(0)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๖ (จวน อัฎฐายี) วัดมกุฏกษัตริย์ฯ ปี ๒๕๑๑






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๖ (จวน อัฎฐายี) วัดมกุฏกษัตริย์ฯ ปี ๒๕๑๑
รายละเอียดเหรียญสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๖ (จวน อัฎฐายี) วัดมกุฏกษัตริย์ฯ ปี ๒๕๑๑

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายี)
สถิต ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม


ทรงดำรงตำแหน่ง
๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๘ ถึง ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๔ ในรัชกาลที่ ๙ เป็นเวลา ๖ ปี ๒๒ วัน
พระนามเดิม
จวน ศิริสม
พระฉายา
อุฏฺฐายี
ประสูติ
วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๔๐ ณ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
การศึกษา
พ.ศ. ๒๔๗๒ ทรงสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค
ทรงบรรพชา
วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม
ทรงอุปสมบท
วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม
ทรงสถาปนา
วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๘
ที่มา
หนังสือ ๑๙ ปี แห่งการสถาปนา สมเด็จพระญาณสังวร ๒๑ เมษา ๒๕๓๒ - ๒๕๕๑
สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฎฺฐายี) เป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงดำรงตำแหน่งอยู่ ๗ พรรษา สิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๔ พระชนมายุ ๗๔ พรรษา
พระองค์มีพระนามเดิมว่า จวน ประสูติเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อพระชนมายุได้ ๑๐ พรรษา ได้เข้ามาศึกษาชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนวัดคฤหบดี จังหวัดธนบุรี พระชนมายุ ๑๔ พรรษา ได้ไปศึกษาอยู่ กับพระมหาสมณวงศ์ (แท่น โสมทัดโต) เจ้าอาวาสวัดมหาสมณาราม (วัดเขาวัง) ที่วัดเขาวัง จังหวัดเพชรบุรี พระชนมายุ ๑๖ พรรษา ได้มาศึกษาพระปริยัติธรรม กับพระอริยมุนี (แจ่ม จตฺคสลฺโล) ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม
• พ.ศ. ๒๔๕๗ ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ได้เป็นบรรณาธิการ หนังสือวารสารรายปักษ์สยามวัด ทำให้พระองค์มีความสามารถในการประพันธ์คำประพันธ์ต่าง ๆ มีโคลง ฉันท์ เป็นต้น
• พ.ศ. ๒๔๖๐ ทรงอุปสมบทเป็นภิกษุ ในปีเดียวกันนี้ทรงสอบได้นักธรรมชั้นตรี และเปรียญธรรม ๓ ประโยค
• พ.ศ. ๒๔๖๑ สอบได้นักธรรมชั้นโท
• พ.ศ. ๒๔๖๒,๒๔๖๔ และ ๒๔๖๕ สอบได้เปรียญธรรม ๔,๕ และ ๖ ประโยค ตามลำดับ
• พ.ศ. ๒๔๖๖ สอบได้นักธรรมชั้นเอก
• พ.ศ. ๒๔๖๗,๒๔๗๐ และ ๒๔๗๒ สอบได้เปรียญธรรม ๗,๘ และ ๙ ประโยค ตามลำดับ
พระองค์ได้ประกอบพระกรณียกิจด้านการพระศาสนาเป็นอันมาก พอประมวลได้ดังนี้
• พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะที่ พระกิตติสารมุนี
• พ.ศ. ๒๔๗๗ เป็นกรรมการคณะธรรมยุติ
• พ.ศ. ๒๔๗๘ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชเวที เป็นประธานกรรมการบริหาร ในตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลราชบุรี
• พ.ศ. ๒๔๗๙ เป็นกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ลักษณะปกครองสงฆ์ ฉบับใหม่
• พ.ศ. ๒๔๘๒ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเวที
• พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นสมาชิกสังฆสภา และเป็นสังฆมนตรีว่าการองค์การเผยแผ่
• พ.ศ. ๒๔๘๖ เป็นผู้รักษาการ ในตำแหน่งสังฆนายก แทนสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดบรมนิวาส
• พ.ศ. ๒๔๘๘ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมปาโมกข์
• พ.ศ. ๒๔๘๙ เป็นผู้สั่งการในตำแหน่งสังฆนายก แทนสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดเทพศิรินทร์ฯ
• พ.ศ. ๒๔๙๐ เป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรองที่ พระศาสนโศภณ
• พ.ศ. ๒๔๙๔ เป็นสังฆนายก ครั้งที่ ๑
• พ.ศ. ๒๔๙๙ ได้รับโปรดเกล้า ฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
• พ.ศ. ๒๕๐๓ เป็นสังฆนายก ครั้งที่ ๒
• พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นผู้บัญชาการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระสังฆราช
• พ.ศ. ๒๕๐๖ เป็นกรรมการเถรสมาคมโดยตำแหน่ง ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕
ด้านการศึกษา ทรงชำนาญในอักษรขอม อักษรพม่า อักษรมอญ และอักษรโรมัน จากการที่ได้ ตรวจชำระ พระไตรปิฎกบางปกรณ์ตามที่ได้รับมอบ ซึ่งจะต้องสอบทานอักษรไทยกับต้นฉบับอักษรขอม เกี่ยวกับอักษรพม่า และอักษรโรมัน
• พ.ศ. ๒๔๗๐ เป็นกรรมการตรวจบาลีไวยากรณ์ในสนามหลวง
• พ.ศ. ๒๔๗๑ เป็นกรรมการตรวจนักธรรมชั้นโท-เอกในสนามหลวง เป็นกรรมการตรวจบาลี ประโยค ๔-๕-๖
• พ.ศ. ๒๔๗๖ เป็นปีที่เริ่มฟื้นฟูกิจการของมหามงกุฏราชวิทยาลัยในยุคใหม่ ทรงรับหน้าที่เป็นกรรมการและอนุกรรมการหลายคณะ คือ อนุกรรมการตรวจชำระแบบเรียน เช่น นวโกวาท และ พุทธศาสนสุภาษิต กรรมการอำนวยการหนังสือธรรมจักษุ กรรมการ อุปนายกและนายกกรรมการมหามงกุฏราชวิทยาลัย ตลอดมาจนสิ้นพระชนม์
ด้านการต่างประเทศ เสด็จไปดูการพระศาสนาในประเทศลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย เนปาล ลังกา ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม ตามคำเชิญของพุทธบริษัทของประเทศนั้น ๆ ทรงไปร่วมงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้แทนสมเด็จพระสังฆราช (วัดเบญจมบพิตร) ไปร่วมประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกที่ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๔
งานเผยแผ่พระศาสนา ได้ทรงดำเนินการมาโดยตลอดไปรูปแบบต่าง ๆ พอประมวลได้ดังนี้
• พ.ศ. ๒๔๗๖ ทรงร่วมกับคณะมิตรสหาย ตั้งสมาคมพุทธศาสนาขึ้นเป็นครั้งแรก คือ พุทธสมาคม เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา และส่งเสริมการศึกษา
• พ.ศ. ๒๔๗๗ เป็นพระคณาจารย์เอกทางเทศนา (ธรรมกถึก)
• พ.ศ. ๒๔๗๙ เป็นกรรมการควบคุมการแปลพระไตรปิฎก
• พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นประธานกรรมการจัดรายการแสดงธรรมทางวิทยุในวันธรรมสวนะ
งานพระนิพนธ์
• พ.ศ. ๒๔๖๙ ทรงแปลตติยสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย เพื่อใช้เป็นตำรา
• พ.ศ. ๒๔๘๒ ทรงแต่ง รตนตฺตยปฺปภาวสิทฺธิคาถา แทน รตนตฺตยปฺปภาวาภิยาจนคาถา และได้ใช้สวดในพระราชพิธีต่อมา
ยังมีพระนิพนธ์อีกมากกว่า ๑๐๐ เรื่อง เช่น มงคลในพุทธศาสนา สาระในตัวคน วิธีต่ออายุให้ยืน การทำใจให้สดชื่นผ่องใส และฉันไม่โกรธเป็นต้น มีพระธรรมเทศนาอีกหลายร้อยเรื่อง ที่สำคัญคือ มงคลวิเศษคาถา ที่แสดงในพระราชพิธีเฉลิม พระชนมพรรษา
ราคาเปิดประมูล190 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 25 ก.ย. 2552 - 21:53:03 น.
วันปิดประมูล - 05 ต.ค. 2552 - 21:53:03 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลprizz (4.3K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     190 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM