(0)
**เคาะเดียว** แหวนแปะโค้ว หัวตะเข้ ลาดกระบัง ปี2520 เนื้ออัลปาก้าชุบนิเกิ้ล หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปลุกเสก






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง**เคาะเดียว** แหวนแปะโค้ว หัวตะเข้ ลาดกระบัง ปี2520 เนื้ออัลปาก้าชุบนิเกิ้ล หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปลุกเสก
รายละเอียดแหวนแปะโค้ว หัวตะเข้ ลาดกระบัง ปี2520 เนื้ออัลปาก้าชุบนิเกิ้ล หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปลุกเสก

ชีวประวัติองค์เซียนแปะโค้ว ท้อสัก
ณ โรงเจฮะเฮงตั้ว ตลาดหัวตะเข้
เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
องค์เซียนแปะโค้วหรืออาเซียน เป็นชาวจีนแต้จิ๋ว เกิดที่ตำบลกั่วเถ้า อำเภอแต้เอี้ยะ มณฑลกวางตุ้ง เดินทางจากเมืองจีนเข้ามาหากินในเมืองไทยตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี ระยะแรกๆท่านทำงานเป็นลูกจ้างในสวนผักย่านตลาดหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง เวลาว่างจะมารับใช้ศาลเจ้าเล็กๆในตลาดหัวตะเข้
อุปนิสัยของท่านเป็นคนมีจิตใจงาม มีคุณธรรม ใจบุญสุนทาน และ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ท่านสนใจในการปฏิบัติธรรมนั่งวิปัสสนากรรมฐาน โดยเชื่อว่าทำให้หลุดพ้นจากทุกข์ได้ ท่านจึงได้อุทิศรับใช้ศาลเจ้าแห่งนั้นเป็นต้นมา โดยบูรณะปัดกวาดศาลเจ้าจนสะอาด และเปลี่ยนแปลงสภาพไปในทางที่ดี จึงมีผู้คนเข้ามากราบไหว้บูชามากขึ้น มีการทำบุญสะเดาะเคราะห์ เติมน้ำมันตะเกียงในศาลเจ้า ซึ่งภาษาจีนเรียกว่า "โต้ยเฮียอิ้ว" เพื่อเป็นนิมิตหมายให้เกิดพลังอำนาจแสงสว่างแก่ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง ท่านเคยเดินทางกลับเมืองจีนเพื่อเยี่ยมเยียนพ่อแม่พี่น้อง และคู่หมั้นของท่าน และเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้งท่านก็มิได้ย้อนกลับไปเมืองจีนอีกเลย
องค์เซียนแปะโค้วเป็นคนรักการอ่านและศรัทธาในตัวอักษร ทุกๆเช้าท่านจะเก็บกระดาษที่ชาวบ้านทิ้งขว้างอยู่ในโรงเจ โดยจะเป็นกระดาษอะไรก็ตามที่มีตัวอักษรปรากฏอยู่ ท่านเชื่อว่าตัวอักษรนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เปรียบเสมือนครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้มนุษย์มีความเฉลียวฉลาด มีคุณค่าทางปัญญา
องค์เซียนแปะโค้วได้รับจดหมายจากเมืองจีนว่าพี่สาวและอาสาวจะมาเยี่ยมเยียน และคิดว่าท่านคงจะฝากเงินกลับไปเมืองจีนบ้าง เพราะท่านได้จากเมืองจีนมานานแล้ว คงรวบรวมเงินได้บ้าง คืนนั้นมีขโมยเข้ามาขโมยเงินของท่าน ท่านรู้ตัวและจับคนร้ายได้ คนร้ายได้สารภาพกับท่านว่าต้องการขโมยเงินนั้นไป เป็นเพราะลูกสาวป่วยไม่มีเงินที่จะไปหาหมอ ท่านได้ฟังก็รู้สึกสงสารขโมย จึงยกเงินที่สะสมไว้ให้ขโมยไปทั้งหมด
องค์เซียนแปะโค้วเป็นผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรมนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้เดินทางไปรับใช้โรงเจที่พระพุทธบาท โดยเดินทางด้วยทางเท้าเปล่าเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม และได้อุทิศรับใช้โรงเจที่พระพุทธบาท พร้อมทั้งปฏิบัติธรรมนั่งวิปัสสนากรรมฐานไปด้วย จนกระทั่งหมดงานเทศกาลโรงเจจึงเดินทางกลับ และได้ปฏิบัติเช่นนี้ตลอดมาทุกปี
ก่อนที่องค์เซียนแปะโค้วจะเสียชีวิต และสำเร็จเป็นอรหันต์ ท่านได้ตอกโรงไม้ฉำฉา เพื่อเข้าไปปฏิบัติธรรมนั่งวิปัสสนากรรมฐานโดยกำหนดระยะเวลา 100 วัน และกำชับห้ามมิให้ใครไปรบกวนสมาธิของท่านเด็ดขาด เมื่อถึงครบกำหนด 100 วันจึงอนุญาตให้เปิดโรงเจไม้ฉำฉาออกได้ ถ้าท่านเสียชีวิตและศพของท่านเน่าเปลือย ก็ขอให้ช่วยนำศพของท่านไปเผา แต่ถ้าศพของท่านไม่เน่าเปื่อย ทุกคนจะดำเนินการใดก็แล้วแต่จะเห็นสมควร
เมื่อครบกำหนด 100 วันทุกคนจึงเปิดโรงไม้ฉำฉาออก ปรากฏว่าท่านได้เสียชีวิตในท่านั่งปฏิบัติธรรมสมาธิอย่างสงบ รวมอายุของท่านในขณะนั้นอายุ 26 ปี ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑ ปีมะโรง(หลังตรุษจีน 15 วัน)พ.ศ 2448 ร่างกายของท่านอ่อนนิ่มเสมือนท่านยังมีชีวิตอยู่ ไม่เน่าเปื่อย ศพของท่านจึงเป็นอมตะ
ข่าวการเสียชีวิตขององค์เซียนแปะโค้วแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ประชาชนชาวตลาดหัวตะเข้ และทั่วสารทิศต่างก็เข้ามากราบไหว้เป็นจำนวนมาก รู้ถึงพี่สาวและอาสาวของท่านจึงได้เดินทางเข้ามาที่เมืองไทยตรงเข้าชี้หน้าต่อว่าศพ ว่าท่านเป็นคนเห็นแก่ตัว หนีเอาตัวรอดแต่เพียงผู้เดียว ทิ้งญาติพี่น้อง พ่อแม่ ซึ่งแก่ชรามากให้ลำบาก ขนาดที่ชี้หน้าต่อว่าศพนั้น ศพขององค์เซียนแปะโค้วก็ก้มศีรษะลงน้อมรับคำกล่าวต่อว่าของอาสาว ศพขององค์เซียนแปะโค้วในปัจจุบันจึงมีลักษณะก้มหน้าลง คณะกรรมการรวมทั้งประชาชนชาวตลาดหัวตะเข้ได้ปรึกษากัน และลงความเห็นว่าจะให้เชิญซินแสท่านหนึ่งมาทำพิธีศพองค์เซียนแปะโค้ว โดยกรรมวิธีน้ำผงธูปมาพอกรอบองค์ศพท่านและนำทองคำเปลวแท้ๆมาปิดทับองค์เซียนแปะโค้วไว้ โดยมิได้เปลื้องเสื้อผ้าออก เสร็จแล้วจึงได้อัญเชิญองค์เซียนแปะโค้วมาประดิษฐานไว้ที่โรงเจฮะเฮงตั้วตั้งแต่บัดนั้น
ปีพศ. 2501 นับเป็นเวลา 60 ปีของการเสียชีวิตของท่านตามคำทำนายขององค์เซียนแปะโค้ว ได้เกิดเพลิงไหม้ครั้งรุนแรงที่สุดที่ตลาดหัวตะเข้ ในขณะนั้นมีชาวจีนคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในโรงเจฮะเฮงตั้ว ชื่อแป๊ะเชี้ยง แซ่โง้ว ได้เสี่ยงชีวิตฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปอุ้มร่างขององค์เซียนแปะโค้วหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย
ต่อมาประมาณ 4-5 ปีมีการก่อสร้างโรงเจฮะเฮงตั้วขึ้นมาใหม่จึงได้อัญเชิญท่านประดิษฐานที่โรงเจฮะเฮ็งตั้วตามเดิม
ในชีวิตของท่านเซียนแปะโค้วมุ่งมั่นแต่การกระทำความดีต่อมวลมนุษย์ จึงกลายเป็นปูชนียบุคคล เป็นที่เคารพบูชากราบไหว้ของชาวตลาดหัวตะเข้ นอกจากนี้ยังปกป้องชาวตลาดหัวตะเข้ให้ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขประสบแต่สิ่งดีงามทั้งปวง
บุญญาธิการขององค์เซียนแปะโค้วได้สร้างปฏิหารณ์ให้แก่ผู้ที่เข้ามาสักการะและบนบานในสิ่งที่ตนต้อง แลดการก็จะได้สิ่งตอบแทนไปทุกครั้ง เรื่องที่เล่าลือกันมากขึ้นในสมัยสงครามเอเชียบูรพา ชาวจีนที่อาศัยอยู่บริเวณตลาดหัวลำโพง หนีศึกสงครามเข้ามากราบไหว้องค์เซียนแปะโค้วเพื่อมิให้ได้รับอันตรายจากภัยสงครามเรื่องก็เป็นจริงตามนั้น บ้านชาวจีนหลังนั้นหลังเดียวที่พ้นภัยจากลูกระเบิดทั้งๆที่บริเวณโดยรอบทุกหลังถูกแรงระเบิดพังทลายลงโดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นจำนวนมาก
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน120 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 27 มี.ค. 2564 - 14:10:20 น.
วันปิดประมูล - 29 มี.ค. 2564 - 06:15:49 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลarun2528 (1.1K)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     120 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    sit2009 (2.4K)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM