(0)
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น๒ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี เนื้อโลหะชุบทอง ปี๒๕๓๕








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องสมเด็จองค์ปฐม รุ่น๒ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี เนื้อโลหะชุบทอง ปี๒๕๓๕
รายละเอียดเป็นที่สุดของพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
"สำหรับผู้มีจิตศรัทธา จะนำพาไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่"


สมเด็จองค์ปฐม รุ่น๒ มีจำนวนสร้าง ๑๐,๐๐๐ องค์ เป็นเนื้อโลหะชุบทอง
ได้ใช้แม่พิมพ์เดียวกันกับ สมเด็จองค์ปฐม รุ่น๑ ซึ่งเหมือนกันทุกประการ
ยกเว้นฐานพระที่ไม่ได้อุดกริ่ง เพราะว่ารุ่นแรกที่ใส่กริ่ง แล้วประชาชนชอบเขย่ากริ่งเล่น
หลวงพ่อท่านเห็นว่าไม่เหมาะสม จึงได้ห้ามใส่กริ่งในรุ่น๒ นี้
องค์พระทั่งรุ่น๑ และรุ่น๒ มีขนาดความสูง ๓.๓ ซม. และความกว้าง ๑.๘ ซม.

หลวงพ่อท่านได้ดำรัส เมื่อวันที่ ๑๐.ตค.๒๕๓๕
ว่าผู้มีสมเด็จองค์ปฐม ติดตัวไว้ จงมั่นใจได้ ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ ก็ดี, อมนุษย์ ก็ดี, สัตว์มีพิษร้าย ก็ดี, ภูติผีปีศาจร้าย ก็ดี
ถ้าคิดจะทำร้ายเรา จะรุ่มร้อนจนทนไม่ได้ ต้องล่าถอยไปในที่สุด และยังป้องกันอาวุธวิทยาศาสตร์
ได้หลายชนิด อาทิ สารนิวเคลียร์, สารเคมีต่างๆ, ก๊าซพิษ, ก๊าซชีวะภาพ, ฝนกรด และโรคระบาดทุกชนิด
นี่เป็นอานุภาพ ของสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งเป็นองค์ต้นของพุทธศาสนา ที่บำเพ็ญบารมีถึง 40 อสงไขยแสนกัป


สภาพไม่ผ่านการใช้ ไม่มีกล่อง แต่แถมตลับทอง ไมครอนเกรดAไปพร้อมกับองค์พระ
รับประกันความพอใจ 1เดือน คืนเงินเต็มจำนวนหากสภาพปกติ
รับประกันพระแท้ตลอดชีพ (มีใบรับประกันจากทางร้านให้)


ชมประวัติปฏิปทา หลวงพ่อฤาษี
http://www.web-pra.com/Article/Show/210
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน25,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 15 ก.ย. 2553 - 05:34:42 น.
วันปิดประมูล - 17 ก.ย. 2553 - 13:12:23 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลชมรม-มหาอุตม์ (1.1K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 15 ก.ย. 2553 - 05:36:10 น.
.


.


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 15 ก.ย. 2553 - 05:36:51 น.
.


.


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 15 ก.ย. 2553 - 05:37:41 น.
.


.


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 15 ก.ย. 2553 - 05:38:54 น.
.


.


ข้อมูลเพิ่มเติม 5 - 15 ก.ย. 2553 - 05:41:00 น.
.


- ประวัติการสร้าง สมเด็จองค์ปฐม

สมเด็จองค์ปฐม ท่านเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก ทรงพระนามสมเด็จพระพุทธสิกขี
เนื่องจากพระพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้แล้วมากมายนับได้แสนองค์ ฉะนั้นพระนามของพระองค์จึงซ้ำกัน
โดยเฉพาะพระนามสมเด็จพระพุทธสิกขี มีด้วยกัน 5 พระองค์ จึงได้ขนานนามของสมเด็จองค์ปฐมว่า
" สมเด็จพระพุทธสิกขีที่ 1 " จึงนับได้ว่าพระพุทธองค์ ทรงเป็นสมเด็จองค์ปฐมบรมครู อย่างแท้จริง

สมัยที่พระพุทธองค์ ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ซึ่งขณะนั้นคนมีอายุไข ประมาณ 8 หมื่นปี
พระพุทธองค์ทรงผนวช ออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปี หลังจากผนวช
ได้ 2 หมื่นปี จึงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงโปรดเวไนยสัตว์ ประมาณ 2 หมื่นปี
จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพาน

พระพุทธองค์ทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง 40 อสงไขยกัปเศษ ในการบำเพ็ญพระบารมี
เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณ ด้วยพระองค์เองทรงใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี
เนื่องจากพระพุทธองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างที่จะให้พระพุทธองค์
ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อบรรลุพระโพธิญาณ ระยะเวลาที่บำเพ็ญพระบารมี
จึงใช้ถึง 40 อสงไขยกัปเศษ

การพบสมเด็จองค์ปฐม ครั้งแรกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
เมื่อประมาณ พ.ศ. 2511 คืนหนึ่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อ กำลังสอนพระกรรมฐาน
และเมื่อเสร็จจากการแนะนำ ก็ได้ทำสมาธิ ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน ปรากฏขึ้น
คือเห็นพระพุทธเจ้าในปางพระนิพพานทรงยืน สองแถวยาวเหยียดไปข้างหน้าแล้ว
ก็พนมมือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ มีความรู้สึกในใจว่า บางทีอาจจะเป็น อุปาทาน เพราะว่า
พระพุทธเจ้า ไม่เคยก้มศรีษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือน เล็กๆ หลังคา ตํ่าๆ หาก
พระพุทธองค์เสด็จเข้าไป หลังคาก็จะสูงขึ้นเอง แต่เวลานี้เห็น พระพุทธเจ้ายืนพนมมือ
เมื่อนึกเพียงนี้ ก็เห็นภาพหลวงปู่ปาน ปรากฏขึ้นข้างหน้า หลวงปู่ปานท่านบอกว่า

" คุณ..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา "
อีก ประมาณ 5 นาที ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าอีกองค์ รูปร่างท่านใหญ่โตมาก
สูงมาก มาในรูป ของปางพระนิพพาน เดินมาระหว่างช่องกลาง
พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ก้มศรีษะ แสดงความเคารพ พอพระองค์เดินไปถึง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทรงตรัสว่า

" ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า... ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าก็เอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน "
พระพุทธองค์ ก็เลยนั่งบนหัว ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
แล้วทรงตรัสกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า
" นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนพระกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมก็ดี บอกฉันก่อน
ฉันจะให้พูดตอนไหน จะให้เทศน์ตอนไหนให้ว่าตามนั้น "

เป็นอันว่าเมื่อใดก็ตาม ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเทศน์ก็ดี สอนพระกรรมฐานก็ดี
สอนธรรมก็ดี พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไม่เคยได้พูดตามใจคิดเลย เป็นเพราะพระพุทธองค์
ท่านดลใจ ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูด และแนะนำธรรม ซึ่งบางครั้ง
อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจของทุกคน เพราะพระพุทธองค์ ท่านอาจจี้จุด เฉพาะคนใดคนหนึ่ง
แต่บางคน อาจจะไม่ถูกใจก็ได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็คิดว่า
เมื่อพระพุทธองค์ท่านมีบุญคุณอย่างนี้ จึงคิดที่จะหล่อรูปของท่าน

ต่อมาเมื่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เจริญพระกรรมฐานแล้ว จึงได้อาราธนาสมเด็จองค์ปฐม
ขอพบพระพุทธองค์ท่าน ก็ปรากฏให้เห็น ทรวดทรงสวยงามมาก หน้าของท่านอิ่ม
เหมือนรูปไข่ แก้มอิ่ม ทรงยิ้มน้อยๆ ริมฝีปาก ไม่บุ๋ม ไม่เหมือน พระพุทธเจ้าที่เขาปั้นกัน
จะพบว่าช่างเขาปั้นแก้มตรงปากจะบุ๋มลงไป แล้วสมเด็จองค์ปฐม ก็แสดงรูปร่าง สมัยเป็นมนุษย์
และก็เปลี่ยนมาเป็น ปางพระนิพพาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็ถามว่า ถ้าจะปั้นรูปของพระองค์
จะให้ปั้นแบบไหน จะให้ ปั้นปางพระนิพพานหรือมนุษย์ พระพุทธองค์ บอกว่า
ให้ปั้นแบบนี้ก็แล้วกัน พระพุทธองค์ทรงแสดงภาพให้ดู เป็นเหมือนกับ พระพุทธรูป
และมีเรือนแก้ว แบบพระพุทธชินราช รูปที่ทรงให้ปั้น ไม่เหมือนกับ รูปจริงของท่าน
แต่พระองค์ท่านต้องการ ให้ปั้น แบบที่ท่านต้องการ พระพุทธองค์ได้มาแสดงภาพ
ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ดูถึง 3 วัน ติดๆ กัน วันละประมาณ 1 ชั่วโมง พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ก็ได้ดูอย่างละเอียด แต่ก็คิดในใจว่า ช่างเขาปั้น แต่เขาไม่เห็นภาพ เขาจะปั้นได้ไม่เหมือน
จึงได้ขอบารมีพระองค์ท่าน เวลาช่างปั้น ขอได้โปรดดลใจ ให้เป็นไปตามพระพุทธประสงค์
พระองค์ท่านก็ยอมรับ


ที่มา : คัดย่อจากหนังสือ มรดกของพ่อ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
วัดจันทราราม (วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี


 
ราคาปัจจุบัน :     25,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    kittmoo (156)

 

Copyright ©G-PRA.COM