(0)
เหรียญโบว์หลวงพ่อตาบ กะไหล่ทองลงยา ปี 2530 วัดมะขามเรียง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญโบว์หลวงพ่อตาบ กะไหล่ทองลงยา ปี 2530 วัดมะขามเรียง
รายละเอียดเหรียญโบว์หลวงพ่อตาบ กะไหล่ทองลงยา ปี 2530 วัดมะขามเรียง จ.สระบุรี

ประวัติ หลวงพ่อตาบ (พระครูเวชคามคณารักษ์) วัดมะขามเรียง



กำเนิด พระครูเวชคามคณารักษ์ (ตาบ อตฺตกาโม) เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2454 ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 12 ปีกุน ณ บ้านบ่อกระโดน ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหม้อ จ.สระบุรี ได้นามว่า ตาบ ในสกุล คชรินทร์ บิดาชื่อ โป๋ เป็นชาวบ้านเสาธง อ.บางปะหัน จ.อยุธยา มารดาชื่อ ฟัก เป็นชาวบ้านกระโดน หลวงพ่อตาบเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของครอบครัว

การศึกษา เมื่อหลวงพ่อเจริญวัยได้พอสมควรก็ได้ศึกษาความรู้พื้นฐานด้านภาษาไทยกับบิดาจนสามารถอ่นออกเขียนได้ตั้งแต่เยาว์วัย จนมีอายุได้ 9 ปี (ใน พ.ศ.2462) บิดาจึงได้พาไปเข้าโรงเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดศักดิ์ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นเด็กวัดอยู่กับพระที่วัดศักดิ์ จนถึงอายุ 12 ปี จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก็กลับมาช่วยบิดามารดาทำงาน ในระหว่างช่วงนี้เองที่หลวงพ่อได้รับความรู้อักขระวิธีด้านเลขยันต์ และเวทย์มนต์พุทธาอาคมจาก คุณตาแจ้ง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านนี้เป็นเยี่ยม ทำให้มีความปรีชาสามารถในด้านพุทธาคมมาแต่เยาววัย

อุปสมบท เมื่อหลวงพ่อตาบอายุครบ 21 ปี บิดามารดาจึงได้พาเข้ารับการอุปสมบทตามแบบอย่างประเพณีของคนไทย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2476 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ณ พัทธสีมาวัดมะขามเรียง โดยมี พระครูศรีคณาภิบาล (โฉม) วัดดอนพุด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแซ วัดบ้านร่อม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการปลั่ง วัดมะขามเรียง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาในเพศบรรพชิตว่า อตฺตกาโม หลังจากอุปสมบทแล้วก็จำพรรษา ณ วัดมะขามเรียงกับพระอนุสาวณาจารย์ คือพระอธิการปลั่ง

หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อได้คำนึงถึงชีวิตที่ผ่านมา และค้นคว้าศึกษาธรรม ทำให้พิจารณาได้เข้าใจกฏเกณฑ์ของชีวิต ธรรมชาติ และธรรมของพุทธองค์ได้แจ่มแจ้งซาบซึ้งจึงตั้งอธิษฐานว่าจะครองเพศพรหมจรรย์ตลอดชีวิต เมื่อตั้งใจได้ตั้งแต่พรรษาแรก หลวงพ่อจึงพยายามศึกษาค้นคว้าด้านปริยัติธรรมจนสามารถสอบได้นักธรรมตรีในปี พ.ศ. 2478 และนักธรรมโทในปี พ.ศ. 2479 นักธรรมเอกในปี พ.ศ. 2480 เรียกได้ว่าท่านศึกษาได้แตกฉานอย่างรวดเร็วสามารถสอบได้ติดต่อกันทุกปีมิมีช่องว่างเว้น นอกจากนี้หลวงพ่อยังได้ศึกษาวิชานักเทศน์กับ ครูพรหม ซึ่งเดิมเป็นพระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงแห่งวัดสามง่ามกรุงเทพฯ จนสามารถเทศน์ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะการเทศน์มหาชาติ กัณฑ์มหาราช ชื่อเสียงของหลวงพ่อโด่งดังมาก ด้วยน้ำเสียงและลีลาการเทศน์ ทั้งท่วงทำนองไม่ว่าจะแบบลมพัดชายเขา หรือ คลื่นกระทบฝั่ง หลวงพ่อสามารถเทศน์ได้ประทับใจผู้ฟังจนมีเสียงเล่าลือไปไกล แม้กระทั่งสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ครั้งยังเป็นพระพิมลธรรม ยังเอ่ยปากชมเชย และชวนหลวงพ่อให้ไปเทศน์ยังประเทศพม่า แต่หลวงพ่อไม่ยอมไป และตั้งแต่นั้นมาหลวงพ่อจึงเริ่มหยุดเทศน์ลง หันไปศึกษาทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน โดยเดินทางไปศึกษากับ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2497 ศึกษาอยู่หนึ่งปีเต็ม ก็มีความเข้าใจดีจึงนำวิธีการที่ได้ศึกษามาฝึกฝนปฏิบัติแต่เพียงลำพังจนมีความสามารถชำนิชำนาญดีแล้ว ก็เผยแพร่ชวนญาติโยมที่สนใจฝึกปฏิบัติ จัดตั้งเป็นสำนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานวัดมะขามเรียง ก็ปรากฏว่ามีลูกศิษย์ทั้งบ้านใกล้เรือนไกลไปฝึกปฏิบัติกับหลวงพ่อมากมาย แนวทางและวิธีการสอนของหลวงพ่อนับว่าทำให้ผู้ศึกษาเข้าใจได้ง่ายและปฏิบัติได้ผลคืบหน้า จึงทำให้มีผู้ไปปฏิบัติกับหลวงพ่อปีละมาก ๆ
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน900 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 18 ม.ค. 2567 - 10:13:29 น.
วันปิดประมูล - 20 ม.ค. 2567 - 00:59:38 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลสว่างเทวะ (500)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     900 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Tanes54 (3.2K)(2)

 

Copyright ©G-PRA.COM