| ชื่อพระเครื่อง | พระปิดตาศรีมหาราช พังพะกาฬ รุ่นสร้างวิหาร นราธิวาส พิธีเทวาภิเษก-พุทธาภิเษก ปี 2550 พร้อมกล่องเดิม |
| รายละเอียด | พระปิดตาศรีมหาราช พังพะกาฬ รุ่นสร้างวิหาร นราธิวาส พิธีเทวาภิเษก-พุทธาภิเษก ปี 2550 พร้อมกล่องเดิม ตอกโค๊ตเลข 5 ที่ด้านขวาล่างขององค์พระ
ความเป็นมาในการสร้างเหรียญพังพะกาฬ
ทำไมถึงต้องสร้างเหรียญพังพะกาฬเป็นรุ่นที่ 2 ต่อจากพระผงอุดมโชคอุดมชัย
จากการที่กลุ่มลูกหลานชาวไทยพุทธในจังหวัดนราธิวาสกลุ่มปฏิบัติธรรมเล็กๆได้รวมตัวอธิษฐานบอกกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบุรพกษัตริย์ให้ช่วยเหลือปัดเป่าขจัดภัยเหตุการณ์ร้ายที่เกิดกับบ้านเมืองในปี 2548อันเป็นปฐมบทแห่งการมาโปรดลูกหลานของพระเทวราชโพธิสัตว์ท่านพ่อจตุคามรามเทพ
ในปี 2548 ได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลองค์บูชาขนาดหน้าตัก 27 นิ้วและขนาด 5 นิ้ว พระผงดวงตามหาแผ่นดิน เหรียญรูปไข่ อันเป็นปฐมบทของวัตถุมงคล ที่ท่านพ่อได้ให้สร้างเพื่อลูกหลานได้บูชาตลอดจนแจกจ่ายให้ทหารตำรวจและผู้เสี่ยงภัยได้มีวัตถุมงคลของท่านพ่อติดตัวป้องกันภัย
ต่อจากนั้นในปี 2549 ได้ริเริ่มที่จะจัดสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานองค์บูชาขนาดหน้าตัก 36 นิ้ว ปางนาคปรก ปางมหาราชลีลา และปางยืน จึงได้จัดให้มีการสร้างวัตถุมงคลรุ่นอุดมโชค-อุดมชัย อันเป็นปฐมบทของวัตถุมงคลในการสร้างวิหารรุ่นแรกขึ้นมา ทำไมถึงเป็นอุดมโชค-อุดมชัย ก็เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกหลานและผู้เลื่อมใสศรัทธา ตลอดจนประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ ที่กำลังหวาดวิตกขาดขวัญกำลังใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีโชคมีชัยในการที่จะดำรงอยู่ในผืนแผ่นดิน อันเป็นการถือกำเนิดเกิดขึ้นมาของอาณาจักรศรีวิชัยที่เคยรุ่งเรืองเมื่ออดีต 1200 กว่าปีมาแล้วอีกคำรบหนึ่ง
ตอน 2
"ไปตามให้มาช่วยกูสร้างที่นราธิวาส"
วรรคทองที่ทำให้ผู้จัดสร้างเหรียญชุดนี้ต้องกลับมาทั้งๆที่ย้ายไปที่อื่นจนต้องกลับมาเกษียณที่นราธิวาสตามที่พ่อท่านสั่ง
ต่อมาในปี พ.ศ.2550 ด้วยเหตุที่ว่าเหตุการณ์ในพื้นที่ที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างกับเหตุการณ์ปกติ โดยความเป็นจริงการสงครามในอดีตกับในปัจจุบันไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก ความต่างจะเป็นเรื่องของอาวุธยุทโปกรณ์ ในอดีตจะเป็นมีดดาบหอกโล่การสงครามเคลื่อนทัพด้วยการเดินเท้าช้างม้าและเรือ แต่ปัจจุบันจะเป็นอาวุธสมัยใหม่ทั้งปืนระเบิดรถถังเครื่องบินและอีกหลายๆอย่าง แต่ยุทธวิธีการสงครามจะเห็นชัดเจนว่าใครเป็นใคร สงครามระหว่างใครกับใคร แต่เหตุการณ์ในพื้นที่กลับไม่ใช่อย่างที่เป็น เป็นเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ไม่สามารถรู้ถึงแหล่งที่อยู่ ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครบ้างอยู่ในขบวนการ เป็นการยากที่จะระมัดระวังตัวตลอดเวลา ด้วยเหตุที่ความเป็นปกติวิสัยของคนเรามักจะมีช่วงเวลาพลั้งเผลอขาดการระมัดระวังในบางครั้งบางคราว การที่จะป้องกันตัวเองด้วยหลักยุทธวิธีจึงเป็นไปได้ยาก จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตาพังพะกาฬ
พังพะกาฬ ในอดีตที่ผ่านมาที่มีผู้กล่าวถึง ว่าเป็นท่านพ่อจตุคามรามเทพได้อวตารลงมาบ้าง หรือเป็นพญาพังพะกาฬทหารเอกแห่งอาณาจักรศรีวิชัยผู้เป็นเลิศแห่งการรบ นักรบผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ แต่สิ่งที่ลูกหลานรับรู้ได้ก็คือพังพะกาฬเมื่อเกิดขึ้นเมื่อไหร่ชัยชนะจะบังเกิดขึ้นนั่นเอง
เมื่อมีการสร้างขวัญกำลังใจให้ลูกหลานและประชาชนโดยทั่วไปแล้ว จึงถึงเวลาก่อเกิดกำเนิดองค์พญาพังพะกาฬอีกครั้งหนึ่งในปี 2550 ทำไมถึงต้องสร้างในปี 2550 จากเลขศาสตร์แห่งปี 2550 เมื่อบวกรวมกันได้เลข 12 (พระคุณแม่) เมื่อนำเลข 1กับ2 รวมกันได้ 3 ซึ่งตามศาสตร์ก็คือดาวอังคาร ซึ่งถือเป็นปีแห่งเทพแห่งสงคราม เป็นมหาอุตม์ คงกระพัน จึงเป็นห้วงเวลาที่เหมาะที่จะทำการก่อเกิดกำเนิดพญาพังพะกาฬผู้มีชัยชนะในทุกทิศ เพื่อให้มาปกป้องขจัดภัยให้หมดสิ้นไปจากบ้านเมือง และเพื่อให้ลูกหลานได้มีวัตถุมงคลสำหรับป้องกันภัยในสิ่งที่มองไม่เห็นไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่เวลาไหน
ในการจัดสร้างวัตถุมงคลพังพะกาฬ ท่านพ่อได้ให้จัดสร้างขึ้นมา 2 รูปแบบ
- พระผงพังพะกาฬ มีรูปลักษณ์กลม เนื้อผงว่านต่างๆ ขนาด 4.0 เซนติเมตร ด้านหน้าเป็นรูปพระปิดตาพญาพังพะกาฬ ด้านหลังเป็นยันต์มหาอุตตามหลักศาสตร์แห่งท่านพ่อจตุคามรามเทพ
- เหรียญพังพะกาฬ มีรูปลักษณ์กลม เนื้อโลหะต่างๆ ขนาด 3.2 เซนติเมตร ด้านหน้าและด้านหลังเป็นรูปพระปิดตาพญาพังพะกาฬ พร้อมอักขระ
ในการสร้างเหรียญปิดตาพญาพังพะกาฬ ท่านพ่อได้มอบหมายให้นายสุธรรม ว่องวีระ (คหบดีชาวหาดใหญ่ สงขลา ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งในนราธิวาส) เป็นผู้ดำเนินการสร้างร่วมกับอาจารย์เรือง................ (ส่วนคหบดีท่านนี้ก้าวเข้ามาช่วยพ่อสร้างได้อย่างไรเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติที่เป็นไปตามวาระที่ไม่สามารถเล่าได้ในที่นี้ ) ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าผู้สร้างเหรียญพังพะกาฬยุคแรกก็คือคหบดีท่านหนึ่ง
วัตถุมงคลพญาพังพะกาฬของท่านพ่อที่ให้จัดสร้างขึ้นประกอบไปด้วยศาสตร์และศิลปะที่งดงามและมีคุณอนันต์ ศิลปะรูปลักษณ์ขององค์พังพะกาฬในรูปลักษณ์พระปิดตาพังพะกาฬ มีพญานาคเคียงข้างซ้ายขวา ทำไมถึงต้องเป็นพญานาค เรื่องเล่าว่าในอดีตเชื่อกันว่านราธิวาสมีพื้นที่เป็นทะเลส่วนใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาคมาก่อน เมื่อมีแผ่นดินเกิดขึ้นมาจนกลายเป็นนราธิวาสในปัจจุบัน จึงมีตำบลหนึ่งเรียกขานว่าตำบลบางนาค ซึ่งก็เป็นที่ตั้งของวิหารท่านพ่อจตุคามรามเทพในปัจจุบันนั้นเอง ท่านพ่อจึงได้กำหนดให้เอาพญานาคมาอยู่ในวัตถุมงคลชุดนี้นั้นเอง
ส่วนในด้านศาสตร์ดังที่กล่าวมาแล้วว่าปี 2550 ผลรวมสุดท้ายตกเลข 3 ดาวอังคาร เทพเจ้าแห่งสงคราม การสร้างองค์พังพะกาฬผู้เป็นนักรบผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ จึงมีความเพียบพร้อมด้วยเวลาอันครบถ้วนด้วยมีความมหาอุตม์ แคล้วคลาดปลอดภัย
นอกจากนี้ผลรวมของปี (2+5+5+0 ตกเลข 12) เลข 12 เป็นกำลังพระคุณแม่ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ให้คุณอนันต์แก่ลูกหลาน จึงเชื่อกันว่าเหรียญพังพะกาฬที่จัดสร้างขึ้นแม้จะยึดถือในเรื่องมหาอุตม์ป้องกันภัยแล้ว แต่ยังมีแฝงไปด้วยพลังแห่งความเมตตา ให้คุณมีโชคมีลาภ จึงเป็นวัตถุมงคลที่ครบถ้วนด้วยพลังแห่งชัยชนะนั่นเอง
การจัดสร้างเป็นเหรียญ 2 หน้า โดยเป็นรูปพังพะกาฬทั้ง 2 หน้า เป็นเรื่องที่แปลกและยากต่อการสร้าง เพราะโอกาสที่จะเกิดความแตกต่างมีมาก และเหรียญที่ทำจะมีน้ำหนักมากกว่าเหรียญทั่วไป แต่มีเหรียญโลหะอยู่ชนิดหนึ่งที่มีคุณฤทธิ์อย่างมากมาย และเมื่อสร้างออกมาแล้วปรากฏว่ามีน้ำหนักเบากว่าทุกเนื้อแม้แต่เนื้อทองคำ ผู้ได้ครอบครองเหรียญเนื้อนี้ถือว่าเป็นผู้โชคดีเพราะมีคุณค่าเทียบเหรียญทองคำเลยทีเดียว
ทำไมถึงต้องเป็นปิดตาพังพะกาฬ 2 หน้า ด้วยเหตุที่กล่าวไปแล้วว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราจะไม่รู้ว่าเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่เวลาไหน การทำเหรียญ 2 หน้าของท่านพ่อ ก็เพื่อปิดเพื่อป้องกันภัยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กันทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ดีไม่ว่าจะมาต่อหน้าหรือมาลับหลัง
แต่ถึงจะมีวัตถุมงคลที่ศักดิ์สิทธิ์เพียงใด ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านพ่อให้ลูกหลานยึดมั่นตลอดเวลาก็คือ คิดดี พูดดี ทำดี และมีสติ เพราะไม่ว่าจะศักดิ์สิทธิ์เพียงไหนก็ล้วนแล้วแพ้ความดีทั้งสิ้น |
| ราคาเปิดประมูล | 240 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 260 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 25 ก.ย. 2564 - 16:22:44 น. |
| วันปิดประมูล | - 26 ก.ย. 2564 - 20:45:03 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | supersk (5.7K)    
|
