(0)
@เหรียญขอให้รวยขอให้อยู่ดีมีสุขเนื้อทองแดงครี่งองค์@ลป.ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง (ตัดรุ้งขาด)รุ่นไตรมาส46ฉลองอาย101ปีเกจิที่หลวงพ่อกวย สั่งให้อ.ตั้วไปเรียนวิชาให้ได้คือ หลวงปู่หมุนและครูบาอินเคาะเดียว






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง@เหรียญขอให้รวยขอให้อยู่ดีมีสุขเนื้อทองแดงครี่งองค์@ลป.ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง (ตัดรุ้งขาด)รุ่นไตรมาส46ฉลองอาย101ปีเกจิที่หลวงพ่อกวย สั่งให้อ.ตั้วไปเรียนวิชาให้ได้คือ หลวงปู่หมุนและครูบาอินเคาะเดียว
รายละเอียดเหรียญนี้สวยสุดๆครับ

ปลุกเสกนานสามไตรมาส หายากมากๆจริงๆครับ ลองอ่านดูนะครับ ห้ามพลาดจริงๆครับ
ประสบการณ์เหรียญรุ่นไตรมาสตัดรุ้งขาด
ขออณุญาตือ้างอิงข้อความจากเวปไซน์หลวงปู่ครูบาอินนะครับ ลองชมดูครับ

คุณเนาว์ นรญาณ นักเขียนประจำนิตยสารพระเครื่องหลายฉบับ อาทิเช่น ศักดิ์สิทธิ์ กระแสพระ ฯ และ คุณสุวิทย์ ชอบใช้ สจ.อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร และครอบครัว ได้มีประสบการณ์ทดลองนำเอาเหรียญรุ่นไตรมาส วัฒนมงคล ๑๐๐ ปี "ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข" ของหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท และพระกริ่งถือดอกบัวของหลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ และประคำ หลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงษาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ทดลองตัดรุ้งที่สำนักสุสานไตรลักษณ์ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ นำมาเผยแพร่ให้เป็นที่รับทราบกัน







แนะเนื่องจากเป็นประสบการณ์ตรงที่คุณเนาว์ และคุณสุวิทย์ ได้กรุณาเล่ายืนยันด้วยตนเองในเวปบอร์ดพุทธวงศ์เสวนา ผู้จัดทำเวปไซต์จึงขอยกถ้อยคำตามที่ทั้งสองท่านได้โพสไว้มาไว้ ณ ที่นี้ โดยตรง โดยมิได้ตัดทอน หรือแก้ไขเนื้อหาแต่อย่างใด

ขอขอบพระคุณและขออนุญาตคุณเนาว์ นรญาณ และคุณสุวิทย์ ชอบใช้ รวมทั้งผู้ที่ถูกเอ่ยนามถึงทุกท่านในบทความนี้ ในการนำเรื่องราวและประสบการณ์ของท่านมาเผยแพร่ต่อ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย

=====================================


เหรียญรุ่นสุดท้าย ครูบาอิน วัดทุ่งปุย เชียงใหม่ (ตัดรุ้งขาด)!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



เอามาลองตัดรุ้งพร้อมๆกับพระกริ่งหลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ ที่เชียงใหม่ ที่สำนักสุสานไตรลักษณ์แม่วาง เชียงใหม่ต่อหน้าคนนับสิบ ผลปรากฏว่า เหรียญรุ่นนี้ (เนื้อทองแดง องค์ละ ๕๙ บาท) ตัดรุ้งขาดไวแบบเฉียบขาดที่สุดเลยทีเดียว (คุณสุวิทย์และคณะลองกับมือตนเอง และผมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย) ท้ายสุด พวกของสจ.สุวิทย์ เห็นปาฏิหาริย์ดังกล่าว ก็ให้ตกตะลึงจนใจแดงจะขาดอยู่รอนๆ รอช้าอยู่มิได้ หัวใจแห่งศรัทธาจะระเบิดโพล๊ะออกมาจากอกเสียให้ได้ เลยต้องวกกลับไปเคาะกุฏิที่วัดทุ่งปุยเพื่อกวาดกลับมาบูชาอีกคนละหลายๆเหรียญในบัดเดี๋ยวนั้นนั่นเทียว..!!!!
ปล. เหรียญรุ่นนี้ที่วัดทุ่งปุยยังมีเหลืออยู่พอสมควรนะครับ ครูบาอินเสกนานถึงไตรมาส 3 เดือนแบบทิ้งทวน ก่อนมรณภาพเป็นรุ่นสุดท้ายอย่างแท้จริง
ขอยืนยันเรื่องที่คุณเนาว์เขียนใน "กระแสพระ"



ผมขอเป็น "พยาน" ให้กับคุณเนาว์ในเรื่อง "พระตัดรุ้งขาด" ที่เกิดขึ้น ณ สำนักสุสานไตรลักษณ์อำเภอแม่วาง จ.เชียงใหม่ ที่คุณเนาว์ได้นำเหตุการณ์นี้ไปเขียนลงในหนังสือกระแสพระ และที่เคยลงในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ เพราะเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับเรื่องที่เพื่อนๆ สมาชิกได้อ่านในเวปไซด์นี้
นอกจากจะมีตัวผมเป็นพยานให้กับคุณเนาว์แล้ว ยังมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นอีกนับสิบคน แต่บุคคลที่สำคัญที่สุดที่ผมขออนุญาตพูดถึงท่านคือ "อาจารย์" ศิษย์ท่านเจ้าคุณนรรัตน์, หลวงปู่เทสก์ ที่มีสมาธิจิตสูงที่คุณเนาว์อ้างถึงนั่นเอง ผมจะไม่สามารถเปิดเผยท่านเป็นสาธารณะได้ เพราะจะไม่สมควรด้วยเหตุผลในทุกประการ จะไม่เป็นการ "เคารพ" ในท่าน ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ครอบครัวของผมให้ความเคารพรักเป็นอย่างยิ่ง แต่ที่ต้องนำมาอ้างถึงเล็กน้อยก็เพื่อต้องการให้มีพยานบุคคลที่เป็นผู้ที่มี "ต้นทุนทางสังคมสูง" และมี "เครดิตสูง" เพื่อยืนยันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจาก "ทางผ่านในการปฏิบัติทางจิตของครูบาอาจารย์" เพื่อช่วยเจริญศรัทธาให้กับผู้ที่เคารพนับถือในครูบาอาจารย์ผู้มีคุณธรรมสูงท่านนั้นๆ ซึ่ง "อาจารย์" ที่กล่าวถึงท่านนี้ท่านเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทยระดับ "สายสะพาย" คูณปู่ของท่านเป็น "พระยา" คุณพ่อของท่านเป็น "ผู้ว่า" ซึ่งมีความผูกพันกับพระปฏิบัติสาย "ท่านพระอาจารย์มั่น" จนถึงกับได้รับ "อัฐิธาตุ" ของท่านพระอาจารย์มั่น เพราะได้ช่วยงานพระราชทานเพลิงศพของท่านพระอาจารย์มั่น ซึ่งในอัฐิธาตุของท่านพระอาจารย์มั่นได้แปรสภาพเป็น "พระธาตุ" แล้ว (ขอร่วมอนุโมทนากับครอบครัวของท่านด้วย) และด้วยเหตุที่ครอบครัวของท่านได้ใกล้ชิดกับพระอรหันต์ระดับท่านพระอาจารย์มั่น ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายพระปฏิบัตินี้เอง ทำให้ท่านได้มีโอกาสรับใช้พระเถระผู้ใหญ่ระดับหลวงปู่เทสก์, หลวงปู่ฝั้น, ท่านพ่อลี, ท่านพระอาจารย์วัน, ท่านพระอาจารย์จวน ฯลฯ

ส่วนเรื่องที่ท่านได้เป็นศิษย์ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ก็เพราะท่านบวชที่วัดเทพศิรินทร์ ในระหว่างที่บวชอยู่นั้น ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ได้เมตตาเรียกและสั่งให้ "ไปพบ" เพื่อรับคำสอนจากท่านเจ้าคุณนรรัตน์ นอกจากนี้ท่านได้ใกล้ชิดกับหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาเป็นอย่างยิ่ง ท่านได้ทำบุญถวายหลวงปู่ครูบาวงศ์หลายประการ เช่น พระประธาน (พระนามว่า "พระพุทธสิหนาส") หน้าตัก ๑๐๘ นิ้ว ที่เจดีย์ศรีเวียงชัย ท่านก็เป็นผู้สร้างไปถวาย รูปเหมือนหลวงปู่วงศ์ที่ ร.พ.ลี้ ท่านก็เป็นผู้สร้างไปถวาย ฯลฯ ซึ่งท่านทำบุญในแต่ละครั้งไม่เคยมีการ "เรี่ยไร" กับใครเลย ไม่เคยมีใครได้รับความรำคาญหรืออึดอัดสักนิดเลย มีแต่ว่าพอเรารู้ข่าวก็ต้องรีบไปร่วมทำบุญกับท่าน เพราะกลัวไม่ทัน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมอยากจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ สมาชิกได้อ่าน เพราะจะได้เห็นภาพของการทำบุญที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ไม่ได้เข้าวัดหาพระเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง ขอย้ำว่าที่ผมเขียนนี้ไม่มีผลประโยชน์เป็นเงินเข้ากระเป๋าผมนะครับ เพียงแต่ว่าผมอยากเล่าประสบการณ์ดีๆ ที่ได้รับความประทับใจจากการที่ได้มีโอกาสได้สัมผัสถึงบารมีธรรมของครูบาอาจารย์มาเล่าสู่กันฟังครับ
ที่เล่าถึง "อาจารย์" ท่านนี้ก็เพราะว่าท่านเป็นผู้ที่บอกให้ผม คุณเนาว์และคณะ ตัดรุ้งที่สำนักสุสานไตรลักษณ์แม่วาง ในวันนั้นนั่นเองและท่านได้คอยอธิษฐานจิตของท่านช่วยตลอด ท่านเป็นผู้ควบคุมเหตุการณ์ในวันนั้นให้ ด้วยเหตุผลที่ท่านต้องการให้คณะที่ไปทำบุญวันนั้นมีความมั่นใจในอำนาจของคุณพระรัตนตรัยและผลแห่งการปฏิบัติของครูบาอาจารย์ เมื่อได้เห็นกับตาได้ทำกับมือตนเองแล้วจะได้หายสงสัยด้วยประการทั้งปวง ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ได้เคยเล่าในเวปไซด์นี้แล้วจึงไม่ขอนำมาลงซ้ำอีก

ท้ายที่สุดจะขอเล่าเรื่อง "ตาใน" ของอาจารย์ว่า ด้วยความสามารถทางจิตของท่านนี้เองแม้แต่หลวงปู่โงน โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ยังสัพยอกด้วยความคุ้นเคยกับท่านว่า "สนุกนักหรือไง ที่ได้มาแอบดูชาวบ้านเขา" หมายถึงหลวงปู่โงนท่านทราบว่าอาจารย์ได้เห็นภายในห้องของหลวงปู่โงนว่าหลวงปู่ท่านมีพระและสิ่งสักการะอะไรอยู่บ้าง มีพระอริยเจ้าชั้นสูงของทางภาคเหนือองค์หนึ่งได้ชี้ไปที่อาจารย์แล้วพูดว่า "เป็นพระแต่ไม่ได้ห่มผ้าเหลือง" และท่านครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล เมื่อได้พบอาจารย์ท่านทักว่า "อ๊ะ...!!!" แล้วใช้สรรพนามเรียกอาจารย์ว่า "อาจารย์" ฯลฯ และผมขอย้ำอีกครั้งว่าที่แอบนำเรื่องของอาจารย์มาลงเพื่อขอนำเครดิตของอาจารย์มาเป็นเครื่องยืนยันในเหตุการณ์ตัดรุ้งในวันนั้น(เป็นการสอนธรรมะของท่านอย่างหนึ่ง ท่านไม่ได้ให้ติดหรืองมงายในอภินิหาริย์) โดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ แอบแฝง เพราะอาจารย์เองท่านก็ไม่ยอมเปิดเผยตัว จะรู้กันในคณะของผู้ที่ชอบปฏิบัติธรรมหรือชอบไปกราบพระเท่านั้น หากสอบไม่ผ่านก็ไม่มีทางได้เข้าไปคุยกับท่าน เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ชอบปฏิบัติธรรมอยู่กับบ้านที่สงบของท่าน ประการสำคัญสมบัติทางโลกท่านพอแล้วทุกอย่าง ไม่เห็นท่านแสวงหา "โลกธรรม" อะไร เห็นแต่ท่านสนใจแต่เรื่อง "ธรรม" เท่านั้น ท่านบอกว่าท่านเตรียมตัวสำหรับวันที่จิตจะออกจากร่างของท่าน

เนาว์ นรณาณ

============================================







ผมเองมีบุญได้ตัดรุ้งกับมือของตนเองเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยขอชมบารมีพระกริ่งของหลวงพ่อขวัญและลูกประคำของหลวงปู่ครูบาวงศ์
คุณเนาว์ขอชมบารมีพระกริ่งของหลวงพ่อขวัญ ซึ่งคุณเนาว์ขอชมบารมีหลายครั้งมาก
ส่วนที่ฮือฮามากที่สุดคือคุณกัญญา วงศ์สระหลวงเจ้าของห้างฯ วงศ์สระหลวง ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ร่วมคณะไปทำบุญด้วย คุณกัญญาเองตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับทุกๆ คน ท่านที่คุมเหตุการณ์อยู่อยากให้คุณกัญญาได้เกิดความมั่นใจในพุทธานุภาพและบารมีธรรมของครูบาอาจารย์ จึงบอกว่า "ฉ่ายลองบ้างซิ" คุณกัญญาตอบว่า "หนูจะอาราธนาบารมีพระองค์ไหนได้ค่ะ" ท่านผู้คุมเหตุการณ์ตอบว่า "ก็นำพระของหลวงปู่ครูบาอินที่เพิ่งเช่ามาเมื่อกี้นั่นแหละ" ปรากฏว่าคุณกัญญาไปแอบตัดรุ้งอยู่ข้างหลังคณะ เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น (กลัวตัดไม่ขาดจะเสียกำลังใจ) ปรากฎว่าคุณกัญญาต้องตกตะลึงเพราะรุ้งขาดเห็นจะๆ ผมและคุณเนาว์ก็สงสัยว่าทำไมรุ้งถึงขาดได้อีก เพราะตอนนั้นเราไม่ได้ตัดสักหน่อย ก็ได้ยินเสียงบอกว่า "ให้หันไปดูฉ่ายซิ ฉ่ายกำลังทำอะไรอยู่" เมื่อเห็นคุณกัญญากำลังตัดรุ้งบ้างก็ถึงบางอ้อ วันนั้นไม่ได้ตัดกันทีเดียวแต่ตัดกันคนละหลายๆ ครั้ง ซึ่งครั้งแรกๆ ก็เกร็งอยู่บ้างแต่ตอนหลังๆ กำลังใจดี ตัดรุ้งขาดกันหลายครั้งจนมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ในสิ่งที่เกิดขึ้น


ขอเพิ่มเติมข้อมูลอีกนิดนึ่ง เรื่องที่ตัดรุ้งในวันนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจกันมาก่อนเลย เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ สาเหตุเกิดจากที่สุสานไตรลักษณ์แม่วาง วันนั้นมีรุ้งเกิดขึ้นอย่างสวยงามมากพอดิบพอดี ส่วนเรื่องที่จะตัดรุ้งนั้นสาเหตุจริงๆ เกิดขึ้นมาจากวันก่อนหน้านั้น ๑ วัน คุณเนาว์ได้ไปกราบหลวงพ่อขวัญ ที่วัดบ้านไร่ จังหวัดพิจิตร แล้วคุณเนาว์มีวาสนามากได้พระกริ่งเนื้อเงินจากคุณป้าสมใจ บัวมั่น ซึ่งพระองค์นี้เป็นวาสนาของคุณเนาว์โดยแท้ เพราะคุณป้าสมใจเมื่อให้พระองค์นี้แก่คุณเนาว์แล้ว จึงรู้ว่าพระกริ่งเนื้อเงินองค์นี้เป็นพระกริ่งเนื้อเงินองค์สุดท้ายที่คุณป้าสมใจมีอยู่ เมื่อคุณป้าสมใจรู้เข้ากับหัวเราะชอบใจแล้วบอกว่า "เป็นบุญของเนาว์จริงๆ ป้าตั้งใจให้แล้วก็ให้ไปเลย" คุณเนาว์จึงมีความประทับใจอย่างสุดๆ ในเรื่องนี้

ยิ่งไปกว่านั้นคุณเนาว์ก็ยังได้ทราบข้อมูลมาว่า พระกริ่งของหลวงพ่อขวัญตัดรุ้งขาดได้ ดังนั้นเรื่องพระตัดรุ้งขาดจึงอยู่ในจิตใจของคุณเนาว์และผมตลอด จนวันรุ่งขึ้นได้ไปทำบุญที่เชียงใหม่ ไปวัดทุ่งปุย (คุณกัญญาได้เช่าพระหลวงปู่ครูบาอินองค์ละ ๕๙ บาทมาด้วย) และไปกราบหลวงปู่ครูบาขันตยาภรณ์ที่สุสานไตรลักษณ์แม่วาง (หลวงปู่ได้ปลงสังขารในวันนั้นด้วย ท่านผู้ใหญ่ที่ไปด้วยได้กราบอารธนาท่านให้ดำรงค์ขันธ์อยู่อีกต่อไป แต่หลวงปู่ไม่รับ) หลังจากออกจากกุฏิหลวงปู่ครูบาขันตยาภรณ์ ก็ได้ไปที่โบสถ์น้ำของท่าน ขณะอยู่บนสะพานได้เห็นรุ้งกัน ท่านผู้ใหญ่ที่ไปด้วยจึงบอกให้อารธนาพระเพื่อขอชมบารมีท่านดังที่ได้เล่ามาแล้ว โดยท่านผู้ใหญ่ท่านนี้เป็นผู้ที่คุมเหตุการณ์ทั้งหมด และขอเพิ่มเติมว่าท่านผู้ใหญ่ท่านนี้เป็นผู้ที่มีคุณธรรมสูง เป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรม เป็นศิษย์สายท่านพระอาจารย์มั่น ศิษย์ท่านเจ้าคุณนรฯ ศิษย์หลวงปู่ครูบาวงศ์ ชาติตระกูลของท่านเป็นหลานพระยาเจ้าเมืองสกล ซึ่งได้รับใช้ท่านพระอาจารย์มั่นในสมัยนั้นด้วย

ขอเรียนเหมือนเดิมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่เมื่อนำมาเล่าแล้วก็เป็นเหมือนดาบสองคม ขอให้เกิดในด้านที่เป็นประโยชน์มากที่สุด
ราคาเปิดประมูล299 บาท
ราคาปัจจุบัน349 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 02 ส.ค. 2553 - 00:41:33 น.
วันปิดประมูล - 07 ส.ค. 2553 - 03:49:00 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลtextile007 (8.9K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     349 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    TFB99 (777)

 

Copyright ©G-PRA.COM