(0)
ล็อคเก๊ตอาจารย์ฟ้อน..บรรจุอัฐิและตะกรุดสาริกา..ประสบการณ์เพรียบ






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องล็อคเก๊ตอาจารย์ฟ้อน..บรรจุอัฐิและตะกรุดสาริกา..ประสบการณ์เพรียบ
รายละเอียดประวัติโดยสังเขปครับผม
อ.ฟ้อน ดีสว่าง ถือกำเนิดที่เมืองอยุธยา อำเภอนครหลวง แล้วบิดามารดาได้อพยพครอบครัวไปอยู่เมืองลพบุรี ที่หมู่บ้านโพธิเก้าต้น ตัวท่านนั้นเป็นเด็กที่เกิดมาหน้าตาอัปลักษณ์บนใบหน้าจึงทำให้เป็นปมด้อยจนย่างเข้าวัยศึกษาบิดามารดาจึงได้พาไปฝากกะ ผู้ที่เป็นน้องชายที่เป็นเจ้าอาวาสวัด กลาง อำเภอนครหลวง ที่มีชื่อเสียง โด่งดังในพระเวทย์คุณไสย คาถาอาคมโดยเฉพาะเรื่องสักยันต์ที่ไม่เหมือนใคร คือใช้เลือดของอาจารย์สักยันต์ให้กับผู้ที่มาฝากตัวเป็นศิษย์ ต่อไปนี้ผมจะเรียกว่า หลวงน้านะครับ ท่านชื่อ พระอาจารย์ ปลอด ซึ่งวัยเด็กที่คบหาอาจารย์ ฟ้อน นั้นมีพึงพาได้ไม่กี่คน 1 ในนั้นคือคนที่ชื่อ ตาบ เพราะด้วยความอัปลักษณ์นี่เองท่านจึงไม่ยอมเข้าเรียน กะเพื่อน ๆ ทำให้อ่านไม่ออก เขียนก็ไม่ได้ หลวงน้าชายเห็นกลัวว่าหลานตัวเองจะเอาตัวไม่รอด จึงได้เฝ้าเพียรถ่ายทอดวิชาอาคมไว้ให้ทั้งหมด ซึ่งอ. ฟ้อนท่านอัปลักษณ์แต่หน้าตาเท่านั้นส่วนความจดจำนั้นเป็นเลิศได้อย่างอัศจรรย์ สอนเพียงครั้งเดียวจดจำไว้ได้ทั้งหมดเด็กวัดต่อมาได้อุปสมบทเป็น เณรตาบ ครับ หลวงน้าท่านได้สอนวิชาพวกสาขาเวชกรรม ถอดถอนพิษร้ายจากคาถาอาคม ส่วนในหมวดมนต์ดำ วิชาอาถรรพณ์นั้นหลวงน้าได้ซุกซ่อนไว้ จนกระทั่งมรณะภาพลง อ.ฟ้อนจึงได้พบตำราสำคัญเล่มนั้นพอได้ตำรามา ก็ให้สามเณรตาบ อ่านให้ฟังและฝึกปรือจนชำนาญ พอร้อนวิชามากเข้าท่านได้หายเงียบไปจากอยุธยานานหลายปี ข่าวว่าได้กลับไปอยู่กะบิดามารดาที่หมู่บ้านโพธิเก้าต้น เปิดสำนักรักษาโรคด้วยสมุนไพร และวิชาพระเวทย์คุณไสยอาคมทางคงกะพัน เสน่ห์ มหานิยมจนเป็นที่โจษขานที่เมืองลพบุรีได้มีลูกศิษย์มาฝากตัวมากมายเมื่อท่านร้อนวิชาอีกก็ได้หายเงียบไปจากลพบุรีไปปรากฏตัวยัง วัดกลาง ที่อยุธยาที่เป็นวัดที่พระอาจารย์(หลวงน้าท่าน) ตัว อ.ฟ้อนได้บวชที่วัดกลางเป็น พระอาจารย์ฟ้อน ท่านได้ช่วยญาติโยมรักษาโรค สักยันต์จนในที่สุดได้หายเงียบไปอีก ไปปรากฏตัวที่ อ.บางประหัน อยุธยา

ที่วัดไก่ฟ้านี่เองที่ท่านได้ปล่อยวิชาทางคุณไสยมนต์อาถรรพณ์ออกมาอย่างไม่ออมฝีมือนอกจากรักษาผู้คนที่เจ็บป่วยได้หายดุจหมอเทวดา ในทางอาคมก็ได้ครอบให้กับวัยรุ่นในละแวะนั้นที่มาฝากตัวเป็นศิษย์ การสักยันต์(ปะสะเลือด)หรือการถ่ายเลือดนั้นเอง คือถ่ายเลือดจากตัว อาจารย์ฟ้อน พิธีครอบครูมี มีดซึ่งต่อไปจะเป็น มีดหมอประจำตัวผู้เป็นศิษย์ไปตลอดชีวิต ดอกไม้สีขาว 9 ดอก ธูป 9 ดอก เทียนขาว 9 เล่ม ผ้าขาวม้าขาว 3 เมตร 1ผืน ผ้าเช็ดหน้าสีขาว 1 ผืน(ซึ่งต่อมาคนจะเรียกกันว่าผ้ายันต์นั่นเอง) หัวหมู 1 คู่พิธีเริ่มผู้เป็นศิษย์อาบน้ำชำระร่างกาย นุ่งขาวห่มขาว เช่นเดียวกัยตัว อาจารย์ฟ้อน ภายในที่กำหนดแท่นตั้งเครื่องบูชาครู สิ่งที่ใช้สักยันต์ อ.ฟ้อนมิได้ใช้เข็มดังเช่น อาจารย์ท่านอื่น ๆ หรือสำนักอื่น ๆ แต่ท่านใช้มีดที่ศิษย์เตรียมมานั่นแหละกรีดบนศีรษะ และตามตัวของศิษย์ท่านก็ใช้มีด เล่มเดียวกันเชือดลิ้นตัวเองให้เลือดไหลลงแก้วที่รองไว้

ขั้นตอนต่อไปท่านจะมีมีดดาบปลายปืนขนาดยาวเฟื้อย อีก 2 เล่มตอกสุดแรงเข้าไปในเพดานปากของท่าน เพื่อให้เลือดไหลลงมาตามด้ามมีดลงไปในแก้ว จำนวนเลือดทั้งหมดอยู่ในแก้วจะถูก อาจารย์ฟ้อน ท่านเทกรอกใส่กลับในปากอีกครั้ง แล้วอมนั่งบริกรรมคาถา พ่นเลือดลงในผ้าเช็ดหน้าสีขาวนั้น นำไปทาลงตามรอยปลายมีดที่กรีดยันต์ไว้ทั่วทุกจุดบนร่างกายของผู้ครอบพิธี บาดแผลทั้งหมดที่ท่านได้เชือดปลายลิ้นและใช้มีดดาบตอกเพดาน ท่านอมน้ำบริกรรมคาถาครู่ใหญ่ ในปากกลืนหายไปในลำคอ แผลทั้งหมดก็สนิทและต่อไปท่านทำพิธีครอบครูครู่ใหญ่ และจะได้สอนวิชาที่ไว้ใช้ฉุกเฉินให้แก่ศิษย์ เช่น คาดพิษงู ประสานบาดแผล เมตตามหานิยม

ที่สถานีรถไฟปากช่อง ยามใดที่ อาจารย์ฟ้อนจะเดินทางจากโคราชไปเมืองนครนายก บรรดาลูกศิษย์ลูกหาจะพากันมายืนคอยรับส่งอยู่ที่สถานีเป็นจำนวนมาก บั้นปลายท่าได้ย้ายมาอยู่ที่ วัดบึง(ต่อมาเรียกว่า วัดบึงพระอาจารย์ และต่อมาเปลี่ยนเป็นวัดสุนทรพิชิตาราม) วาระสุดท้ายท่านก็เสียที่วัดบึงพระอาจารย์งานศพของท่านได้มีลูกศิษย์มากันมากมาย มีทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้า ประชาชนจากกรุงเทพ อยุธยา ลพบุรี โคราช เดินทางไปร่วมงานกันมากมาย ลิเกคณะ ส. สำราณศิลป์ได้ แสดงในงานศพ ซึ่งโต้โผ(หัวหน้าคณะ) เป็นศิษย์ อ.ฟ้อน

ต่อไปจะขอนำอภินิหารในบางส่วนมาเล่าให้กันฟังนะครับเริ่มจาก คณะลิเกกันก่อน โต้โผลิเกแทบทุกคณะของเมืองลพบุรี โคกสำโรง สระบุรี อยุธยาล้วนได้ฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง อย่างศิโรราบ เพราะปรากกว่า ลิกเกทุกคณะ นางเอกวัยรุ่นระดับดาวประจำโรง ได้ถูกอาจารย์ฟ้อนท่านเอาไปเป็นเมียจนหานางเอกมาทดแทนไม่หวาดไม่ไหว อาจารย์ฟ้อน ดีสว่างเมื่อใดที่ท่านอัปลักษณ์จมูกโหว่ได้ไปถูกอีสาวคราวลูกวัยเอ๊าะ ๆ กล่าวคำปรามาสใส่หน้าแล้วละก้อ ตอนนั้นแหละ อาจารย์ฟ้อน ท่านจึงจะได้ลั่นวาจาออกไป ***จะเอา***ไปเป็นเมียอยู่กินกับ***ที่บ้าน ค่ำคืนนั้นตัว อาจารย์ฟ้อนท่านนอนรออยู่ที่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ดิ้นรนอาทรร้อนใจอะไร อีสาวคราวลูก วัยเอ๊าะ ๆ มันแจ้นไปสู่อ้อมกอด อาจารย์ฟ้อน ด้วยตัวของมันเองและท่านก็หาได้เสียสัตย์ ที่ตรงไหนแม้แต่คนเดียว เมียของท่านล้วนเป็นแต่นางเอกลิเก แม่ค้าตาหวาน ท่านรับเลี้ยงดูเป็น เมีย หมดทุกคนทั้งได้อยู่กินกับท่าน รวบได้ 10 กว่าคน

คร่าวเมื่อที่ท่านอยู่วัดไก่ฟ้า ก้อนหินที่อาจารย์ใช้ให้พากันแบกขนมาเพื่อใช้ในงานก่อสร้างวัด บูรณะวัดนั้น ท่านได้เป่าคาถาไปพรวดเดียว หินก้อนนั้นได้กลายเป็นเต่า คลานเดิน สี่ขาทุกคนเห็นกันตาจนตะลึง หรือแม้แต่ ผีนางตะเคียนแถววัดไก่ฟ้า ท่านเรียก ผีนางตะเคียนมาให้คนทุกได้ชมกัน หรือแม้แต่คราวที่ท่านได้ทำนายว่าต่อไปบรรดาชายฉกรรจ์จะได้เป็นกำลังสำคัญของชาติก็เป็นจริงเมื่อครั้งญี่ปุ่นบุกประเทศไทย ท่านได้ทำการสักยันต์ อาบว่านให้บรรดาชายชาตรีที่อาสาเป็นเสรีไทยออกไปต่อสู้กะทหารญี่ปุ่น จึงขอจบอัตชีวประวัติของ อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง คร่าว ๆ เพียงแค่นี้ นะครับ ขอขอบคุณข้อมูลดีๆด้วยครับคุณสาลีโข

เรื่องเล่นแร่ แปรธาตุ ฉกาจลั่น
ตูมสนั่น ระเบิดลง ตรงที่หมาย
ภัยสงคราม กรุ่นคลุก สู่ยุคปลาย
ต่างหนีตาย ชุลมุน กระสุนปลิว
ลงกระหม่อม เสกยันต์ กันภัยเหตุ
กันภัยเพท เสกลม อาคมพลิ้ว
ศิษย์เต็มเมือง คลาดแคล้ว เป็นแถวทิว
ต่างยกนิ้ว ยอดครูบ้าน ท่านของจริง!(ฌาณรวีร์)
ราคาเปิดประมูล500 บาท
ราคาปัจจุบัน1,200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 22 มี.ค. 2554 - 00:49:39 น.
วันปิดประมูล - 23 มี.ค. 2554 - 19:28:24 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลmanusiam (2.5K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    hanabiji (316)

 

Copyright ©G-PRA.COM