(0)
**** สมเด็จปู่เฒ่า ***** หลวงปู่สุภา กันตสีโล วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต มาพร้อมกล่องเดิม ครับ องค์นี้พิเศษเนื้อออกน้ำตาลอมม่วง แก่มวลสาร








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง**** สมเด็จปู่เฒ่า ***** หลวงปู่สุภา กันตสีโล วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต มาพร้อมกล่องเดิม ครับ องค์นี้พิเศษเนื้อออกน้ำตาลอมม่วง แก่มวลสาร
รายละเอียด" สมเด็จปู่เฒ่า " จัดเป็นสุดยอดวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายของ หลวงปู่สุภา อริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน ผู้เปี่ยมไปด้วยบุญญฤทธิ์

วัตถุมงคลที่เป็น "รุ่นสุดท้าย" โดยทั่วไปแล้ว วัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายมักจะเป็นรุ่นที่หลวงปู่ หรือ หลวงพ่อครูบาอาจารย์ ท่านสร้างในช่วงท้ายๆซึ่งกว่าจะได้มาถึงจุดๆนี้ ท่านต้องสร้างและสะสมบารมีมามากมาย และ ด้วยถ้อยคำที่เรามักพูดกันว่าเป็นรุ่นสุดท้าย เพราะฉะนั้นท่านจะต้องตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ชนิดที่เรียกได้ว่า มีเท่าไหร่ใส่เข้าไปหมด ทิ้งทวน

และสมเด็จปู่เฒ่า ก็คือ วัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย ที่หลวงปู่สุภา กันตสีโล ตั้งใจจัดสร้าง และปลุกเสก เพื่อบูชาคุณต่อครูบาอาจารย์ พระรุ่นสุดท้ายนี้จึงไม่ธรรมดา มีแรงครูหนุนนำให้เข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ร้อยเท่าพันทวี

หลวงปู่สุภาท่านเคยพูดเอาไว้ว่า " หากไม่มีพระเสด็จก็ห้อยสมเด็จปู่เฒ่าแทนได้ "

สมเด็จปู่เฒ่า มีพระเสด็จกลับที่แตกหัก-ชำรุด ผสมอยู่เป็นจำนวนมาก
มีสมเด็จปู่เฒ่า ก็เหมือนกับมีทั้งพระรุ่นแรก และ รุ่นสุดท้าย ผนึกกำลังเข้าด้วยกัน

สมเด็จปู่เฒ่า
มรดกวัตถุมงคลชิ้นสุดท้ายของหลวงปู่สุภา ที่ท่านได้ตั้งใจมอบให้เหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพ เลื่อมใส เอาไว้บูชาและคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สาเหตุที่เรียกว่าเป็น "มรดกวัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย" ของหลวงปู่สุภา สืบเนื่องมาจาก หลวงปู่ได้ประกาศเลิกสร้างวัตถุมงคล และมีดำริที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายขึ้น ตาม "สัจจะอธิษฐาน" ที่ท่านเคยได้ตั้งไว้กับ "อาจารย์ใหญ่"(พระอรหันต์ ที่ดำรงอิทธิบาท 4 มานับพันปี ที่ท่านพบในถ้ำ
จุงจิง)

หลวงปู่ได้เล่าให้ฟังเมื่อวันที่ 8 มค 50 เมื่อครั้งที่ท่านมาโปรดลูกศิษย์ที่นิมนต์ท่านมาจำวัดที่บ้านของลูกศิษย์ท่านนี้ที่กรุงเทพ ท่ามกลางคนเป็นจำนวนมากว่า "พระสมเด็จปู่เฒ่านี้ ศักดิ์สิทธิด้วยแรง สัจจะอธิษฐาน " ของอาตมาที่มีต่ออาจารย์ใหญ่ที่เป็นพระอรหันต์รอการมาตรัสรู้ของพระศรีอาริยเมตตรัย ซึ่งหลวงปู่เคยไปเรียนวิชาด้วยที่เมืองจีน "

เนื่องจากในครั้งนั้นท่านได้ตั้งสัจจะ ไว้ว่าจะสร้างพระขึ้นมา 1 รุ่นเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูและ ระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ของท่าน โดยท่านได้อธิฐานบอกกล่าว อาราธนาครูบาอาจารย์ทุกองค์และพระอรหันต์ที่ถ้ำจุงจิง ประเทศจีน ที่ท่านเคยพบและเรียนกรรมฐานด้วยว่า
"เมื่อใดที่ได้มีการสร้างพระที่ตั้ง สัจจะไว้ ขออารธนาท่านเหล่านั้นมาช่วยแผ่บารมีและพุทธาภิเษกให้ด้วย" ซึ่งท่านเหล่านั้นก็ได้รับอาราธนาหลวงปู่ไว้

ดังนั้น เมื่อหลวงปู่มีดำริที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลชุดสุดท้ายนี้ขึ้นมา ท่านจึงตั้งชื่อวัตถุมงคลรุ่นนี้ว่า "สมเด็จปู่เฒ่า" เพื่อเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์ผู้เฒ่าทั้งหลายของท่าน ที่ท่านได้เคยศึกษาวิชามาด้วย

การอธิษฐานจิต

เนื่องจากหลวงปู่ตั้งใจที่จะทำวัตถุมงคลชุดนี้เป็นชุดสุดท้าย โดยท่านเล่าให้ฟังว่า จะทำไว้ให้ลูกศิษย์ได้มีไว้ติดตัวบูชากัน เพื่อป้องกันภัยอันตรายต่างๆที่จะเกิดมีขึ้นมาในอนาคต ครั้งนี้ท่านจึงได้ทำการพุทธาภิเษกพระที่ไม่เหมือนใคร โดยหลวงปู่ท่านได้ทำการปลุกเสกเป็นการส่วนตัว โดยท่านให้ลูกศิษย์นำพระรุ่นนี้เข้ากุฏิใหม่ ชั้น 2 และปิดประตูห้อง "ห้ามใครรบกวน" โดยใช้เวลาในตอนกลางคืนปลุกเสกพระรุ่นนี้ถึง "10คืน" ก่อนจะนำออก ให้เช่าบูชา

หลวงปู่ได้เล่าให้ฟังในภายหลังว่า ท่านได้อาราธนาครูบาอาจารย์ทุกองค์ของท่านและพระอรหันต์ที่หลวงปู่ได้เคยอาราธนาไว้ที่ทำถ้ำจุงจิง ขอบารมีของครูบาอาจารย์ทั้งหมดของท่าน ให้มาช่วยกันอธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อให้มีพุทธคุณครอบคลุมในทุกๆด้าน

ท่านบอกว่า ในแต่ละคืนที่ท่านปิดประตูปลุกเสกห้ามใครเข้ามารบกวนอยู่คนเดียวในห้อง จะมีครูบาอาจารย์ของท่านหมุนเวียนกันมาช่วยอธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุดนี้ แผ่บารมีและพุทธาภิเษกพระรุ่นนี้จนมีพุทธคุณครอบคลุมในทุกๆด้าน

โดยเฉพาะคืนที่ 5 ได้เกิดปาฏิหารย์ขึ้น กล่าวคือในขณะที่ท่านอธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุดนี้อยู่ในห้อง จู่ๆเสาไฟในวัดก็ล้มระเนระนาดโดยไม่มีสาเหตุไฟฟ้าดับทั้งวัด และ ได้เกิดไฟลุกไหม้ภายใน ห้องที่ท่านกำลังพุทธาภิเษกพระสมเด็จปู่เฒ่าอยู่ ซึ่งไฟได้ไหม้พรมที่กองวัตถุมงคลวางทับอยู่ แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ ไฟที่เกิดขึ้นไม่ลุกลามออกมานอกพรม และไม่สามารถทำลายกองวัตถุมงคลที่ตั้งอยู่บนพรมที่กำลังมีไฟลุกไหม้อยู่นั้นได้ รวมถึงยังไม่สามารถทำอันตรายต่อหลวงปู่ที่กำลังนั่งกรรมฐานปลุกเสกวัตถุมงคลชุดนี้อยู่ได้

ความร้อนของไฟที่ลุกไหม้นั้นถึงขนาดทำให้สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง ของกรรมการวัดท่านหนึ่งที่วางไว้ภายในกองวัตถุมงคลที่หลวงปู่กำลังปลุกเสกอยู่ ถึงกับ หลอมละลายจากสร้อยกลายเป็นก้อนทองไปเลยทีเดียว

เพลิงได้ลุกไหม้อยู่นานจนกระทั่ง ผู้ที่ดูแล หลวงปู่รู้สึกแปลกว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นข้างบน จึงได้ขึ้นไปแอบดูจึงได้เห็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้ช่วยกันเข้าไปดับไฟที่กำลังโหมไหม้พร้อมทั้ง นิมนต์ หลวงปู่ออกจากสมาธิ และนำท่านออกมาจากห้องได้โดยปลอดภัย เมื่อท่าน ออกจากสมาธิจึงบอกว่าพระรุ่นนี้ได้เสกจนครบถ้วนบริบูรณ์ดีแล้วแต่ท่านจะ ยังคงทำพิธีต่อไปอีกเรื่อยๆจนครบ 10 วันตามที่ได้ตั้งใจไว้

มวลสารหลักที่สำคัญๆมีดังนี้
1. พระผงนะหน้าทองแตกหัก หลวงปู่มีวัดมารวิชัย(เสก20ปี) เกือบเต็มบาตร เจ้าอาวาสวัดมารวิชัยถวายมา
2. พระผงแตกหักหลวงพ่อเกษม ได้มาจากคลังของสุสานไตรลักษณ์
3. ผงปูนจากฐานพระพุทธวิชิตมาร วัดมารวิชัย
4. ตะไบชนวนพระกริ่งหลายๆรุ่นของวัดสุทัศน์และวัดบวร
5. ผงว่าน 108 ที่เหลือจากการทำพระขุนแผนสาริกา(2 บาตร)
6. พระเสด็จกลับที่แตกหักบดเป็นผง
7. เกษาหลวงปู่สุภา
8. ชานหมากหลวงปู่สุภา
9. แป้งเสกหลวงปู่ต่าง เช่นหลวงปู่บุดดา หลวงปู่เย็น
10.ผงวิเศษที่หลวงปู่สุภาเสกให้ไว้
11.พระธาตุ(หลวงปู่นำมามอบให้ผสม)
12.ผงดอกไม้บูชาพระที่วัดสีลสุภาราม
13.ข้าวที่ท่านเคยออกบิณบาตรเมื่อกลางปี 48
14.สีผึ้งเดือน5ยอดมหาเสน่ห์ของหลวงปู่ที่เก็บไว้
15.พระรุ่นเก่าๆที่แตกหัก
16.ผงจากเต่ากัสสะโป
17.ดินจากสังเวชนียสถาน
18.ใบโพธิ์จากสังเวชนียสถาน
19.ปูนเปลือกหอย

ราคาไม่แพงครับ ท่านใดชอบก็ลองเคาะดูครับ

ยังมีพระเครื่องอีกมากมายหลายรายการให้ท่านเลือกชม

โปรคคลิ้กที่รูปฆ้อน

ขอบคุณครับ
ราคาเปิดประมูล1,200 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 13 พ.ย. 2556 - 22:17:53 น.
วันปิดประมูล - 23 พ.ย. 2556 - 22:17:53 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลม่อเส้าชง (2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM