(0)
พระบูชา หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู(พระครูประสาทวรคุณ (พริ้ง มณีธาโน)








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระบูชา หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู(พระครูประสาทวรคุณ (พริ้ง มณีธาโน)
รายละเอียดขนาดหน้าตัก 4.5 นิ้ว สูง 7 นิ้ว ผิวเดิมครับ ประวัติของพระครูประสาทวรคุณ (พริ้ง มณีธาโน) อายุ84 พรรษา 64 วัดโบสถ์ ตำบลโก่งธนู อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี อดีตดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโก่งธนู สถานะและชาติกำเนิดของหลวงพ่อ นามเดิม ชื่อพริ้ง นามสกุล เพ็งรอด เกิดเมื่อวันที่2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2443 ปีชวด ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 12 บิดาชื่อนายดึก มารดาชื่อ นางแสง นามสกุล เพ็งรอด บ้านคุ้งนามอญ ตำบลโก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 6 คนคือ
1. หลวงพ่อพริ้ง เพ็งรอด
2. นางผลบ ไข่หงส์
3. นายกรู่ เพ็งรอด
4. นายโหน่ง เพ็งรอด
5. นายบ่าย เพ็งรอด
6. นางสาวสาคร เพ็งรอด
อุปสมบทเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2463 ณ พัทธสีมาวัดญาณเสน ตำบลโก่งธนู อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี หลวงพ่อฉ่ำเจ้าอาวาสวัดญาณเสนเป็นอุปัชฌายะ หลวงพ่อแสน วัดญาณเสนเป็นกรรมวาจารย์ หลวงพ่อฝอย วัดญาณเสน เป็นอนุสาวนาจารย์
ชีวิตในวัยเยาว์
เมื่อหลวงพ่อยังอยู่ในเยาว์วัย ท่านได้ช่วยโยมพ่อและโยมแม่ประกอบอาชีพตามประสาเด็กที่จะพึงกระทำได้
ด้านการศึกษา วิทยะฐานะ อ่านออก เขียนได้ จากสำนักวัดไก่เตี้ย ตำบลตลองน้อยอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การศึกษาสมัยนั้นนับว่าอยู่ในขั้นที่ยังไม่เจริญ อาจจะพูดได้ว่าหาโรงเรียนทำยายาก ยิ่งในถิ่นธุรกันดาร ก็ยิ่งจะไม่มีโรงเรียนเอาเสียเลย กุลบุตรหรือเยาวชนชายก็พอจะมีโอกาสบ้าง ถ้าสนใจที่จะศึกษา คือพ่อแม่หรือผู้ปกครองนำไปมอบให้เป็นศิษย์ของสมภารเจ้าวัดหรือพระภิกษุ องค์ใดองค์หนึ่ง แต่ถ้าเป็นกุลธิดาอาจจะไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนหรือศึกษา หาความรู้เลยหลวงพ่อท่านเป็นพระผู้สนใจในการศึกษาพอสมควร พอว่างจากการงานจึงเข้าเรียนจากสำนักวัดดังกล่าวข้างต้น ครั้งถึงเวลาทำไร่ทำนา ท่านก็ไปช่วยโยมทำนา ท่านได้ปฏิบัติอยู่ดังนี้ จนมีความรู้ภาษาไทยอ่านออกเขียนได้ประกอบกับ มีความเลื่อมใสศรัทธา ในบวรพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ครั้นอายุครบอุปสมบท โยมบิดามารดาจึงทำการอุปสมบทตามประเพณีชายไทยตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น
ตำแหน่งและสมณศักดิ์ เมื่ออุปสมบทแล้ว 5 พรรษาได้ปกครองวัดและเป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ตำบลโก่งธนู เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 เป็นต้นมา เป็นเจ้าคณะตำบลโก่งธนูเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2480 เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2482 เป็นพระครูสัญญาบัตรเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2516 เมื่อปี พ.ศ. 2516 มีพระภิกษุจำนวน 28 รูป สามเณร 2 รูป ศิษย์วัด 30 คน การปกครองเป็นปกติด้วยดีเสมอมาไม่มีอธิกรณ์ใดๆ เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 68 ปี นับว่ามีอายุครบปกครอง ดีเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด
ผลงาน การก่อสร้าง เมื่อท่านได้เข้ารับหน้าที่เจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ. 2468 ท่านได้บำเพ็ญคุณงามความดีต่างๆ ได้ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมแด่พระภิกษุสามเณรภายในวัด ซึ่งเป็นผลให้พระภิกษุสามเณรสอบนักธรรมได้หลายรูป ท่านได้มีเมตตาสั่งสอนเพื่อสหธรรมิก ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาให้ตั้งอยู่ในความดี และให้ความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชน ที่จะประกอบการกุศล ด้วยคุณงามความดีที่พระเดชพระคุณได้บำเพ็ญมา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2516 จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสถาปนาพระเดชพระคุณเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ "พระครูประสาทวรคุณ"
ท่านได้ก่อสร้างและซ่อมแซมถาวรวัตถุภายในวัดโบสถ์แห่งนี้เรื่อยมา โดยมิได้หยุดยั้ง ผลงานของท่านจะอวดและกล่าว โดยสรุปได้ดังนี้

1. สร้างโบสถ์หลังใหม่
2. สร้างโรงเรียน
3. สร้างสถานีอนามัยชั้น 2
4. สร้างศาลาท่าน้ำ
5. ซ่อมโบสถ์และกำแพงแก้ว
6. สร้างศาลาการเปรียญ
7. สร้างฌาปนสถาน (เมรุ)
8. สร้างกุฎิ
9. สร้างสะพานข้ามแม่น้ำ

มูลค่าในการก่อสร้างทั้งหมดนี้หลายล้านบาท
คุณธรรม หลวงพ่อพริ้ง นับว่าเป็นเพชรน้ำเอกของเมืองละโว้ธานีองค์หนึ่ง พระเดชพระคุณท่านนับว่าเป็นพระเถระ ที่ทรงคุณธรรมหลายประการ ใครๆ ที่ได้มาเยี่ยมเยือนหรือสัมผัสพูดคุย มักจะประทับใจในอริยาบทและวัตรปฏิบัติตลอดจนอุปนิสัยใจคออันเยือกเย็นของพระคุณท่าน หลวงพ่อเป็นพระที่พูดน้อย มีลูกศิษย์ลูกหามาก เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของหมู่ชนทุกระดับชั้นยิ่งในแถวถิ่นโก่งธนูด้วยแล้วใครไม่รู้จักหลวงพ่อก็แสนจะเชยสิ้นดี เมื่อหลวงพ่อบวชแล้วก็หาโอกาสเดินธุดงค์วัตรไปในสถานที่ต่างๆหลายแห่ง บางแห่งต้องผจญกับสัตว์ร้ายนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นผีสางนางไม้หรือภัยนานาประการ หลวงพ่อได้ประสบพบอยู่เป็นประจำจนชินชา หลวงพ่อต้องการหาความวิเวก ขณะเดินธุดงค์ก็ได้พบกับพระอาจารย์ต่างๆ อยู่ไม่น้อย ต่างก็ถ้อยทีถ้อยอาศัย แลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อเป็นการถ่ายทอดวิชาไสยาศาสตร์เวทย์มนต์ ให้แก่กันและกัน และการที่หลวงพ่อมีวิริยะอุตสาหะอย่างล้นเหลือ หลวงพ่อได้ท่องบ่นตำราจากสมุดเก่าๆ และตำรับตำราต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ต่างๆ ทั้งในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียงบ้านเช่น อยุธยา, อ่างทอง, สิงห์บุรี,สระบุรี และที่อื่นๆ อีกด้ววยหลวงพ่อพริ้งได้พยายามศึกษาร่ำเรียนด้วยตนเองบ้าง จนเป็นเกจิอาจารย์ที่เรืองวิชาน่าอัศจรรย์ยิ่งทีเดียวหลวงพ่อพริ้งมีพรสวรรค์อยู่ในตัว ท่านสามาถท่องบ่นหรือสวดมนต์เช้า-เย็น โดยไม่ต้องต่อจากพระในวัด เพียงแต่จดจำพระรุ่นพี่ๆ ในระยะแรกๆ ท่านท่องจำเจ็ดตำนาน สิบสองตำนานและสามารถท่องปฏิโมกข์ได้คล่องแคล่วสมบูรณ์ดีด้วยประการทั้งปวง นับว่าสติปัญญาของหลวงพ่อเป็นเลิศการเขียนการอ่านโดยมาก มักจะเรียกด้วยตนเองเสมอ ประกอบกับหลวงพ่อมีบารมีอันสูงส่ง อนาคตของหลวงพ่อจะต้องรุ่งเรืองในบวรพระพุทธ
ศาสนาอย่างแน่แท้
ถึงแม้ว่าหลวงพ่อจะเป็นพระหนุ่มในขณะนั้น แต่ก็เคร่งครัดในกฎระเบียบของพระธรรมวินัยในสมัยนั้น เรียนทั้งพระธรรมวินัย(พระปริยัติธรรม) และเรียนภาษาขอมรวมกันไปด้วยจากสำนักวัดไก่เตี้ยจนความรู้แตกฉาน ท่านได้รวบรวมตำรับตำราต่างๆ ไว้มากมาย เช่น ตำรายากลางบ้านตำราแพทย์แผนโบราณ ตำราเวทย์มนต์คาถา และตำราไวยาศาสตร์ ไวยเวท ไว้มากพอสมควรหลวงพ่อพริ้งเป็นพระเถรรูปหนึ่งที่ชาวลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียงเคารพนับถือท่านมาก หลวงพ่อได้มุ่งมั่นประกอบศาสนกิจ เพื่อบำรุงพุทธศาสนาโดยจิตมั่น เพื่อเจริญรอยตามเบื้องยุคลาบาทขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า หลววงพ่อจึงได้รับแต่งตั้ง ตามตำแหน่งต่างๆ ดังได้กล่าวข้างต้น
การเผยแพร่ศาสนานั้นหลวงพ่อได้จัดอบรมให้มีการฟังธรรมฟังเทศน์ตามไตรมาส มีอุบาสกอุบาสิกาและประชาชนโดยทั่วไปเข้ารับการอบรมเป็นจำนวนไม่น้อย การทำบุญกุศลหรืองานประเพณีต่างๆ ซึ่งเกี่ยวกับทางวัดแล้ว หลวงพ่อมีวิเทโสบายและอุบายให้คนทั้งหลายมาร่วมกันได้เป็นอันมาก หลวงพ่ออำนวยความสะดวกให้ในทุกกรณี
เมื่อปี พ.ศ. 2504 หลวงพ่อได้มีอายุ 61 พรรษา บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อได้อ้อนวอนให้หลวงพ่อออกวัตถุมงคล เพื่อจะได้ให้ศิษยานุศิษย์และญาติโยมผู้ใกล้ชิดไว้เป็นที่ระลึก และเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ ปลายปี พ.ศ.2504 ก็มีศิษย์อ้อนวอนท่านอีก "สร้างเถอะหลวงพ่อ" หมายถึงสร้างวัตถุมงคล หลวงพ่อท่านทนต่อคำรบเร้าอ้อนวอนของบรรดาศิษย์ไม่ไหว ท่านจึงพูดว่า "จะเอาอย่างไร ก็เอากัน" หลวงพ่อบุญช่วย เขมโก ผู้เป็นผู้ช่วยของหลวงพ่อหาโอกาสนี้มานาน แต่ไม่กล้าออก ความเห็น จึงนมัสการกับหลวงพ่อขึ้นว่า ควรจะทำเป็นเหรียญ ซึ่งจะถาวรต่อการใช้ไว้นานๆ ไม่เหมือนกับพระเนื้อผง อันอาจจะเสียหายและหักง่าย จากการเสนอแนะของหลวงพ่อบุญช่วย และบรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อจึงได้ตกลง ออกแบบเป็นรูปเหรียญสี่เหลี่ยม ด้านหน้ามีรูปของหลวงพ่อครึ่งองค์ (ทำชนิดใบหน้าใหญ่และใบหน้าเล็ก) ด้านหลังพระพุทธรูปเล็กอยู่กลาง รอบเหรียญเป็นยันต์และอักขระตัวขอม ใช้เนื้อทองแดงปั๊ม ห่วงหูในตัว กาไหล่ทองที่พื้นเหรียญ ออกไม่มากนัก ราคารุ่นนี้แพงเป็นพัน เพราะถือว่าเป็นเหรียญรุ่นแรก เหรียญนี้หลวงพ่อพริ้งได้นั่งปรกปลุกเสกเดี่ยวด้วยพุทธาคมอันเข้มขลัง นักเล่นเหรียญทั้งหลายมักจะเสาะหาเหรียญของหลวงพ่อรุ่นแรกนั้นเป็นจำนวนไม่น้อย ใครมีไว้ในครอบครองจงหวงแหน อย่าจำหน่ายจ่ายแจกเพราะเป็นของดี มีคนที่มีประสบการณ์มาแล้วจากเหรียญนี้ จากเหรียญรุ่นหนึ่งนี่เองทำให้หลวงพ่อพริ้งมีชื่อเสียง โด่งดังยิ่งกว่าพลุโด่งดังจนถึงขีดสุด
รับประกันตามกฏครับ
ราคาเปิดประมูล250 บาท
ราคาปัจจุบัน1,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 12 ต.ค. 2553 - 13:50:36 น.
วันปิดประมูล - 13 ต.ค. 2553 - 23:29:57 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลนิลพัฒน์ (4.9K)(2)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    sak-53 (1K)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM