(0)
พระยอดธง กรุวัดพญาดำ สุโขทัย เนื้อชินเงิน พร้อมบัตรรับรองสถาบันการันตี







ชื่อพระเครื่องพระยอดธง กรุวัดพญาดำ สุโขทัย เนื้อชินเงิน พร้อมบัตรรับรองสถาบันการันตี
รายละเอียดพระยอดธง กรุวัดพญาดำ สุโขทัย เนื้อชินเงิน ผิวปรอท เป็นพระพุทธปางมารวิชัย พุทธลักษณะตามศิลปะยุคสุโขทัย องค์นี้สภาพสวย พิมพ์คมชัด จัดเป็นพระชุดเล็กที่น่าสะสมอีกรุ่นนึง พระกรุเก่าอายุหลายร้อยปี

ประวัติวัดพญาดำ

ตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง เดิมไม่ใช่ชื่อวัดพญาดำ แต่คงถูกเรียกเมื่อภายหลัง เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเมืองศรีสัชนาลัยในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ พระองค์ได้พระราชนิพนธ์หนังสือ "เที่ยวเมืองพระร่วง" มีตอนหนึ่งที่ทรงพระราชนิพนธ์ถึงวัดแห่งหนึ่งที่เสด็จประพาสว่า "ที่นีมีวิหารรูปร่างคล้ายวัดศรีชุมเมืองสุโขทัยเป็นรูปสี่เหลี่ยมกว้าง ๕ วา ๓ ศอก ยาว ๖ วา ๓ ศอกคืบ และผิดกับวัดศรีชุมที่แบ่งออกเป็น ๒ ห้อง ด้านตะวันตก (คือ ด้านที่หันไปทางถนน) มีรูปพระยืน ด้านตะวันออกมีพระมารวิชัย ประตูยังมีซุ้มติดอยู่ มีใบระกาทางด้านตะวันออก และเจดีย์อีกหลายองค์ มีกำแพงล้อมรอบลานวัดนี้ถึงเป็นวัดเล็กก็จริง แต่ท่าทางจะเป็นวัดที่อยู่สบาย ส่วนใหญ่ก่อด้วยศิลาแลงมีอยู่ที่เชิงเขาใกล้วัดนี้ จึงเห็นว่าอย่างไรคงไม่กันดารน้ำ บางที่จะเป็นวัดนี้ที่ในพงศาวดาร กรุงเก่าเรียกว่า วัดไม้งาม เป็นที่ตั้งทัพหลวงของสมเด็จพระนเรศวร เมื่อเสด็จขึ้นมาปราบขบถพระยาพิชัย พระยาสวรรคโลกที่ข้าพเจ้านึกเช่นนี้เพราะเห็นว่า เป็นวัดที่อยู่ริมถนนพระร่วงทางมาจากสุโขทัย และดูอยู่ในภูมิที่เหมาะ ….. นอกจากนี้ยังพบพระรัตนตรัยมหายานด้วยคือมีพระพุทธรูปนาคปรกอยู่ตรงกลางพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรอยู่เบื้องขวานางปัญญาบารมีอยู่เบื้องซ้าย"
แต่จากการสำรวจโดยเจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ตามลักษณะสภาพโบราณที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพรรณนาไว้นั้นตรงกับโบราณสถานที่เรียกกันในปัจจุบันว่า วัดพญาดำ สาเหตุที่เรียกวัดพญาดำเนื่องจากมีคนร้ายลักลอบขุดหาพระพิมพ์ และพบพระพิมพ์นางพญาเนื้อสีดำเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ราษฎรแถบนั้นเรียกชื่อวัดว่า วัดพญาดำ
สิ่งก่อสร้างสำคัญของวัดนี้ประกอบด้วย มณฑปประธานก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูนด้วย หลังมณฑปยังคงมีหลังคาคล้ายรูปประทุนเรือก่อโดยวิธีเรียงศิลาแลงเหลื่อมเข้าหากันทำเป็นรูปหลังคาซ้อนกัน ๒ ชั้น ภายในมณฑปแบ่งเป็นคูหา คูหาด้านหน้าประดิษฐานพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัย แต่ถูกทำลายไปมากแล้ว คูหาด้านหลังประดิษฐานพระพุทธรูป ๒ หรือ ๓ องค์ ตรงกลางเป็นพระพุทธรูปยืน จากภาพถ่ายเมื่อ ๘๗ ปีมาแล้ว พบว่าด้านทิศใต้มณฑปพบว่ามีเจดีย์รายทรงดอกบัวตูมอยู่ ๑ องค์ ปัจจุบันสูญหายไปแล้ว พระวิหารอยู่ด้านหน้ามณฑปก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูนหลังคาเป็นเครื่องไม้มุงกระเบื้อง
มณฑปพระอัฏฐารศ ก่อด้วยศิลาแลงตั้งอยู่ด้านขวาของมณฑปประธานภายในคูหามณฑปมีร่องรอยว่าเคยประดิษฐานพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจะมีความสูงถึง ๑๘ ศอก ที่นิยมเรียกกันว่า พระอัฏฐารศ
ซุ้มพระสำหรับประดิษฐานพระทั้ง ๔ ด้าน มีแท่นพระนอน อยู่ด้านหลังวัด ติดกับกำแพงแก้ว และตรงกลางแท่นพระซึ่งตรงกับกำแพงวัดมีช่องประตูไปยังวัดสระปทุม
เจดีย์รายหลายขนาดและหลายองค์ เท่าที่นับได้หลังจากการขุดแต่งบูรณะจำนวน ๓๘ องค์
เขตสังฆาวาส คือพื้นที่นอกกำแพงด้านทิศใต้ของวิหาร มีอาคารเล็ก ๆ ๒ หลังและพบชิ้นส่วนศิลาแลงเป็นแท่นกลมสลักสำหรับใส่เดือยไม้เมื่อประกอบเป็นซุ้มประตูทางเข้าทั้งด้านใต้และด้านตะวันออก
สระน้ำอยู่ด้านหน้าพระวิหาร เป็นสระกรุด้วยศิลาแลง สำหรับด้านทิศเหนือของวัดมีบ่อน้ำกรุด้วยศิลาแลงที่มีน้ำขังตลอดปี
กำแพงวัดทำด้วยศิลาแลงเป็นท่อนปักรายรอบทั้ง ๔ ด้าน
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน2,600 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 27 ส.ค. 2564 - 13:48:58 น.
วันปิดประมูล - 01 ก.ย. 2564 - 08:58:38 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลBall_amulet (1.2K)(3)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     2,600 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    khunpol500 (786)

 

Copyright ©G-PRA.COM