(0)
พระคำข้าว รูปพระวิสุทธิเทพ พิมพ์หนาแก่น้ำมันชาตรี + เกศา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง สร้างปี 2530








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระคำข้าว รูปพระวิสุทธิเทพ พิมพ์หนาแก่น้ำมันชาตรี + เกศา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง สร้างปี 2530
รายละเอียดพระผงวิสุทธิเทพ พิมพ์หนา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง สร้างปี 2530 พิเศษพิมพ์หนาหายากสร้างน้อย กดพิมพ์ในวัดพระสร้างกันเองจึงรวมมวลสารผงหลวงพ่อมากที่สุด มีจีวรหลวงพ่อด้วย พอพุทธาภิเษกเสร็จหลวงพ่อสั่งให้เก็บไว้ จึงมีไม่มากนักเนื่องจากสร้างน้อยส่วนใหญ่จะได้เฉพาะพระที่วัดและลูกศิษย์ พระรุ่นนี้สร้างออกมาราวๆปี 2530 มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ก็คือเป็นแบบพิมพ์บาง และพิมพ์หนา --- ด้านหน้าเป็นรูปพระวิสุทธิเทพปางพระนิพพาน อักษร บนซ้ายเขียนว่า "พุท" ด้านขวาเขียนว่า "โธ" อักษรที่เหลือเป็นคำว่า "นะ มะ พะ ธะ" เป็นหัวใจของธาตุสี่ หรืออีกนัยนึงก็คือคำย่อของคำว่า "นมัสการพระพุทธเจ้า" เป็นคำที่ใช้ในการฝึกมโนมยิทธิ (ลูกหลานหลวงพ่อคงทราบดี) --- ด้านหลังเป็นรูปยันต์เกราะเพชร ส่วนพิมพ์หนานั้นจะเป็นเนื้อผงแก่น้ำมันชาตรี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพิมพ์หนานี้จะมีการผสมเกศาของหลวงพ่อ..มากกว่าพิมพ์บางครับ ทำให้พบเห็นเกษาได้ง่ายกว่าพิมพ์บางครับ และเท่าที่ทราบนอกจากเกศาแล้วยังมีเศษของผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม ผงพระคำข้าว มวลสารที่สำคัญอีกหลายอย่างของหลวงพ่อผสมด้วยครับ ส่วนสีของน้ำมันชาตรีนั้น เวลาที่ผสมกับองค์พระไปแล้วก็จะมีสีต่างๆ เช่นสีเขียวหยก , สีส้มอ่อนออกเหลือง , สีส้มเข้มออกน้ำตาลไหม้เป็นต้น สำหรับองค์ในภาพนี้เป็นพิมพ์หนาแก่น้ำมันชาตรี พุทธานุภาพ ก็จะเด่นทางด้านป้องกัน และโชคลาภเป็นหลักส่วนที่เหลือแล้วแต่ลูกศิษย์จะอาราธนาขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ครับ พระวิสุทธิเทพคือเทพที่บริสุทธิปราศจาก กิเลสทั้งปวง อยู่บนพระนิพพานทั้งหมด เรื่องพุทธคุณก็ครอบคลุมทุกอย่าง หลวงพ่อ บอกว่าพิธีนี้สมบูรณ์ที่สุด (ครั้งที่ 1-8 ไม่เท่า) องค์สมเด็จฯ ท่านเสด็จมา และมวลสารนั้นเยอะมาก ๆ ขนาดเรื่องเกศาอย่างเดียว ครกหนึ่งใส่ทีละเป็นกำก็ว่าได้ ถ้าเป็นรุ่นอื่น ๆ ก็แค่หยิบใส่น้อย ๆ กลัวจะหมด ไหนจะจีวร ผงพุทธคุณ ของพิเศษที่หลวงพ่อเก็บไว้ ฯลฯ ซึ่งพระในวัดช่วยทำกันเองล้วน ๆ หลังเจริญกรรมฐาน ทำได้ประมาณ 10,000 องค์ และก็ผาติกรรมเผื่อตัวท่านเองไม่กี่องค์... อานุภาพน้ำมันชาตรี น้ำมันสังคโรคหรือน้ำมันชาตรีตำรับหลวงปู่ปาน ถาม : .................................. ตอบ : น้ำมันสังคโรคก็คือน้ำมันชาตรีที่ หลวงปู่ปาน ท่านทำ ท่านเอามาให้พวกเราใช้ก่อนน้ำมันชาตรีหลายปี ท่านไม่ได้บอกว่าเป็นน้ำมันชาตรี คือว่าหลวงพ่อท่านกลับไป กลับไป วัดบางนมโค กลับไปเยี่ยมวัดเก่านั่นล่ะ แล้วท่านก็ขึ้นกุฏิเก่าของท่าน ท่านบอกว่าอะไรต่อมิอะไรมันปล่อยรกรุงรังหมด ข้าวของอะไรที่เคยเป็นของหลวงปู่ ที่หลวงพ่อท่านรักษาเอาไว้ดี มันก็ปล่อยกระทั่งฝุ่นจับหยากไย่ขึ้นเละเทะไปหมด ท่านบอกว่าอะไรก็ไม่ว่าหรอก ไปเจอขวดน้ำมันชาตรีหลงอยู่มันแห้งเกือบจะติดก้นขวดท่านบอกว่าเห็นเข้าก็ดีใจแทบตาย ก็ไปถามเขาบอกว่าขอได้มั้ย ? เขาบอกว่าเอาไปเหอะขวดเก่าๆ น้ำมันชาตรีนี่มีอานุภาพพิเศษก็คือเติมเท่าไหร่ก็ตามอานุภาพยังเหมือนเดิม แต่ท่านไม่ได้บอกเราเพราะว่าอนุภาพของน้ำมันชาตรีถ้าเราสังเกตหลวงพ่อท่านจะเน้นเรื่องรักษาโรค คำว่าสังคโรคมันแปลว่ารวมทุกโรค คราวนี้น้ำมันชาตรีนี่ท่านจะเน้นทางรักษาโรค เพราะว่าถ้าไม่เน้นคนมันเอาไปใช้นี่ดีไม่ดีเละ เพราะว่าเห็นคาๆ ตามาว่าคนโดน ๑๑ ม.ม. ชนิดที่กระสุนแบนแต็ดแต๋ติดเอวเลย เขาบอกไม่รู้สึกอะไร รู้สึกเหมือนกับตัวเเมงบินมาชน มันได้ขนาดนั้น แล้วลองคิดดูว่าถ้าเกิดคนมันเฮี้ยนขึ้นมามันไม่ตีกันกระจายทั้งบ้านทั้งเมืองหรือ ใครๆ รักจะเป็นนักมวยก็เอา หลวงพ่อท่านบอกว่าท่านขโมยน้ำมันชาตรีหลวงปู่มาครึ่งขวดยานัตถุ์ขโมยเลย พอหลวงปู่กลับมาถามว่าใครขโมยน้ำมันวะ ? บอกว่าผมเองครับ บอกแล้วมึงขโมยทำไมวะ ? ผมคิดค่าเฝ้ากุฏิครับ (หัวเราะ) ไม่ได้ขโมยค่าเฝ้ากุฏิ เออมีมึงคนเดียวล่ะที่กล้าพูดอย่างนี้ แล้วเสร็จแล้วท่านก็บอกว่าให้ เจ้าอั๋น ลูกศิษย์ที่จะขึ้นชกมวย เจ้าอั๋นเวลาขึ้นชกมวยใช้ชื่อนิตย์ ท่านก็เอาก้านไม้ขีดก้านธูปอะไรนั่นล่ะ จิ้มแล้วเจิมหัวให้มันไป ไปชกชนะน็อคเขามายกสาม ถามมันบอกตอนชกรู้สึกยังไง มันบอกว่าเวลาคู่ต่อสู้เตะมาต่อยมาโดนน่ะโดนจังๆ แต่รู้สึกว่ามันเบาเหมือนไม่มีน้ำหนัก โบราณท่านถึงได้เรียกน้ำมันชาตรีว่า ลูกเบา โดนอะไรมันเบาไปหมด ไม่เบาได้ยังไงล่ะ ฟูลเมตัลเเจ๊คเก๊ตนะ หัวตันน่ะความเร็ว ๙๕๐ ฟูตต่อวินาที นี่แรงปะทะของมันนี่นักมวยปล้ำตีลังกาแล้วโยมผู้หญิงผอมๆ แห้งๆ โดนเข้าไปเต็มเอวแบนเเต๋ติดอยู่อย่างกับประเภทเอาดินเหนียวไปแปะเลยล่ะ นั่นล่ะเขาบอกมันรู้สึกเหมือนยังกะแมงมันบินมาชน เราก็ขอดูแผลมันแดงๆ หน่อยเดียวเอง เหมือนยังกับเราเอาอะไรไปขว้างแรงๆ ใส่หน่อยแค่นั้นน่ะ หนังมันเป็นสีแดงๆ ถาม : อันนี้นี่คือทาไว้ก่อนหรือว่า ? ตอบ : เขาบอกว่าเขากินวันละช้อน (หัวเราะ) หรืออาจจะเอาอย่าง พี่อาจินต์ ก็ได้ พี่อาจินต์เขากินวันละแก้ว พักเดียวอ้วนปี๋เลย ใครเห็นรูปเก่าๆ หลวงพี่อาจินต์ แหม....หนุ่มน้อยเอวบาง เล่นน้ำมันชาตรีวันละเเก้วพักเดียวล่ะ ตันตึ๊กเลย ถาม : แล้วเวลาเติมนี่ต้องใช้น้ำมันอะไร ? ตอบ : จริงๆ แล้วใช้ น้ำมันมะพร้าว ก็ได้ น้ำมันพืชก็ได้อะไรก็ได้ แต่ว่านิยม น้ำมันงา เพราะกลิ่นมันหอม ใช้น้ำมันชาตรีเติมลงไปในน้ำมันใหม่อย่าเอาของใหม่เททับของเก่า ถ้าของใหม่เททับของเก่าของเก่าจะเสื่อมไปด้วย ให้เอาของเก่าเทใส่ของใหม่ ไม่ต้องว่าคาถงคาถาอะไรทั้งนั้นล่ะเทลงไปเฉยๆ ด้วยความเคารพก็พอ ถาม : หลวงพ่อค่ะทำไมน้ำมันงาแพงจังค่ะ ? ตอบ : ก็มันอาจจะเป็นเพราะคนใช้น้อย เขาผลิตน้อยมันก็ต้องขายแพงหน่อยไม่งั้นมันไม่คุ้มต้นทุนเขาน่ะ ถาม : แล้วจะใช้....? ตอบ : จะกินจะทาอะไรก็ได้ แต่ว่าถ้ารักษาโรคลองเอาแตะเนื้อดูก่อน ถ้าหากว่าร้อนรักษาโรคไม่หาย แต่ถ้าหากว่าปกติหรือหากว่าเย็นโรคอะไรก็รักษาได้ ถาม : เฉพาะคนเหรอค่ะหลวงพ่อ ? ตอบ : ถ้ารักษาสัตว์นี่เราไม่รู้จะลองยังไง มันบอกว่าเย็นได้มั้ยล่ะ ถ้ามันบอกได้ก็เอา น้ำมันชาตรีเป็นวิชาการที่ทำยากที่สุดตามสายของหลวงพ่อ อนุญาตเท่านั้นถึงจะทำได้ ไม่งั้นต่อให้คุณได้อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ อะไรก็ไม่ได้ทั้งสิ้น หลวงพ่อท่านบอกว่าในชีวิตท่านเห็นแค่ ๒ องค์ที่ทำได้คือ หลวงปู่ปาน กับ อาจารย์โภคา ลืมถามท่านไปว่าอาจารย์โภคาอยู่วัดไหนหรือว่าเป็นฆราวาสที่ไหน สมัยที่เคยได้ยินคำว่าน้ำมันชาตรีครั้งแรกก็ได้ยินจาก ครูเขตร นั้นล่ะ เพราะท่านสอนวิธีตั้งธาตุ ปลุกธาตุ เรียกธาตุเข้าตัวอะไรเสร็จ สอนวิชาเสร็จท่านบอกว่าเสียดายวิชาการปลุกน้ำมันชาตรีท่านทำไม่สำเร็จ ท่านบอกว่าถ้าทำสำเร็จนี่เราจะสร้างแชมป์เปี้ยนโลกกี่คนก็ได้ แล้วเสร็จแล้วพอพระท่านอนุญาตให้ทำหลวงพ่อก็สั่งโรงงานเลย ผลิตมา ๓๐๐ ปี๊บ เข้าพิธีรวดเดียว ๓๐๐ ปี๊บ เพราะฉะนั้นออริจินอลอย่างน้อยก็มี ๓๐๐ ปี๊บ แต่ว่าจริงแล้วมันเติมเท่าไหร่ก็ได้ แล้วท่านก็บอกว่าในชีวิตของข้า หลวงปู่ปานท่านทำได้ ๒ ครั้ง ตัวข้าเองอาจจะทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะว่าต้องรอพระท่านอนุญาต ปรากฏว่าท่านทำได้ครั้งเดียวจริงๆ ไม่ทันจะทำใหม่ก็มรณภาพซะเสียก่อน น้ำมันชาตรีไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร ชาตรีมันก็เหนือกว่าอื่นใด ขืนไปบอกมันว่าชาตรีใช้ได้ขนาดนั้นรับรองมันตีเขากระจายหมดไม่ต้องกลัวใคร หลวงพ่อท่านถึงได้เน้นไปทางรักษาโรค รู้แล้วอย่าเอ็ดไป (หัวเราะ) ไม่งั้นเดียวมันไม่หามามั่ง ต่างคนต่างต่อยครบๆ ยกเหนื่อยลิ้นห้อยมันไม่มีใครแพ้ใครชนะ ถาม : ของทุกอย่างมันมั่นใจกับตัวของผู้ใช้ด้วยหรือเปล่า ? ตอบ : อันนั้นมีส่วน เรื่องของน้ำมันชาตรีนี่มันประเภทที่เรียกว่านอกเหตุเหนือผลคือถ้าคุณใช้อานุภาพก็มี ถาม : แล้ววัตถุมงคลด้วยรึเปล่าค่ะ ? ตอบ : วัตถุมงคลนี่สำคัญอยู่ที่กำลังใจ ถ้ากำลังใจเปิดรับมากเท่าไหร่มีผลมากเท่านั้น แต่ว่าน้ำมันชาตรีนี่ ประเภทที่เรียกว่าคำว่าชาตรีนี่คงตั้งใจสงเคราะห์โดยตรงละมั้ง หลวงพ่อท่านบอกว่าก่อนหน้านี้ ท่านเสกของเสกอะไรก็มีชาตรีเหมือนกันแต่ซุกๆ อยู่ข้างใน นี่คราวนี้ว่าตั้งแต่ยุคนั้นมานี่ชาตรีนำหน้า เตรียมไว้ให้ตีกับชาวบ้าน ถาม : เรื่องที่ว่าเปิดรับนี่หมายความว่า...? ตอบ : คือ จิตใจของเราเคารพ มีการอาราธนาเป็นปกติ เป็นสมัยของเรานี่ไม่ต้องเสียเวลาเสกน่ะ ถึงเวลาก็กรอกเติมไปเรื่อย สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญเดือนเมษายน ๒๕๔๕ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
ราคาเปิดประมูล1,000 บาท
ราคาปัจจุบัน7,100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 29 ก.ค. 2557 - 03:32:13 น.
วันปิดประมูล - 30 ก.ค. 2557 - 17:44:45 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลnuchai (1K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 29 ก.ค. 2557 - 03:33:56 น.



พร้อมกล่องเดิมครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     7,100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    pipatchaiaot (1K)

 

Copyright ©G-PRA.COM