(0)
พระยืนสมเด็จโต เนื้อผง วัดกลางคลองข่อย จ.ราชบุรี (วัดที่สมเด็จโตเคยไปสร้างพระยืน-ปลักกลด)








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระยืนสมเด็จโต เนื้อผง วัดกลางคลองข่อย จ.ราชบุรี (วัดที่สมเด็จโตเคยไปสร้างพระยืน-ปลักกลด)
รายละเอียดพระยืนสมเด็จโต เนื้อผง วัดกลางคลองข่อย จ.ราชบุรี (วัดที่สมเด็จโตเคยไปสร้างพระยืน-ปลักกลด)
### แต่ไม่ทันท่านนะครับ ###
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 04 ก.ค. 2554 - 22:48:15 น.
วันปิดประมูล - 06 ก.ค. 2554 - 16:40:44 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลpoonsaka (509)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 04 ก.ค. 2554 - 22:51:06 น.



วัดกลางคลองข่อย จ.ราชบุรี


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 04 ก.ค. 2554 - 22:52:43 น.

วัดกลางคลองข่อย ก่อสร้างในสมัยรัชกาลใดไม่มีผู้ใดทราบ สันนิษฐานว่าอาจจะสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เพราะจากคำบอกเล่าของผู้อาวุโส เดิมวัดนี้หันหน้าไปทางแม่น้ำเพราะการเดินทางจะใช้แม่น้ำเป็นหลัก ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๐๐ ไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง แต่เป็นวัดที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี ได้เคยธุดงค์มาบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน และจัดสร้างพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้น ก่อสร้างด้วยอิฐถือปูน สูง ๑๖ ศอก ๑ องค์ วัดกลางได้รับการพัฒนาและบูรณะมาโดยตลอด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ เขตวิสุงคาสีมา กว้าง ๑๑.๙๐ เมตร ยาว ๒๖.๘๐ เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาส เท่าที่ทราบนาม คือ รูปที่ ๑ พระเดช รูปที่ ๒พระเอี่ยม รูปที่ ๓พระโชติ รูปที่ ๔ พระนวม รูปที่ ๕ พระนวม รูปที่ ๖ พระอวน รูปที่ ๗ พระอธิการพวน รูปที่ ๙ พระครูสถิตสมณวัตร พ.ศ. ๒๔๘๔-๒๕๔๖ รูปที่ ๙ พระครูสังฆรักษ์สุเทพ สุเทโว พ.ศ. ๒๕๔๖ ถึงปัจจุบัน

ณ วัดแห่งนี้สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ท่านได้สร้างพระพุทธรูปยืน บางอุ้มบาตร ซึ่งมีปรากฏไว้ในบันทึกสมัยรัตนโกสินทร์ว่า ในช่วง พ.ศ. ๒๓๗๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ตอนปลาย สมเด็จฯ ท่านได้เสด็จโดยเรือมาทางน้ำจนถึงบริเวณบางแขยงอันเป็นที่ตั้งของวัดกลาง ซึ่งสมัยนั้นมีอธิการอวนดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส สมเด็จฯท่านได้เสด็จจำพรรษาอยู่ ณ วัดแห่งนี้และได้สร้างพระพุทธรูปขึ้น โดยหันหน้าสู่แม่น้ำให้เหล่าเทพเทวาและมนุษย์สักการะประจำทางด้านทิศตะวันตก การก่อสร้างพระพุทธรูปครั้งนี้ท่านได้อธิฐานจิตนั่งทำสมาธิพิจารณาสถานที่ก่อสร้างพระประจำทิศ ณ ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ (ปัจจุบันต้นโพธิ์ยังอยู่และเล่าลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก) ในขั้นตอนการสร้างพระพุทธรูปสันนิษฐานว่าท่านคงสร้างเป็นปางไสยาสน์ (พระนอน) มากกว่าเพราะ ในวิหารหลังพระพุทธรูปยืนซึ่งปัจจุบันรื้อทิ้งไปหมดแล้ว และกำลังบูรณะก่อสร้างใหม่ ภายในวิหารมีภาพพระพุทธรูปนอนเป็นหลักฐาน แต่เนื่องจากบริเวณเนื้อที่ก่อสร้างไม่เพียงพอ จึงเปลี่ยนมาเป็นการสร้างพระยืนแทน เพราะมีรอยแนวการเรียงอิฐอยู่ ประกอบสมัยนั้นวัดเป็นป่ารกชัฏ ไม่มีคนช่วยถากถาง ท่านจึงได้เอาเงินโปรยหว่านไปทั่วบริเวณป่า พอชาวบ้านรู้ว่ามีพระเอาเงินมาหว่านในป่าก็เลยพากันมาถางป่าเพื่อหาเงิน จึงทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นที่โล่งเตียนจนได้สร้างพระพุทธรูปยืนสำเร็จ ว่ากันว่าเป็นเงินตราเก่าๆด้วย และในตอนที่จะสร้างพระนี้ ท่านต้องการไม้ไผ่ เผอิญมีผู้ล่องแพไม้ไผ่มาทางนั้น ท่านไม่มีเงิน จึงไปที่ต้นโพธิ์บริเวณนั้น ก็ได้เงินมาซื้อไม้ไผ่ตามประสงค์ ส่วนต้นโพธิ์นั้นในปัจจุบันนี้ยังมีปรากฏอยู่

กล่าวถึงพระพุทธรูปยืน ที่สมเด็จฯท่านได้สร้างไว้ แกนกลางขององค์พระมีเสาไม้ตะเคียนทั้งต้น จำนวน๔ ต้น เป็นแกนกลางอยู่ภายใน แล้วก็ทำการก่ออิฐถือปูน แต่สมเด็จโตท่านได้สร้างไม่เสร็จ สร้างได้เหียงแค่คอท่านนั้น แต่ให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างต่อกันเอง กาลเวลาผ่านไป พระโตนี้ชำรุดหักพัง (พระเศียรแตกร้าว พระกรทั้งสองข้างหัก) พระอาจารย์อวน พฺรหฺมสโร วัดมหาธาตุกรุงเทพฯ ซึ่งมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในถิ่นนั้น ย้ายมาอยู่วัดกลาง ได้เป็นประธานจัดการบูรณปฏิสังขรณ์ เมื่อปีมะแม พ.ศ. ๒๔๗๔ จนกระทั่งการบูรณะครั้งสุดท้ายเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๑๖

จากคำบอกเล่าของครูสังฆรักษ์สุเทพ สุเทโว เจ้าอาวาสวัดกลางคลองข่อย ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรที่สมเด็จโตท่านได้สร้างไว้ ไว้ดังนี้

เมื่อสมัยก่อนแม่น้ำแม่กลองที่อยู่ด้านหน้าวัดเป็นเส้นทางสัญจรที่สำคัญ โดยเฉพาะเป็นเส้นทางเดินเรือสำเภาของชาวจีน ใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ มีอยู่ครั้งหนึ่งเรือสำเภาของชาวจีนล่องมาถึงที่หน้าวัด เกิดติดอะไรก็หาได้ทราบไม่ จะเป็นทรายหรือสันดรก็หาได้ทราบไม่ เอาเรือมาฉุดลากก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ออกไปได้ ในขณะนั้นตรงหน้าวัดมีกอไผ่ขึ้นอยู่หนามาก ประกอบกับช่วงนั้นมีลมพัดผ่านมา ทำให้กอไผ่เอนไปมาจนกระทั่งเห็นใบหน้าของพระพุทธรูปยืนอย่างชัดเจน เจ้าของเรือจึงยกมือไหว้กราบขอบารมีท่านให้เรือสามารถแล่นออกไปได้ แล้วจะจุดประทัดถวาย หลังจากนั้นเรือก็สามารถเลื่อนออกไปได้เองราวกับปาฏิหาริย์ โดยไม่มีการใช้เรือฉุดลากทั้งสิ้น พ่อค้าชาวจีนคนนั้นจึงได้จุดประทัดถวายท่าน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเรือทุกลำที่แล่นผ่านมายังหน้าวัดกลางคลองข่อยแห่งนี้จึงต้องจุดประทัดถวายทุกลำ ดังนั้นเสียงประทัดที่จุดถวายพระพุทธรูปยืนจึงได้ ยินเกือบทั้งวัน

นอกจากนี้ก็ยังมีพวกพ่อค้ามาบนขอลูก ซึ่งเมื่อกลับไปแล้วก็ได้ลูกดังประสงค์ มีอยู่ครอบครัวหนึ่งมาบนขอลูกกับองค์หลวงพ่อ ได้ลูกสาว ๔-๕ คน แล้วครอบครัวนั้นก็มาทำการอาบน้ำให้กับองค์หลวงพ่อพระยืนองค์นี้ จนกระทั่งในปัจจุบันนี้ ครอบครัวนี้ก็ยังมาทำบุญกับทางวัดและกับหลวงพ่อโตอย่างไม่ขาดสาย แต่ให้ลูกสาวมาแทน เนื่องจากว่ามารดามีอายุมากเดินทางมาไม่สะดวก

ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีผู้คนให้ความเคารพเดินทางมาสักการบูชา เนื่องจากในความศักดิ์สิทธิ์ในองค์หลวงพ่อ เวลาจะมาบนอะไรท่านก็มักจะจุดประทัดถวาย หรือ หากครอบครัวใดมีฐานะก็จะบนเป็นภาพยนตร์โดยเฉพาะ ภาพยนตร์อินเดียจะได้ตามความตั้งใจปรารถนาดีนักแล


 
ราคาปัจจุบัน :     200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    big_boss (1.7K)

 

Copyright ©G-PRA.COM