(0)
..*0* ..TWO..แพคคู่เบาๆคับสายจตุคามฯลองแวะชมดูนะคับ






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง..*0* ..TWO..แพคคู่เบาๆคับสายจตุคามฯลองแวะชมดูนะคับ
รายละเอียด1)...........แสตมป์เจ้าพ่อศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เนื้อทองทิพย์... วัดท่าซัก นครศรีธรรมราช จตุคามรามเทพสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ(คุ้มกันภัยบันดาลโชค)
บริสุทธิ์ คับรุ่นนี้เป็นพิธีแห่งการรวมแรงร่วมใจของ 19 พระเกจิย์อาจารย์แห่งสายเขาอ้อ ร่วมด้วยช่วยกันปลุกเสกอย่างเข้มขลัง ณ ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช สุริยะเทพทรงกลดตอบรับรู้การสร้าง เพื่อจัดหาทุนบูรณะวัด ท่าซัก นครศรีธรรมราช วัดเก่าแก่มาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา วัดที่อดีตร้างมานานหลายร้อยปี จนได้อดีตเจ้าอาวาสในยุคนั้นหลวงปู่เอียด อินทสวณโณศิษย์แห่ง อาจารย์ทองเฒ่า เจ้าสำนักเขาอ้อ อาจารย์ใหญ่และปรมาจารแห่งสำนักเขาอ้อ มหาวิทยาลัยเวทมนต์แห่งสยามประเทศ มาเป็นผู้ริเริ่มบูรณะในยุคแรกๆ หลายรุ่นที่วัดได้รับการบูรณะเรื่อยมาจนเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้ริเริ่มบูรณะอย่างจริงจังมาตลอด ตั้งแต่ปี 2543จนปัจจุบัน ใน ปี 2549 ในวาระแห่งมหาสงกรานต์อันเป็นมหามงคล ที่สอดคล้องพอดิบพอดีกับมหามงคลวาระอันยิ่งใหญ่งานสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองพาราณาสี ประเทศอินเดียและงานสรงน้ำหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด (วัดนี้อดีตหลวงปู่ทวดเคยมาพำนักอยู่บ่อยๆ) 3 วาระแห่งมหามงคลที่มาบรรจบกันโดยมิได้นัดหมาย อีกทั้งทางวัดต้องการจัดหาทุนเพื่อบูรณะครั้งใหญ่ อีกทั้งเป็นทุนสนับสนุนการศึกษาของพระและเณรของวัด อีกทั้งเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ทำบุญสมทบทุน จึงได้จัดสร้าง วัตถุมงคลขององค์พ่อจตุคามรามเทพขึ้น โดยการร่วมแรงใจของหลายฝ่าย ชาวบ้านทำบุญ วัดทำเอง อิ่มบุญกันถ้วนทั่วคับ อีกรุ่นคับที่เจตนาดี พิธีดี ราคาเบาๆ



2).............แว่นกลม 5 cm เนื้อขาวผงปูนเพชร(ปูนจากองค์พระบรมธาตุมหาเจดีย์นครศรีธรรมราช) สวยๆคับ พระดีสายเจตนาเด่น ไร้พุทธพานิชย์ พิมพ์ทรงสวยงาม แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง ทรงค่าน่าเก็บ มหามงคลพระทันตธาตุ 84000 วัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ปี 2547
ขนาด 5 cm

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนทกุมาร ผู้อัญเชิญพระทันตธาตุ มาไว้ ณ หาดทรายแก้ว จึงได้ อัญเชิญ พระรูปบูรพกษัตริย์ทั้งสองพระองค์มา จัดสร้างวัตถุมงคลไว้ด้านหน้า และล้อมรอบด้วย มหาเทพผู้พิทักษ์รักษาพระบรมสารีริกธาตุพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 8 ทิศ (อันมี ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรุฬปัก ท้าวอนันตนาคราช ท้าวกุเวร เป็นต้น)

**รูปแบบด้านหลัง**
ได้นำรูปแบบของพุ่มข้าวบิณฑ์อันเป็นส่วนที่เป็นสิ่งของเงินทอง รูปพรรณของมีค่านานาชนิด ผูกร้อยด้วยลวดทองคำ ตรึงติดอยู่รอบยอดส่วนบนสุดของพระมหาธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช ไว้ด้านหลังองค์พระ..และล้อมรอบด้วยอัศทิศ 8 เทพ(ราหู8ตน)(ในปูมโหรนี้ราหูทั้ง8 คือเทพผู้พิทักษ์จักรวาลและดวงชะตา)อีกทั้งเพื่อความเป็นศิริมงคลสูงสุด ได้อัญเชิญ**ปฐวีธาตุศักดิ์สิทธิ์ ** ณ ฐานองค์พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นพันปี มากดฝังไว้ด้านหลังองค์พระด้วย
**รุ่นนี้**
ทางวัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช และผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมจัดสร้างวัตถุมงคล โดยรวบรวมมวลสารต่างๆจากองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ผงมหาว่านพุทธคุณต่างๆ **และที่ทรงคุณค่าคือได้นำเอาช่อฟ้าไม้ตะเคียนพระวิหารหลวง สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้นำลงมาในการบูรณะ ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกช่อฟ้าพระวิหารหลวงใหม่ ในวันที่15 สิงหาคม พ.ศ. 2517 มาเป็นมวลสารหลักในการจัดสร้างวัตถุมงคลดังกล่าว ได้นำมวลสารมาผสมตำรวมเข้าด้วยกัน ทำการกดพิมพ์พระภายในบริเวณพระวิหารเดิม และจัดสร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงการเสียสละของผู้บริหาร และนักเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพระมหาธาตุ ด้วยความหวังจากผู้มีจิตศรัทธาที่จะบริจาคทรัพย์เพื่อนำไปสร้างอาคารเรียนให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งท่านเจ้าคุณพระราชธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีเมตตาตั้งชื่อวัตถุมงคลรุ่นนี้ว่า “รุ่นมหามงคลพระทันตธาตุ 84000”
วัตถุประสงค์การจัดสร้าง
1. เพื่อเผยแผ่เกียรติคุณของพระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนทกุมาร ผู้อัญเชิญพระสารีริกธาตุบรรจุที่พระบรมธาตุเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
2. เพื่อนำรายได้จัดสร้างอาคารเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดพระมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

กำหนดการพิธี
1. พิธีปลุกเสกวัตถุมงคล ณ วิหารโพธิ์พระเดิม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ. เมือง จ. นครศรีธรรมราชในวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2547
2. พิธีปลุกเสกวัตถุมงคล ณ กลางทะเลอ่าวปากพนัง อ.ปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2547
3. พิธีพุทธาภิเศกวัตถุมงคล ณ พระวิหารทับเกษตรใต้ฐานองค์พระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2547

**ประวัติ**
หลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน ได้มีการแก่งแย่ง เพื่อนำพระบรมสารีริกธาตุนำไปกราบไหว้สักการบูชา พระยามหากษัตริย์พราหมณ์ แห่งกรุงโกสินารา ได้ให้โทณพราหมณ์ เป็นผู้ดำเนินการแบ่งสันปันส่วนพระบรมสารีริกธาตุที่เป็นภินนธาตุ ตวงด้วยทะนานถวายแก่พวกมหากษัตริย์ใน ครั้งนั้น มีพระอรหันต์ นามว่า พระเขมะเถระผู้มีญาณสมาบัติ ได้เข้าไปอัญเชิญพระทันตธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้วเบื้องขวา และพระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้ายอย่างละ 1 องค์ ออกจาก จิตกาธาน เพื่อนำไปถวายพระเจ้าพรหมทัตกษัตริย์แคว้นกลิงคราษฏร์ เนื่องจากมิได้รับแจกจาก โทณพราหมณ์ และพระทันตธาตุได้ ประดิษฐาน เคลื่อนย้ายไปยังนครต่างๆ ครั้งหลังสุดได้ประดิษฐานอยู่ที่เมืองทันทบุรี อันมีพระเจ้าโคสีหราช ซึ่งมีพระนางมหาเทวี เป็นอัครมเหสี ทรงมีพระราชโอรส และพระราชธิดา คือ พระนางเหมชาลาและเจ้าชานทนทกุมาร
ในยุคเดียวกันนั้นประมาณ พ.ศ. 852 ยังมีเมืองอีกเมืองหนึ่ง ชื่อขันธบุรี กษัตริย์ชื่อท้าวอังกุศราชได้รวบรวมกำลังยกทัพมาตีเมืองทันทบุรี เพื่อช่วงชิงพระทันตธาตุ พระเจ้าโคสีหราชทรงทราบดีว่าต้องการพระทันตธาตุไปทำลาย เพื่อตัดกำลังมิให้ศาสนาพุทธตั้งมั่นในลุ่มน้ำมหานที และได้เสียทีถูกข้าศึกฟัน พระศอ ขาดเหนือคอช้าง ฝ่ายพระนางเหมชาลาและเจ้าชายทนทกุมาร ได้ปลอมพระองค์อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่เกล้าเมาลีเสด็จหนีลงเรือมุ่งไปกรุงลังกา
ระหว่างเดินทางก็เกิดพายุจัดคลื่นใหญ่จนเรืออับปางลง พระนางเหมชาลาและเจ้าทนทกุมาร ก็พากันเดินดั่นดงไพรหลายเพลา จนมาถึงหาดทรายแก้วจึงได้พักอาศัยและอัญเชิญพระทันตธาตุจากเกล้าเมาลีลงประทับฝังไว้ที่หาดทรายแก้ว ทั้งสองพระองค์ทรงพบพระมหาเถรพรหมเทพ ผู้มีอภิญญาสมาบัติ แก่กล้าได้ทำนายว่า ต่อไปภายภาคหน้าจะมีพระยาองค์หนึ่งชื่อ **พระยาศรีธรรมาโศกราช **จะมาสร้างเมืองสร้างเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ หาดทรายแก้วแห่งนี้((หาดทรายแก้วคือบริเวณวัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ในปัจจุบัน))
หลังจากนั้นพระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนทกุมารก็อัญเชิญ พระทันตธาตุขึ้นจากที่ฝังห่อใส่เกล้าเมาลีออกเดินทางโดยเรือสำเภาถึงกรุงลังกา ก็ขึ้นเฝ้ากษัตริย์กรุงลังกาถาวายพระทันตธาตุ และกราบทูลเรื่องราวแต่หนหลังให้ฟังตลอด พระเจ้ากรุงลังกาทรงดำริเห็นว่าหาดทรายแก้วเคยเป็นที่ฝัง พระทันตธาตุชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงได้คืนถวายพระทันตธาตุเบื้องซ้ายและพระบรมสารีริกธาตุที่หักย่อย 1 ทะนาน ให้พระนางเหมชาลา เจ้าชายทนทกุมาร อัญเชิญด้วยเรือสำเภาใหญ่จากลังกาสู่หาดทรายแก้วโดยมีมหาพราหมณ์อำมาตย์ 4 คน เป็นผู้ควบคุมดูแลช่วยเหลือระหว่างเดินทาง
เมื่อถึงหาดทรายแก้วมหาพราหมณ์ ทั้ง 4 ทำการก่อเจดีย์อัญเชิญพระทันตธาตุ และ พระบรมสารีริกธาตุครึ่งทะนาน บรรจุลงในผอบแก้ว ประดิษฐานในแม่ขันทองคำ แล้วนำไว้ภายในเจดีย์ ณ รอยเดิมที่เคยฝังพระทันตธาตุไว้ ทำพิธีไสยเวทย์ ผูกภาพยนตร์เป็นกา 4 ฝูง คือ กาสีขาว 1 ฝูง เรียกว่า กาแก้ว เฝ้ารักษาอยู่ทางทิศตะวันออก กาสีเหลือง 1 ฝูง เรียกว่า การาม เฝ้ารักษาอยู่ทางทิศใต้ กาสีแดง เรียกว่า กาชาด เฝ้ารักษาอยู่ทางทิศตะวันตก และกาสีดำ เรียกว่า กาเดิม เฝ้ารักษาอยู่ทางทิศเหนือ ให้เฝ้า รักษาอยู่ไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ ขึ้น เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 854 ส่วนพระบรมสารีริกธาตุอีก ครึ่งทะนาน พระนางเหมชาลาและเจ้าชายทนทกุมาร ได้อัฐเชิญไปเมืองทันทบุรี ประทับอยู่ด้วยความสุขสบายตลอดพระชนม์ชีพ
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระนางเหมชาลา และเจ้าชายทนทกุมาร จึงได้อัญเชิญ พระรูปมา จัดสร้างวัตถุมงคลไว้ด้านหน้า และนำรูปของพุ่มข้าวบิณฑ์อันเป็นส่วนที่เป็นสิ่งของเงินทอง รูปพรรณของมีค่านานาชนิด ผูกร้อยด้วยลวดทองคำ ตรึงติดอยู่รอบยอด ส่วนบนสุดของพระมหาธาตุเจดีย์ไว้ด้านหลังโดยได้นำเอาบริวารต่างๆซึ่งเฝ้ารักษาพระบรมธาตุเจดีย์มาไว้ที่วัตถุมงคล เพื่อไห้เป็นสิริมงคล และปกป้องคุ้มครองผู้มีจิตศรัทธาสืบไป

แล้วแต่รักศรัทธาคับ การันตีแท้ตลอดการประกันตามกติกาทุกประการคับ ขอบคุณคับ 0896499564
ราคาเปิดประมูล549 บาท
ราคาปัจจุบัน801 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ1 บาท
วันเปิดประมูล - 15 มี.ค. 2550 - 03:50:55 น.
วันปิดประมูล - 16 มี.ค. 2550 - 04:20:20 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล(ZEN) (3K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     801 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     1 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    dodoloei (157)

 

Copyright ©G-PRA.COM