(0)
พระคำข้าว รุ่น 2 ( พระเก็บในถุง ไม่ผ่านการใช้ ) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง องค์ที่ 3








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระคำข้าว รุ่น 2 ( พระเก็บในถุง ไม่ผ่านการใช้ ) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง องค์ที่ 3
รายละเอียดสมเด็จพระโฆษาจารย์ วัดสามพระยา กล่าวถึงสมเด็จพระคำข้าว แห่ง วัดท่าซุง
จากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๒๐ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ หน้าที่ ๔๕ หัวข้อ “สนทนาที่สายลม”
เรื่อง ยกทรงคุยกับสมเด็จวัดสามพระยา
(ยกทรงเล่าเรื่องให้ฟัง)
“เรื่อง สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยานี่ก็ หลังจากหลวงพ่อกลับไปแล้ว ยกทรงก็นำอาหารไปถวายสมเด็จเป็นประจำ วันที่จะเป่าปลุกเสกวันที่๒๙ ธ.ค. ๓๓ ยกทรงก่อนจะเดินทางไป ท่านก็บอกว่า
นี่ พระสมเด็จมหาลาภคำข้าวของวัดท่าซุงน่ะ ไม่ใช่พระธรรมดานะ
ก็เรียนถามเป็นพระอะไรครับที่ไม่ใช่ธรรมดา
ท่านบอกที่อื่น ๆ ส่วนมากพระล่างปลุกเสกกัน แต่ที่วัดท่าซุงนี่มีพระล่าง คือ หลวงพ่อปลุกเสก เข้าใจไหม
เอ...ไม่รู้ครับ
พระ ล่างก็หมายถึงหลวงพ่อหลวงปู่ปลุกเสกกัน ท่านอธิบายให้ฟัง พระบนก็หมายความว่า ท่านก็หยุด แทนที่ท่านจะอธิบายต่อ ท่านก็คว้าหมากเอาปูนใส่ แล้วท่านก็ฉัน โอ๊ย ลีลาน่ารักอ่อนช้อย แล้วก็ท่านยืนยันเลยว่าพระมหาลาภคำข้าวรุ่นนี้น่ะ ท่านบอกว่าคงจะไม่ถึงตลอดปี ๓๔ จะหมด เหตุผลก็คือ ท่านบอกว่าอย่างนี้
ฉัน จะเล่าให้ฟัง ฉันสร้างตัวอาคารที่อาคารพระปริยัติน่ะ ๙๐ เมตรที่วัดน่ะ เป็นสิบ ๆ ล้านนะ ค่าแรงทั้งหมดน่ะ ๖ ล้านบาท เพราะวัดปากน้ำนี่เขามีของดีอย่างหนึ่งคือ ของไม่แห้ง
ผมถามว่าอะไรครับ ของไม่แห้ง ว่าแล้วคว้าหมากต่อ
ท่านบอก ว่า สด ไง ล่ะ เจ้าอาวาสเขาชื่อสด ตอนเป็น ๆ ก็สดชื่น พระที่วัดไม่ต้องบิณฑบาต เงินทองไหลมาเทมา เพราะบารมีกรรมฐานธรรมกาย และที่ท่านตายไปแล้วก็ยังสดชื่น พระที่วัดไม่ต้องบิณฑบาต เงินทองไหลมาเทมา เวลาเทศกาลงานกฐินก็มีคนจองล่วงหน้า แล้วท่านก็เลยสรุปว่า เนี่ย เพราะท่านมีดีอย่างหนึ่งคือ ไม่แห้ง รุ่นที่รับพระสมณศักดิ์ ราคาเป็นหมื่นเป็นพัน แต่ว่า... ท่านพูดแค่นั้นท่านก็หันหน้าเอาผ้าเช็ดปาก เอาน้ำบ้วนปากเสร็จแล้วนึกว่าท่านจะเล่าต่อ เปล่า ท่านเอาหมากมากินอีกคำ แล้วท่านก็เลยบอกว่า นี่คุณวีระ(ใหม่ ๆ เรียกยกทรง ตอนนี้ไม่เอาแล้วเรียกคุณวีระเสียแล้ว) คุณน่ะอย่าลืมนะไปวัดท่าซุง ตุนเข้าไปเถอะ แพงแล้วหายากแล้ว หนัก ๆ เดี๋ยวก็ว่า แล้ว หนัก ๆ แล้วท่านก็บอกว่า ต่อไปจะมีคุณค่ามาก ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ท่านบอกให้ตุนไว้ เพราะว่ามีข้างบนลงมาปลุกเสกด้วย ท่านบอกว่าท่านยืนยันอย่างนั้น ที่ท่านพูดเช่นนี้ได้ใครจะว่ายังไงก็ตามแต่ท่านบอกท่านยืนยันอย่างนี้”
(หลวงพ่อ) ว่าเรื่อยไปเลย
แล้วท่านก็คุยต่อ
“คือ ว่าอย่างนี้ สมัยที่ฉันหนุ่ม ๆ นะบังเอิญไปที่วัดพระพุทธชินราชที่พิษณุโลก เขาว่าพระพุทธชินราชที่พิษณุโลกนี่นะ มีเทวดามาช่วยมาสร้าง ไอ้ฉันก็นั่งคิด ๆ เพราะตอนนั้นก็ยังหนุ่มอยู่ แหม... ไม่จริงแน่ แต่พอฉันไปวัดท่าซุง ไปที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร พอไปเห็นองค์พระพุทธชินราช ฉันเลยต้องบอกว่าฉันเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเทวดามีจริง มาสร้างมาช่วย อย่างที่วัดท่าซุงนี่ไม่ใช่วัดธรรมดา เป็นวัดล่างวัดบน แล้วท่านก็บอกว่า เนี่ย ฉันจึงยอมเชื่อว่าวัดท่าซุงนี่ ถ้าไม่มีข้างบนมาช่วยนะ ไม่มีทาง ท่านบอกไม่มีทาง”
(หลวงพ่อ) มี ทางมี แต่ไม่มีกุฏิ
“หลวงพ่อเถียงสมเด็จ ฯ เหรอ”
ไม่ใช่เถียงสมเด็จ เถียงยกทรง ทางน่ะมี เพราะไม่มีวิหารจะสร้าง ไม่มีเงินสร้างมีทางเยอะแยะ เดี๋ยวนี้สิไม่มีทาง
“เมื่อก่อนมีทางใช่ไหมครับ”
ใช่
“แล้ว ท่านก็เลยบอกว่าที่วัดท่าซุงน่ะมีข้างบนเขามาช่วยเต็มที่ ทั้งพระทั้งเทวดา ฉันเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น วัดนี้นะต่อไปจะมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง (ท่านแนะนโยบายว่า) การที่จะไปทำบุญกับหลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง เราต้องมีเหลี่ยมกับท่านหน่อย เพราะพระองค์นี้ไม่เหมือนพระชาวบ้านชาวเมือง”
เหมือนยังไง คนละคน ไม่เหมือนกันหรอก สมเด็จผอมกว่าฉัน แล้วฉันต่ำกว่าสมเด็จ(หัวเราะ)
“องค์นั้นไม่มีหนี้ องค์นี้เป็นหนี้”
ไม่ก้อยฉันว่าเป็นหนี้ เป็นนะ เป็น
“เขาเรียกว่าเป็นหนี้เงียบ ๆ นะครับ”
ใช่ ๆๆ
“ฉะนั้น ท่านถึงยอมรับว่าเพราะข้างบนข้างล่างมาร่วมกัน งานจึงสำเร็จเรียบร้อย ท่านบอกว่าอย่างนี้ คือว่าถ้าจะไปเช่า จะไปทำบุญหรือจะไปเช่าพระมหาลาภคำข้าวกับหลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุงน่ะ ต้องละเอียดกว่าท่านหน่อย ท่านแนะผมว่าอย่างนี้แล้วท่านก็เรียกลูกศิษย์ผู้หญิงท่านหนึ่ง
“หนู ๆ ๆ เข้ามา ๆ ฝากเงินคุณวีระไป ๕๐ บาท ไปเช่าพระผง แต่เวลาเข้าไปน่ะ ให้เข้าไปทีละ ๑๐ บาท ได้องค์หนึ่ง แล้วก็ถอยออกมาแล้วไปต่อแถวที่เดิมอีกจะได้ ๕ องค์ เพราะว่าเข้าไปทีเดียว ๕๐ น่ะได้องค์เดียว
พอพูดแล้วท่านก็หัวเราะ ท่านดีใจว่าเหลี่ยมดีกว่าวัดท่าซุง
“นี่ แหละครับ ความจริงไปคุยทุก ๆ วัน วันละเรื่อง ๆ นะ ที่พูดวันนี้ ก็เพราะว่าเกี่ยวโยงกับพระคำข้าวมหาลาภ พยายามนะ เก็บไว้ องค์ไหนที่รับกับมือหลวงพ่อ องค์นั้นนะเก็บให้ดี ให้ติดกับตัว จะเลี่ยมหรือว่าจะใส่กระเป๋าสตางค์ก็ได้ แยกต่างหาก เพราะว่าท่านไม่ได้แจกองค์เดียว ตอนนี้ยกทรงก็เผลอเถียง ไม่ได้เถียงนะ ค้าน แจกองค์เดียวครับขนาดแจกไปแจกมาทีแรกก็มือแจกนะ หนัก ๆ เข้า ก็ต้องยื่น ๆๆๆ แถม สโลโมชั่น สงสัยจะเหนื่อยนะ เราบอกไม่ใช่ แจกองค์เดียวครับ ท่านก็ยังยืนยัน แต่ความจริงหลวงพ่อมีองค์ปฐมหรือองค์ปัจจุบัน ครับที่สงเคราะหลวงพ่ออยู่ เวลาแจกพระ”

หลวงพ่อ) เวลาแจกหรือ ๑ องค์ปฐม ๒ องค์ปัจจุบัน ๓ พระพุทธทีปังกร ๔ พระพุทธกัสสป และ ๕ พระปัจเจกพุทธเจ้าที่อยู่เวลานี้นะ
“อย่างนั้นก็ตรง ที่สมเด็จท่านพูดเป็นนัย ๆ ก็มาตรงกัน
ตรงกันเพราะท่านรู้เรื่อง
“แล้วการปลุกเสกคราวนี้จะมีอะไรที่พอจะเล่าให้ลูกหลานฟังบ้างไหมครับ เพราะต้องผิดปกติแน่”
มี ขาบวมทั้ง ๒ ข้าง ขึ้นไปกุฏิขาบวมปูดเลย ไอ้ขาโต๊ะ เขาทำขยับขาไม่ได้ เขาทำเป็นชั้นมันต่ำ ขยับขาไม่ได้ ชาเด่ พอดีหมอคอยอยู่ หมอไปคอยอยู่ ๒ วัน
“นี่เป็นความอัศจรรย์”
ใช่ ๆๆๆๆ
“บาง ครั้งมีเหตุการณ์ เกิดมีหมาหอน พอจะหอนก็หอนพร้อมกัน ตอนที่หลวงพ่อปลุกเสกน่ะ แล้วก็ไฟดับ หลวงพ่อลองเล่าดีกว่า ขาบวม ไม่เอาครับ”
ไม่ ใช่ขาบวม มันเป็นขามหาเศรษฐีน่ะ อ้าว แบบมันยืนไม่ไหว ขาบวมไง เออ ก้าวไม่ขึ้น หนัก ความจริง พระท่านมาเต็มที่ สมเด็จองค์ปฐมลอยเต็ม พระพุทธเจ้าล้อมเต็ม แต่ไม่เห็นของที่ปลุกเสกเลย แสงขึ้นนะ สว่างมาก ของที่ปลุกเสกน่ะมองไม่เห็น
“ก็แสดงว่าองค์ปฐมเป็นประธาน”
ทั้ง หมด พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระอริยะทั้งหมด พรหม เทวดาทั้งหลาย พอเสร็จแล้วฉันตั้งเวลาไว้ ๑ ชั่วโมง พอถึงเวลา ๕๐ นาที ท่านบอกเต็มแล้วลูก แต่ว่าเวลาที่นั่งปลุกน่ะ ตามปกติมีพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตรคุมฉัน และปลุกพระคำข้าว กับพระหางหมากนี่ องค์ปัจจุบันคุมฉันเอง เวลาท่านยืนคุมอยู่ท่านพุ่งแสงใจมาที่กายฉันแสงสว่างเป็นลำนะ บอกให้นั่งเฉย ๆ ๑๐ นาที อย่าคิดเห็นอะไรทั้งหมด ให้อยู่เฉย ๆ นะ พอหลังจาก ๑๐ นาที บอกดูได้ ดูได้เห็นพระพุทธเจ้าพรึ่บ เต็มไปหมด พระอรหันต์เต็มไปหมด พอถึงคาถามหาลาภ ขึ้นเป็นแสงทองคำกระจายพรึ่บเต็มบริเวณทั้งหมดไปถึงคนเลย ฉะนั้นวันนี้ท่านให้มาเก็บค่าครู(หัวเราะ)

(หลวงพ่อ) เวลาแจกหรือ ๑ องค์ปฐม ๒ องค์ปัจจุบัน ๓ พระพุทธทีปังกร ๔ พระพุทธกัสสป และ ๕ พระปัจเจกพุทธเจ้าที่อยู่เวลานี้นะ
“อย่างนั้นก็ตรง ที่สมเด็จท่านพูดเป็นนัย ๆ ก็มาตรงกัน
ตรงกันเพราะท่านรู้เรื่อง
“แล้วการปลุกเสกคราวนี้จะมีอะไรที่พอจะเล่าให้ลูกหลานฟังบ้างไหมครับ เพราะต้องผิดปกติแน่”
มี ขาบวมทั้ง ๒ ข้าง ขึ้นไปกุฏิขาบวมปูดเลย ไอ้ขาโต๊ะ เขาทำขยับขาไม่ได้ เขาทำเป็นชั้นมันต่ำ ขยับขาไม่ได้ ชาเด่ พอดีหมอคอยอยู่ หมอไปคอยอยู่ ๒ วัน
“นี่เป็นความอัศจรรย์”
ใช่ ๆๆๆๆ
“บาง ครั้งมีเหตุการณ์ เกิดมีหมาหอน พอจะหอนก็หอนพร้อมกัน ตอนที่หลวงพ่อปลุกเสกน่ะ แล้วก็ไฟดับ หลวงพ่อลองเล่าดีกว่า ขาบวม ไม่เอาครับ”
ไม่ ใช่ขาบวม มันเป็นขามหาเศรษฐีน่ะ อ้าว แบบมันยืนไม่ไหว ขาบวมไง เออ ก้าวไม่ขึ้น หนัก ความจริง พระท่านมาเต็มที่ สมเด็จองค์ปฐมลอยเต็ม พระพุทธเจ้าล้อมเต็ม แต่ไม่เห็นของที่ปลุกเสกเลย แสงขึ้นนะ สว่างมาก ของที่ปลุกเสกน่ะมองไม่เห็น
“ก็แสดงว่าองค์ปฐมเป็นประธาน”
ทั้ง หมด พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระอริยะทั้งหมด พรหม เทวดาทั้งหลาย พอเสร็จแล้วฉันตั้งเวลาไว้ ๑ ชั่วโมง พอถึงเวลา ๕๐ นาที ท่านบอกเต็มแล้วลูก แต่ว่าเวลาที่นั่งปลุกน่ะ ตามปกติมีพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตรคุมฉัน และปลุกพระคำข้าว กับพระหางหมากนี่ องค์ปัจจุบันคุมฉันเอง เวลาท่านยืนคุมอยู่ท่านพุ่งแสงใจมาที่กายฉันแสงสว่างเป็นลำนะ บอกให้นั่งเฉย ๆ ๑๐ นาที อย่าคิดเห็นอะไรทั้งหมด ให้อยู่เฉย ๆ นะ พอหลังจาก ๑๐ นาที บอกดูได้ ดูได้เห็นพระพุทธเจ้าพรึ่บ เต็มไปหมด พระอรหันต์เต็มไปหมด พอถึงคาถามหาลาภ ขึ้นเป็นแสงทองคำกระจายพรึ่บเต็มบริเวณทั้งหมดไปถึงคนเลย ฉะนั้นวันนี้ท่านให้มาเก็บค่าครู(หัวเราะ)
“แล้วเกี่ยวกับพระมหาลาภคำข้าวนี้ได้ข่าวแว่ว ๆ ว่าคราวนี้ทำไม่ทันได้แค่ล้านสามแสนกว่า หรือครับ”
ใช่ ๆ ๆ วันที่ ๑๗ พ.ค. จะทำอีกประมาณสัก ๒ ล้านเศษ ๆ เท่าที่เขาจะทำเสร็จนะ

“งั้นแสดงว่ารุ่นนี้หนักกว่ารุ่นแรก”
ทำ แล้วก็เท่า ๆ กันนะ แต่ความจริงท่านมาเหมือนกันแต่ทำหนักมาก เป็นพิเศษทีเดียว รุ่นนี้ถือว่าเป็นพิเศษทีเดียว ก็คงพิเศษ อย่างนี้ไปทุกรุ่น ก็ต้องถือว่ารุ่นเดียวกัน ไม่ใช่พระหลายรุ่น
“มานึกในใจ ทำไมราคาไม่เท่าไหร่ คนอื่นเขาออกเป็นร้อยเป็นพัน”
เพราะ ท่านสั่งของท่านเอง องค์ปฐมนะ อย่างซุ้มประตูนี่ ซุ้มประตูทำใหม่นะราคาแสนห้าหมื่นเศษ แต่ว่ามีเจ้าภาพเขาให้เงินมาแสนบาทให้ทำ ๒ ซุ้ม ท่านเลยให้เขียนว่าบริจาค ๕ หมื่นบาท ๒ ซุ้มแล้วอีกแสนห้าเก็บแถวนี้
“เรื่องพระนี่คือว่าพระคำข้าวก็ดีพระหางหมากก็ดี ผลน่ะ ตุลิตะ ตุลิตัง เร็ว ๆ ไว ไม่ต้องรอเนิ่นนาน”
รุ่นนี้เร็วมาก
“ผมนึกในใจนี่ สงสัยจะสงเคราะห์ลูกหลานมากกว่า คนยากจน คนไม่จน คนอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
ท่าน ตั้งใจสงเคราะห์ทั้งคนทั้งวัด วัดรับไปให้เขาทำบุญราคามากกว่า ช่วยสร้างวัดไงเล่า ทีนี้ชาวบ้านที่เอาไปก็สงเคราะห์ อย่างยกทรงเอามาใช่ไหม อย่างมากรุงเทพฯนี่ เอาใครเอาจากฉันก็ได้คนละร้อยบาท ลองคิดซิ ๑๐๐ บาทนี่ไม่ได้แพงเลย ถ้าเขาจะเสีย๑๐บาทที่วัดท่าซุง เขาเดินทางไปเดินทางมามันเกิน ๑๐๐ บาทใช่ไหม
“นึก ได้แล้ว คำสั่งของสมเด็จท่านสั่งว่าอย่างนี้ ว่าพระมหาลาภที่รับจากมือหลวงพ่อ ท่านสั่งว่าให้ติดตัว บอกว่าเวลาแจกท่านไม่ได้แจกองค์เดียวแล้วไม่ได้ขยายความเสียด้วยซิ เวลาแจกไม่ได้แจกองค์เดียว ทีแรกผมก็นึกเอ๊ะจริงนี่หลวงพ่อแจกเยอะนี่ทีละองค์ ๆๆๆเกือบจะพูดอย่างนั้นแล้ว พอดีท่านก็รู้ไวนะครับ เพราะข้างบนท่านมาช่วยแจกด้วย ท่านเลยสงเคราะห์กลัวจะโง่มากเกินไป ท่านรู้ใจจริง ๆ”

เก่ง มาก ยกล้อเลย องค์นี้นะ เจโตปริยญาณก็ดี ทิพพโสตญาณก็ดี ทิพพจักขุญาณก็ดี ดีหมด เก่งมาก ท่านดีอย่างเดียว ดีหมดเท่ากัน ก็มาจากทิพพจักขุญาณ
“พอ คุยถึงทิพพจักขุญาณ ท่านบอกว่าเมื่อสมัยก่อนนะ ฉันตั้งสำนักอบรมวิปัสสนา ท่านบอกฉันทำตามตำราเปี๊ยบเลย แล้วผมถามว่าได้ผลเป็นไงครับ ท่านบอก คุณวีระอย่าไปเล่าให้ใครฟังนะ ฉันทำมาได้ผลขนาดหนักเลย เลยถามว่าขนาดหนักของหลวงปู่เป็นไงครับ ปรากฏว่าลูกศิษย์ทุกคนน่ะปลาบปลื้มปีติ หายไปหมดเลย คนโน้นก็ไม่ได้ คนนี้ก็ไม่ได้ ฉันเลยเลิกไปเลย แล้วท่านก็บอกว่า เออ หลักสูตรใหม่ของวัดท่าซุง มโนมยิทธิ อย่างนี้เขาเรียกว่าทันสมัย เออ อาจารย์ดี ลูกศิษย์ก็ติด ครูก็ได้ ศิษย์ก็ได้ อย่างฉันกางตำราไม่ได้เรื่องเลย”
(หลวง พ่อ) ใช้ตำราเดียวกันแต่ว่าลีลาการใช้ต่างหาก อันดับแรกก็ขึ้นอานาปานุสสติเหมือนกัน ต้องใช้ ต้องภาวนาเหมือนกัน จับภาพพระพุทธรูปเหมือนกันแต่ลีลาการใช้ต่างกัน
“แล้วท่านก็บอกนะครับ ที่ฉันสอนว่า พุทโธ ๆๆๆๆ ไม่มีใครเห็นสักคน เลยเลิกกันไปเลย”
ฉันเองก็ล่อมานานแล้ว หลายรูปแบบ
ราคาเปิดประมูล500 บาท
ราคาปัจจุบัน850 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 22 ก.พ. 2555 - 17:50:46 น.
วันปิดประมูล - 23 ก.พ. 2555 - 18:48:16 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลศุภกิจอธิคม (2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     850 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    jitrajey (201)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM