุด หรือประเสริฐสุด ซึ่งเป็นอักษรคำแรก หรือสมณศักดิ์ของผู้สร้างพระสมเด็จ หลังอุ คือ ท่านเจ้าคุณพระอุดมสารโสภณ จึงได้ถือเอามงคลนามที่ได้รับพระราชทานนี้ตั้งนามพระสมเด็จที่สร้างขึ้นว่า “พระสมเด็จ หลังอุ” ท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ ได้สร้างพระสมเด็จ หลังอุ ประมาณกลางพรรษา ปี 2512 โดยสร้างขึ้นจากผงต่างๆ ดังนี้ 1. ผงแป้งเจิมพระพุทธมงคลนายก ซึ่งเหลือจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจิมพระพุทธมงคลนายก (ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามให้) ตอนถวายผ้าพระกฐิน พ.ศ.2508 2. ผงธูปจากพิธีอธิษฐานจิตพระพุทธมงคลนายก พระกริ่งเชียงแสน แผ่นยันต์ดวง ทอง-เงิน-ทองแดง เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2508 เวลา 16.30 น. 3. นอกจากนี้ยังมีผงพระเครื่องเก่าๆ เช่น เศษแตกหักจากพระสรงน้ำสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ปี 84 และสรงน้ำเกาหลี ปี 93 และที่ท่านเจ้าคุณอุดมฯ เก็บสะสมไว้อีกด้วย ฉะนั้นผงต่างๆ ดังกล่าว จึงเป็นวัตถุมงคลที่ผ่านการอธิษฐานจิตโดยท่านเจ้าคุณนรฯ มาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนำไปสร้างเป็นพระสมเด็จ หลังอุ สำหรับผู้แกะพิมพ์พระสมเด็จ หลังอุ ก็คือช่างเล้ง (ธีระศักดิ์ ธรรมชาตรี ซึ่งปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี) มีจำนวนสร้างทั้งสิ้น 3,000 องค์ เป็นพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ คล้ายสมเด็จวัดระฆังฯ มีขนาดด้านยาว 3.4 ซม. ด้านกว้างบน 2 ซม. ด้านกว้างล่าง 2.2 ซม. สีของพระจะเป็นสีขาวปนเหลือง บางองค์สีเหลืองปนเทาก็มี ด้านหน้า และด้านหลังมีพิมพ์เดียว พิมพ์แรกๆ จะมีเส้นคอ และตรงฐาน 3 ชั้น ด้านซ้ายขององค์พระจะมีเส้นน้ำตกวิ่งจากบนลงมาล่าง ต่อมาตำหนิเหล่านี้ถูกแป้งโรยพิมพ์อุดทับ ทำให้ตำหนิเหล่านี้หายไป เนื่องจากแม่พิมพ์ทำจากวัตถุทำฟัน ต่อมาองค์พระด้านหน้าบางแห่งจะเกิดรอยร้าว บางแห่งแม่พิมพ์ตรงพื้นผิวหลุดไป ทำให้เกิดเป็นตุ่มเป็นเม็ดขึ้น บรรดานักแต่งหนังสือพระก็อุปโลกเป็นพิมพ์เอ พิมพ์บี แต่พิมพ์แรกจริงๆ ก็คือ พิมพ์มีเส้นคอ และมีเส้นน้ำตกจากฐานพระชั้นที่ 1 ลงมาชั้นที่ 2 ระหว่างช่วงแขนหักศอก หลังจากสร้างพระสมเด็จ หลังอุแล้ว ก็ได้นำพระบางส่วนบรรจุไว้ในบาตรพระแล้วประพรมด้วยน้ำมันจันทน์ และน้ำอบไท อีกส่วนหนึ่งคุณอำไพ แก้วพงศ์ ได้มาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ได้ไปทำถาดสังกะสี และนำพระที่เหลือมาเรียงซ้อนกันจนหมด แล้วจึงประพรมน้ำอบไท และน้ำมันจันทน์ราดไปจนทั่ว ทิ้งไว้อย่างนี้หลายเดือน “ผู้เขียน” เคยสังเกตพื้นผิวพระสมเด็จ หลังอุ จะเห็นฝุ่นเม็ดดำๆ เล็กๆ มีอยู่ประปราย อันนี้เป็นข้อสังเกตว่าเป็น “พระแท้” ได้เหมือนกัน พระสมเด็จ หลังอุ เข้าพิธีเป็นครั้งที่ 1,2 และ 3 ครั้งแรกในวันที่ 8 มี.ค.2513 ท่านเจ้าคุณอุดมฯ และคุณอำไพ แก้วพงศ์ (หรือมหาอำไพ เคยบวชที่วัดเทพศิรินทร์) ซึ่งได้สึกมาเป็นฆราวาสแล้ว ได้นำพระสมเด็จ หลังอุ จำนวน 800 องค์ ใส่พานนำไปให้ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตในโบสถ์วัดเทพศิรินทร์ หลังจากที่ท่านทำวัตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปแจกเป็นของขวัญให้แก่ผู้มาร่วมงานมงคลสมรสของคุณอำไพ และคุณฉวีคำ สำหรับคุณฉวีคำนั้นเป็นหลานของ “เสี่ยกก” หรือคุณวิชัย วิมลรัชต์มโนรมย์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเส้นปลา ชื่อร้าน “รสหนึ่ง” มีถึง 5 สาขาที่เชียงใหม่ และเสี่ยกกก็เป็นโยมอุปถากของมหาอำไพด้วย ครั้งที่ 2 ได้นำพระจำนวน 800 องค์ ไปให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตให้อีก เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2514 กราบนมัสการบอกท่านว่าจะไปฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี ท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตให้อีก พระสมเด็จ หลังอุ จำนวน 800 องค์ ได้เดินทางออกจากดอนเมือง เวลา 13.15 น. โดยสายการบิน TWA เที่ยว Tg (ทีจี) 600 ของวันที่ 29 มี.ค.13 ถึงฮ่องกงเวลา 14.25 น. คณะที่ติดตามสมเด็จพระสังฆราช วัดมงกุฏกษัตริยาราม ไปฮ่องกงครั้งนั้นมีท่านเจ้าคุณอุดมฯ พระปริยัติกวี พระครูประสิทธิสารโสภณ พระมหาบรรจง และมี พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ เป็นไวยาวัจกร และที่ฮ่องกงนั้นเอง ท่านเจ้าคุณอุดมฯ ได้นำพระสมเด็จ หลังอุ ทั้ง 800 องค์ ถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อทรงประทานแก่พุทธบริษัทชาวฮ่องกง เกาหลี และชาวไทยในฮ่องกงที่คอยเฝ้ารับเสด็จ และสดับฟังธรรมของสมเด็จพระสังฆราช ดังนั้นพระสมเด็จ หลังอุจึงแพร่หลายในต่างประเทศ คือ ฮ่องกง และเกาหลี ครั้งที่ 3 ได้นำพระสมเด็จ หลังอุที่เหลืออีก 1,400 องค์ เข้าพิธีใหญ่ “เสาร์ห้า” คือ วันเสาร์ที่ 25 เม.ย.13 ที่โบสถ์วัดเทพศิรินทร์ พระที่เหลือจำนวนนี้ท่านเจ้าคุณอุดมฯ ได้เริ่มแจกให้แก่ท่านที่มาขอพระด้วยตัวท่านเอง เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.13 เป็นต้นไป ภายในปี พ.ศ.2516 พระสมเด็จ หลังอุ ก็ไม่มีเหลือติดตัวท่านแม้แต่องค์เดียว สำหรับพระสมเด็จ หลังอุ ที่แจกที่ฮ่องกงนั้น ต่อมาคนไทย และพระสงฆ์ที่นั่นได้ส่งข่าวมายังหนังสือ “ลานโพธิ์” ซึ่งผู้เขียนได้อ่านพบเข้าเมื่อประมาณเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนหนังสือพระลานโพธิ์จะเล่มละ 5 บาท มีข่าวว่า ผู้มีพระสมเด็จ หลังอุ เกิดอุบัติเหตุต่างๆ นาๆ ถูกยิง รถคว่ำตกจากเขา เครื่องบินตกที่สนามบินไกตั๊ก เครื่องบินหักสองท่อน แต่ไม่ตาย ห้อยต่องแต่งอยู่ในส่วนที่หัก “ลานโพธิ์” ยังเอารูปมาลง เมื่อคนไทยได้ทราบข่าวเกี่ยวกับพระสมเด็จ หลังอุของท่านเจ้าคุณนรฯ ก็เกิดแสวงหากัน เพราะไม่มีให้เช่าที่วัด ดังนั้น…พระเนื้อผงที่เอกอุ…นิยมหากันมากที่สุดของพระเนื้อผงที่ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้อธิษฐานจิตให้นั้น ก็คือ…พระสมเด็จ หลังอุ หรือสมเด็จอุ…ฮ่องกง…นี่เอง เป็นพระพิมพ์เนื้อผงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของท่านเจ้าคุณนรฯ
ราคาเปิดประมูล1,000 บาท
ราคาปัจจุบัน10,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ500 บาท
วันเปิดประมูล - 09 ธ.ค. 2554 - 17:55:55 น.
วันปิดประมูล - 19 ธ.ค. 2554 - 17:55:55 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลboyball (568)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     10,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     500 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM