(0)
ราคาวัดขาดทุน6เหรียญ330๑๑๑เหรียญ 2 มหาราช หลังยันต์องการมหาอุทัยใหญ่-มหาดำ-มหาแคล้ว-เมตตามหานิยม สมทบทุนสร้าง ร.พ. 84 พรรษา. 2555








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องราคาวัดขาดทุน6เหรียญ330๑๑๑เหรียญ 2 มหาราช หลังยันต์องการมหาอุทัยใหญ่-มหาดำ-มหาแคล้ว-เมตตามหานิยม สมทบทุนสร้าง ร.พ. 84 พรรษา. 2555
รายละเอียดราคาวัดขาดทุน6เหรียญ330๑๑๑เหรียญ 2 มหาราช หลังยันต์องการมหาอุทัยใหญ่-มหาดำ-มหาแคล้ว-เมตตามหานิยม สมทบทุนสร้าง ร.พ. 84 พรรษา. 2555
รายละเอียด
วัดใจ6เหรียญ330ราคาวัดขาดทุน๑๑๑ของดีมีไม่มาก สององค์พ่อมหาราชพ่อตากสินและพ่อพระนเรศวร ด้านหลังมหายัันต์โองการเสด็จพ่อ

เจ้าของทำบุญไว้แบ่งมาให้ไว้ใช้กันราคาถูกเกินคริ่งสนใจช้าหมดอดได้

ปลุกเสกเทวาขัยมังคลาพุทธาภิเษกวัดศรีสุดารามเจ้าคุณชั้นราชหลวงพ่อเณรประธานจัดสร้างหาทุนสร้าง โรงพยาบาลกรุงเทพมหานคร บีงกุ่ม พิธีใหญ่รวมเกจิสายภาคกลางคับคั่งอัญเชิญญาณสององค์พ่อมาสถิตที่องค์เหรียญจะหาเหรียญสวยแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆทองแดงนอกขัดเงาพระจริงสวยกว่ารูป

เหรียญ 2 มหาราช หลังยันต์องการมหาอุทัยใหญ่-มหาดำ-มหาแคล้ว-เมตตามหานิยม สมทบทุนสร้าง ร.พ. 84 พรรษามหาราช พ.ศ. 2555 เนื้อทองแดงขัดเงา พร้อมกล่องเดิม นายกฤษณ์ เกียรติพนชาติ ผู้อำนวยการเขตบึงกุ่ม กล่าวว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานผ้าพระกฐินให้กรุงเทพมหานคร นำไปทอดถวายแด่พระสงฆ์จำพรรษา ประจำปี 2555 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา 15.00 น. ณ วัดศรีสุดาราม แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย



เขต จึงขอเชิญชวนหน่วยงานทุกภาคส่วน ประชาชนในพื้นที่ร่วมบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลฯ โดยผู้บริจาค 200 บาท จะได้รับเหรียญ 2 มหาราช 1 เหรียญ, บริจาค 1,000 บาท จะได้รับเหรียญ 2 มหาราช 1 กล่อง (ภายในกล่องบรรจุเหรียญ 2 มหาราช จำนวน 5 เหรียญ) โดยยอดเงินบริจาคกรุงเทพมหานคร จะนำไปถวายวัดศรีสุดารามเพื่อบำรุงและบูรณะพระอาราม และสมทบทุนสร้างโรงพยาบาล 84 พรรษามหาราช เขตคลองสามวา



นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนสร้างโรงพยาบาล 84 พรรษามหาราช เขตคลองสามวา และร่วมบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2555 ณ พระอารามวัดศรีสุดาราม วรวิหาร แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย ในวันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา 15.00 น.


ทั้งนี้ผู้ร่วมทำบุญ 100 บาท จะได้รับพระ 2 มหาราช (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) เนื้อผงว่าน 108 จำนวน 1 องค์ ร่วมทำบุญ 200 บาท จะได้รับเหรียญ 2 มหาราช จำนวน 1 เหรียญ ร่วมทำบุญ 500 บาท จะได้รับพระ 2 มหาราช เนื้อผงว่าน 108 จำนวน 1 ชุด (5 องค์) และร่วมทำบุญ 1,000 บาท จะได้รับเหรียญ 2 มหาราช จำนวน 1 ชุด (5 เหรียญ) ซึ่งด้านหลังของเหรียญลงอักขระยันต์ 5 ชนิด มีพุทธคุณในด้าน 1. แคล้วคลาด 2. มหาอุตม์ 3. มหาระงับ 4. เมตตา 5. มหานิยม

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นวีรกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ทรงเป็นยอดนักรบที่เก่งกล้าสามารถมาตั้งแต่
ทรงพระเยาว์ ได้ทรงกอบกู้เอกราชให้แก่ชาติไทย พระวีรกรรมอันยิ่งใหญ่คือทรงกระทำยุทธหัตถี มีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา
ท่ามกลางวงล้อมของข้าศึก ณ ยุทธภูมิหนองสาหร่ายสุพรรณบุรี เมื่อ พ.ศ.2135 ทรงแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ปาน
ประหนึ่งเทพยดาปกป้องคุ้มครอง, ปิด, ปัดกระสุนปืนไฟ หอก ดาบ แหลน หลาว ธนู หน้าไม้ของข้าศึกที่รุมล้อมพระวรกาย
กฤษฏาภินิหารแห่งพระองค์เป็นที่เลื่องลือ ศัตรูครั่นคร้ามไม่กล้ารุกรานประเทศไทย นานถึง 150 ปี
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นวีรกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ทรงเป็นยอดนักรบที่เก่งกล้าสามารถมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ได้ทรงกอบกู้เอกราชให้แก่ชาติไทย พระวีรกรรมอันยิ่งใหญ่คือทรงกระทำยุทธหัตถี มีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา ท่ามกลางวงล้อมข้าศึก ณ ยุทธภูมิหนองสาหร่ายสุพรรณบุรี เมื่อ พ.ศ.2135 ทรงแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ปานประหนึ่งเทพยดาปกป้องคุ้มครอง ปิด ปัดกระสุนปืนไฟ หอก ดาบ แหลน หลาว ธนู หน้าไม้ของข้าศึกที่รุมล้อมพระวรกาย กฤษฎาภินิหารแห่งพระองค์เป็นที่เลื่องชื่อ ศัตรูครั่นคร้ามไม่กล้ารุกรานประเทศไทยนานถึง 150 ปี
ในปัจจุบันได้มีพระเกจิอาจารย์ ซึ่งมีญาณสมาบัติแก่กล้า ได้กราบทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า ดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์สมเด็กพระนเรศวรมหาราช ได้สถิตเป็นองค์พระสยามเทวาธิราช ซึ่งทรงปกป้องคุ้มครองรักษาประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา
ทรง มีพระราชศรัทธาเคารพเทิดทูนพระวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราข ที่ทรงมีความเสียสละ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ทรงนำกำลังทหารออกทำการรบด้วยพระองค์เอง เพื่อป้องกันรักษาผืนแผ่นดินไทยให้เป็นมรดก ตกทอดมาถึงลูกหลานไทยในปัจจุบัน ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าจึงควรรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เพื่อให้เกิดกฤตานุภาพและมีความศักดิ์สิทธิ์ จะได้เป็นวัตถุมงคลที่ให้ความคุ้มครองป้องกันผู้ที่มีไว้บูชา ให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และประสบความเจริญก้าวหน้า มีโชคลาภ สัมฤทธิผลในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ
เมื่อ พ.ศ. 2500 อาตมา (หลวงพ่อ-ฤาษีลิงดำ) ป่วยหนัก ไปนอนพักรักษาตัวที่กรมแพทย์ทหารเรือ (ปัจจุบัน – โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า) ไปนอนอยู่ที่ตึก 1 เป็นห้องพิเศษ เวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษๆ ไฟฟ้าในห้องยังไม่ดับและประตูก็ใส่กลอนแล้ว ถึงเวลานอน นอนคนเดียวยังไม่หลับ ปรากฎว่ามีคนๆหนึ่งมายืนอยู่ข้างเตียง เป็นชายลักษณะเป็นคนล่ำๆ ท่าทางแข็งแรงทะมัดทะแมงปราดเปรียวมาก เป็นคนผิวขาว หน้าค่อนข้างจะสี่เหลี่ยมนิดๆ แต่มีเนื้อเต็ม นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาวเหนือเข่านิดหนึ่ง ใส่เสื้อแขนสั้นสีขาวเหนือศอกหน่อย
ก่อนที่อาตมาจะเห็นท่านผู้นี้ ก็เพราะขณะที่ไปนอนป่วยอยุ่ที่นั่นก็มีความรู้สึกว่า บรรดาผีทั้งหลายอาจจะแกล้งได้ง่าย เนื่องจากกำลังใจของคนป่วยความเข้มแข็งน้อย ก็นึกว่าในที่นี้เป็นเขตพระราชฐานของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงขอพึ่งบารมีท่านให้คุ้มครอง พอท่านมายืนก็มองเห็นไม่ต้องหลับตาไม่ต้องเข้าฌาน ในเมื่อผีจะแสดงตัวให้ปรากฎ แต่ความกลัวไม่มีเพราะเรื่องนี้ชินมาตั้งแต่บวชพรรษาที่ 1 ก็เลยถามท่านว่า “ท่านเป็นใคร” ท่านผู้นั้นก็ถามว่า “เมื่อกี้ท่านนึกถึงใคร” ก็ตอบท่านว่า “นึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
ท่านก็บอกว่า “ผมนี่แหละ พระเจ้าตากสินมหาราช” ก็เลยมองไปมองมา ดูลักษณะการแต่งตัวของท่าน ท่านถามว่า “มองอะไร” ก็บอกว่า “มองดูลักษณะพระเจ้าตากสินมหาราช” ท่านถามว่า “เชื่อหรือยังว่าเป็นพระเจ้าตากสินมหาราช” ตอบว่า”ยังไม่เชื่อ ที่มองเพราะยังไม่เชื่อ” ท่านถามว่า “ไม่เชื่อตรงไหน” ก็บอกว่า “ไม่เชื่อตรงกางเกงกับเสื้อเพราะพระมหากษัตริย์ไม่น่าจะนุ่งแบบนี้” ท่านถามว่า “กษัตริย์ต้องทรงเครื่องกษัตริย์นอนเชียวหรือ นี่มัน 4 ทุ่มกว่าแล้วนะ” ก็บอกว่า “จะรู้ได้อย่างไรในเมื่อเป็นกษัตริย์ เวลาเป็นผีมาแสดงตนให้ปรากฎ ก็ต้องใช้เครื่องทรงแบบกษัตริย์” ท่านบอกว่า “ใช้เครื่องทรงกษัตริย์ก็ได้” พอพูดจบเครื่องทรงก็เป็นกษัตริย์ ท่านถามว่า “เชื่อหรือยัง “ ตอบว่า “ตอนนี้เชื่อแล้ว”
ต่อมาก็คุยกันตั้งแต่ 4 ทุ่มเศษๆ ถึงตี 5 ครึ่ง คุยกันเรื่องในอดีต ความเป็นมาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งแต่เป็นเด็กชายสินไว้หางเปีย จนกระทั้งถึงขั้นวางแผนให้รัชกาลที่ 1 เป็นพระมหากษัตริย์ เป็นการยืนยันว่าพระองค์ไม่ได้ถูกรัชกาลที่ 1 ประหารชีวิต เมื่อรัชกาลที่ 1 ขึ้นเถลิงราชสมบัติแล้ว ก็นำสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านบวชเป็นพระแล้วนั่งคานหามไปส่งออกทางปากท่อ ตอนกลางคืน ไปส่งที่ถ้ำในจังหวัดนครศรีธรรมราช ลูกชายของท่านมีสองคน คนพี่ให้เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชจะได้บำรุงพ่อ คนน้องก็ให้ทุนเป็นพ่อค้าสำเภา เป็นการหาทรัพย์สินเข้าเมือง เป็นการยืนยันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนจะสวรรคตเป็นพระสงฆ์ ไม่ได้ถูกฆ่าตาย พระองค์สวรรคตที่นครศรีธรรมราช ถ้ำที่ท่านพักก็ยังอยู่ กุฎิหลังนั้นเขาทำเลียนแบบไว้ แต่ความจริงกุฎิที่อยู่จริงๆ ดีกว่านั้น เขาทำให้มีความผาสุก กว่านั้น ออกจากถ้ำท่านก็มีที่พัก มีห้องพักแบบสบายๆ ความจริงท่านไม่ได้สั่ง แต่ลูกชายเป็นคนสร้างให้ ท่านอยู่ด้วยความสงบ คนที่เป็นกษัตริย์มาแล้ว เป็นทุกอย่างมาแล้ว มันก็หมดความโลภ ความโกรธ ความหลง และก็เป็นคนแก่ด้วย ก็หมดความรัก ฉะนั้นการปฏิบัติธรรมของท่านก็เป็นไปด้วยความเคร่งครัด แต่ไม่ได้เคร่งเครียด คำว่า “เคร่งครัด” คือ “ปฎิบัติตรงไปตรงมา ในมัชฌิมาปฎิปทา”
ก่อนท่านจะลากลับ อาตมาถามว่า “ขอหวยสัก 2 ตัวได้ไหม” ท่านบอกว่า “สมัยผมมีแต่หวยจัยยี่กี หวยแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว แบบนี้ไม่มี เรื่องหวยนี่ผมไม่รู้หรอก แต่เวลานี้ผมมีสตางค์ติดกระเป๋ามาเพียง แค่ 25 สตางค์ ผมขอถวายหมด” พูดแล้วท่านก็หยิบเหรียญโยนไปใต้เตียงเห็นเลข 25 ใสแจ๋ว พอตอนเช้าบรรดาพยาบาล และนายทหารประจำตึกมาถามว่า “เมื่อคืนมีอะไรบ้างครับ” ก็เลยเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาเยี่ยม ขอหวยท่าน ท่านบอกว่าไม่มี มีแต่เงินเหรียญ 25 สตางค์ แล้วท่านก็โยนเหรียญไปใต้เตียง ปรากฎว่าภายในวันนั้นข่าวกระจายไปทั่วกรมอู่ ทุกคนเล่นเลยท้าย 2 ตัว ถูกกันมาก
ต่อมาวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2533 วันนั้น พ.อ.สถาพร ได้นำดาบเล่มหนึ่งมาจากเมืองตาก เขาบอกว่าเป็นดาบของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อมาให้เจ้ากรมการสัตว์หหารบกที่จังหวัดนครปฐม คืนนั้นก็นำดาบตั้งไว้ที่มีเครื่องสักการะ พอตอนดึกเวลาประมาณสัก 6 ทุ่ม เวลาจะนอน ก็ทำจิตเป็นสมาธิตามปกติของพระ ก็เห็นภาพสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ สวยงามมากมาที่ดาบ ถามท่านว่า “มาทำไม” ท่านบอกว่า”ก็เขาว่าดาบของผมนี่ครับ ผมก็มาทำให้มันหน่อย” ถามว่า ทำแล้วจะมีประโยชน์อะไรบ้าง” ท่านก็บอกว่า “ประโยชน์มี”
หลังจากนั้นก็คุยกันถามว่า “เวลานี้ลาจากพุทธภูมิหรือยัง” ท่านบอกว่า “ยังไม่ได้ลา” จึงถามว่า “ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้าจริงๆ หรือ “ ท่านบอกว่า “เวลานี้พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็มรอคิวกันยาวเหยียด ผมก็อยากจะลาพุทธภูมเหมือนกัน แต่ก็ไม่แนใจว่าถ้าลาแล้วจะมีผลเป็นประการใด” ก็เลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นไปคุยกับพระกันดีกว่า ไปด้วยกันไหม” ท่านบอกว่า “ไปซิ ที่มานี่ก็จะมาชวนไปหาพระด้วยกัน”
เมื่อไปถึงกราบท่านแล้วก็ถามว่า เวลานี้เทวดาสิน เป็นพระโพธิสัตว์ อยากจะทราบว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไร หลังจากพระศรีอาริย์ไปแล้ว” พระท่านก็บอกว่า”จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 30 หลังพระศรีอาริย์นิพพานแล้ว” ก็เล่นเอาเทวดาสิน ต้องไปนั่งยิ้มที่ชั้นดุสิตอีกถึง 30 พระพุทธเจ้า ก็เลยถามพระว่า “ถ้าเทวดาสินจะลาจากพุทธภูมิ เมื่อไรจะไปนิพพาน” ท่านบอกว่า “เทวดาสินนี่ ถ้าหากลาจากพุทธภูมิเป็นสาวกภูมิ กำลังเต็มมานานแล้ว ก็เหลือแต่ เอหิภิกขุ เท่านั้นก็พอแล้ว ถ้าตรัสว่า เอหิภิกขุ เทวดาสินก็เป็นพระสมบูรณ์แบบ” ท่านก็เลยเข้าไปกราบพระ พระท่านก็บอกว่า “เอหิภิกขุ เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด” เพียงเท่านี้ เทวดา สินก็กลับสภาพจากเทวดา เป็นวิสุทธิเทพ
นี่เป็นเรื่องของนิมิตลืมตา ไม่ใช่นิมิตหลับตา ไม่ได้เข้าฌานสมาบัติ ถ้าถามว่า “ถ้าไม่เข้าฌานสมาบัติ แล้วรู้ได้อย่างไร” ก็บอกว่า “ท่านแสดงภาพให้รู้ มันก็รู้ด้วยกันทุกคนแหละ ไม่ว่าใคร “คนที่เห็นผีเข้าฌานหรือเปล่า เดินไปแล้วก็ถูกผีหลอก ต้องเข้าฌานหรือเปล่า สภาพนี้ก็เหมือนกัน ผีไม่ได้หลอกแต่ว่าผีมาชวนคุย ผีมาบอกตามความเป็นจริง ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าฌานสมาบัติ.."

จากหนังสือ..... ตายไม่สูญ ... แล้วไปไหน
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

ฉฉ
ราคาเปิดประมูล310 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 16 เม.ย. 2557 - 15:07:08 น.
วันปิดประมูล - 26 เม.ย. 2557 - 15:07:08 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsomkiatthornburi (13.8K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 16 เม.ย. 2557 - 15:07:25 น.



rr


 
ราคาปัจจุบัน :     310 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM