พระชัยวัฒน์ ก้นเงินหลวงพ่อเริ่มวัดจุกกะเฌอจังหวัดชลบุรี 1 ใน 180 องค์ครับ พร้อมกล่องเดิมครับ ท่านใดสนใจเชิญครับออกบัตรเองลด 500 บาทครับออกให้เพิ่ม 100 บาทครับ
พระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ปรโม ของหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ได้ปลุกเสกเสร็จ นำออกให้บูชาได้เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๒๗ ซึ่งเป็นวันตรงกับวันเกิดอายุครบ ๗๙ ปีเต็มของหลวงพ่อเริ่ม คืนวันที่ ๖ กรกฎาคม ท่านปลุกเสกเดี่ยวเป็นคืนสุดท้าย หลวงพ่อเริ่มนิมนต์พระวัดจุกกะเฌอหลายสิบรูป มานั่งล้อมกองวัตถุมงคล อันมีหีบเหล็กบรรจุพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ปรโม อยู่ตรงกลาง
พระที่ล้อมรอบได้สวดสรรเสริญพุทธคุณ สวดพระคาถาชินบัญชร บารมี ๓๐ ทัศน์ ฯลฯ โดยมีหลวงพ่อเริ่มนั่งบริกรรมปลุกเสกอยู่รูปเดียว เมื่อผมมาถึงวัดเวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น. หลวงพ่อกำลังนั่งปรกอยู่ พระสงฆ์ก็สวดอยู่รอบ ๆ หีบบรรจุพระกริ่ง เมื่อผมมาถึงผมก็เข้าไปนั่งใกล้ ๆ หีบเหล็กกำลังใส่ฟิล์มเพื่อจะถ่ายรูป ก็ได้ยินเสียงดัง กุ่งกริ่ง ๆ ๆ ๆ อยู่ในหีบเหล็ก ผมจึงบอก อาจารย์เบิ้ม วัดปากน้ำ (เป็นอาจารย์ฆราวาส) ท่านก็ได้ยิน บอกว่าคงเป็นเพราะ พระกริ่งเคลื่อนไหวออกจากถุงพลาสติกที่ใส่ ไปชนกล่อง ผมก็คิว่าคงใช่แน่ พวกเราขนลุกด้วยความตื่นเต้น
พอดีพรรคพวกที่มาด้วยกลับจากทานอาหารเย็น จึงเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ทุกคนหัวเราะ จนรุ่งเช้าไปนำหีบเหล็กซึ่งบรรจุพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ โดยใส่ไว้เป็นถุง ๆ ในถุงพลาสติกมาเปิดกุญแจ ซึ่งใส่กุญแจปิดตายมาตลอด ตั้งแต่วันแรกของการทำพิธีปลุกเสก ปรากฏว่า พระชัยนับสิบ ๆ องค์ หลุดมาตกอยู่ตามขอบ ๆ หีบเหล็ก ซึ่งสันนิษฐานว่า คงบินออกมาจากถุง แต่เป็นเพราะอยู่ในหีบ จึงเพียงตกอยู่รอบ ๆ ภายในหีบ นับเป็นการอัศจรรย์มาก
ยิ่งกว่านั้นภายในหีบซึ่งเราบรรจุพระกริ่งพระชัยไว้ ยังมีของฝากเสกอีกหลายอย่าง ซึ่งเราไม่เคยเปิดให้หลวงพ่อเริ่มดูเลย เพราะปิดตายใส่กุญแจป้องกันของหายมาตลอด แต่หลวงพ่อเริ่มบอกกับพวกเราว่า ในหีบมีมีดอยู่เล่มหนึ่งใช้รักษาโรคผ่าฝีได้ ซึ่งก็จริงตามท่านพูด เพราะอาจารย์เบิ้มเอามีดหมอซึ่งเป็นของเก่าใส่ไว้เล่มหนึ่งจริง ๆ พวกเรางง.. ไม่ทราบว่าท่านรู้ได้อย่างไร ?
เมื่อนำพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ปรโมออกให้บูชาแล้ว ปรากฏว่าพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์หลวงพ่อเริ่ม วิ่งนำหน้าแซงรายการของเจ้าอื่นไปชนิดกินขาด ท่ามกลางยุคซึ่งการเงินกำลังฝืดเคือง ปัจจุบันพระกริ่ง และพระชัยชุดนี้ เช่าหาในวงการพระเครื่อง ชุดละหนึ่งแสนบาทขึ้นไป ถ้าแยกบูชาเป็นองค์ พระกริ่งปรโมตกอยู่ในราวองค์ละ ๖๐,๐๐๐ ถึง ๘๐,๐๐๐ บาท ส่วนพระชัยปรโม ตกอยู่ในราวองค์ละ ๓๐,๐๐๐ ถึง ๔๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่าย
เนื่องจากมีผู้ที่เช่าไปแล้วหลายราย อยากจะทดลองตัดรุ้งกินน้ำดูว่า จะตัดสายรุ้งขาด หรือ ไม่ขาด ? เพราะตำรากล่าวว่า พระกริ่งและพระชัยวัฒน์นั้น เมื่อสร้างถูกต้องตามพิธีโบราณาจารย์ ลงแผ่นพระยันต์ ตลอดจนนะครบถ้วน พระกริ่งจะมีเทพรักษา สามารถอาราธนาแล้วฟาดสายรุ้งกินน้ำให้ขาดได้ โดยได้ทดลองเป็นที่ประจักษ์กันมาแต่สมัยโบราณ
เมื่อคืนวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๒๗ มีผู้ฝ่าสายฝนมาหาผม (คุณชินพร สุขสถิตย์ ผู้สร้าง และเขียนบทความนี้) ถึงบ้านพักในซอยเฉลิมสุข บางเขน เนื้อตัวเปียกฝนชุ่มโชก บอกต้องการมาเช่าพระกริ่งปรโม พร้อมกับเล่าว่า ผมเอาพระกริ่งปรโม ก้นฝาบาตร หมายเลข ๑๖๖๖ ฟาดสายรุ้งกินน้ำขาด เห็นกันหลายคน จึงมาขอเช่าเพิ่มเติม เก็บเอาไว้อีก เพราะต่อไปคงหายาก และราคาคงไม่ด้อยไปกว่าพระกริ่งชินบัญชรหลวงปู่ทิม ซึ่งผมเป็นผู้สร้างเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว (พ.ศ. ๒๕๒๗)
มีอยู่ราย โทร.มาจากศูนย์พระเครื่องบางจาก ปากซอยสุขุมวิท ๙๕ บอกว่า คนขับรถซูบารุหน้าปากซอย เอาพระชัยวัฒน์ปรโม ทดลองฟาดสายรุ้ง รุ้งก็ขาดเหมือนกัน
เมื่อเย็นวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๒๗ ก็มีจดหมายมาถึงผมอีกฉบับ เล่าเหตุการณ์ว่า ได้เอาพระกริ่งปรโมก้นอุดผง ซึ่งผมฝากไปให้ในการสร้างพระกริ่งชุดนี้ ออกตัดสายรุ้งกินน้ำขาด
เรื่องราวของพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ปรโม ที่อาราธนาถูกต้องแล้ว มีอานุภาพถึงขนาดฝาดสายรุ้งกินน้ำขาด ดุจเดียวกับพระกริ่งยุคสมัยโบราณนั้น มิได้มีเพียง ๒-๓ ราย ตามเรื่องราวที่ผมนำลงนี้เท่านั้น ปรากฏว่า มีการทดลองกันหลายราย และก็ฟาดรุ้งขาดทุกราย นับว่า หลวงพ่อเริ่ม ปรโม ซึ่งเป็นผู้สร้าง ลงแผ่นอักขระเลขยันต์ และปลุกเสกรูปเดียวนั้น มีบารมี และกระแสจิตแก่กล้า ไม่ด้อยกว่าพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า ๆ แต่ประการใด
คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของภัตตาคารนาวาชายหาด ซึ่งเป็นผู้หนึ่งซึ่งมีส่วนช่วยเหลือ เป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการสร้างพระกริ่งปรโมชุดนี้ มีความประสงค์จะนำพระกริ่งซึ่งหลวงพ่อเริ่มปลุกเสกครบ ๕ วัน ๕ คืน แล้ว นำไปให้ หลวงพ่อเหมือน (พระครูอุดมวิทยาการ) วัดกำแพง อ.เมือง จ.ชลบุรี ปลุกเสกด้วย
เมื่อคุณมาโนชมาขออนุญาตหลวงพ่อเริ่ม ท่านก็อนุญาตเพราะเกรงใจคุณมาโนช แต่สีหน้าหลวงพ่อเริ่มท่านอึดอัด (ท่านบอกผมภายหลังว่า ท่านเสกรูปเดียวก็พอ) แต่ท่านก็รับปาก และยอมไปกับคุณมาโนชด้วย
คุณเชื่อไหม ถ้าผมจะเล่าให้ฟังว่า วันที่จะเอาพระกริ่งพระชัยวัฒน์ปรโมไปให้หลวงพ่อเหมือน วัดกำแพง ปลุกเสก คุณมาโนชให้ผมขับรถไปบอกหลวงพ่อเริ่ม และนำพระกริ่ง พระชัยทั้งหมดออกมาจากวัดจุกกะเฌอ เพื่อเอาไปให้หลวงพ่อเหมือนปลุกเสก ซึ่งผมเองก็ไม่อยากจะไปนัก เพราะผมก็ชอบปลุกเสกเดี่ยวเหมือนกัน แต่คุณมาโนชบอกว่า หลวงพ่อเหมือนรูปนี้ท่านเก่งมาก คนชลบุรีนับถือเป็นอันดับหนึ่ง หลวงพ่อเริ่มยังเป็นรอง เมื่อหลวงพ่อเหมือนปลุกเสกให้อีกแรงหนึ่ง พระกริ่งคงจะไปได้แรงและเร็วขึ้น ผมก็จำต้องเห็นด้วย
เมื่อรถโตโยต้าปิคอัพ ที่ผมขับจะไปบอกหลวงพ่อ และเพื่อจะขนพระกริ่งวิ่งมาถึงอ่าวอุดม ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เพลากลางรถเกิดขาดกระทันหัน ขณะนั้นรถวิ่งด้วยความเร็วประมาณ ๑๐๐-๑๑๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ธรรมดาเมื่อเพลากลางขาด รถจะพลิกคว่ำ แต่รถคันนี้ไม่เป็นอะไรเลย ผมกับผู้ที่ไปด้วยอีก ๒ คน จึงพูดกันว่า หลวงพ่อเริ่มท่านคงไม่ต้องการจะให้คนอื่นเสกด้วย และคิดว่า รายการนี้หลวงพ่อเหมือนคงไม่ได้ปลุกเสกแน่ ต่อมาผมได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้คุณมาโนชทราบถึงอุบัติเหตุ คุณมาโนชจึงให้ลูกชายขับรถไปบอกหลวงพ่อเริ่มใหม่ และขนพระกริ่งใส่รถมาด้วย
หลวงพ่อเริ่ม คุณมาโนช และผม พร้อมด้วยพรรคพวก และหีบพระกริ่งอีก ๑ หีบเหล็ก ได้มาพร้อมกันที่ภัตตาคารนาวาชายหาด และได้ออกเดินทางไปหาหลวงพ่อเหมือนที่วัดกำแพง เมื่อชลบุรี เพราะนัดกับลูกศิษย์ท่านไว้เรียบร้อยแล้ว และหลวงพ่อเริ่มกับหลวงพ่อเหมือนก็ชอบพอกันด้วย คุณมาโนชจึงเชื่อแน่ว่า หลวงพ่อเหมือนต้องปลุกเสกให้แน่ ๆ
เมื่อรถออกจากภัตตาคารนาวาชายหาด ก็มีลางบอกเหตุว่า หลวงพ่อเหมือนคงไม่ต้องเสกให้ รถคันที่ผมนั่งเป็นรถที่บรรทุกพระกริ่งปรโมทั้งหีบ (คนละคันกับรถเพลาหัก) ตามรถคุณมาโนช และรถหลวงพ่อเริ่ม ออกไปเป็นคันที่ ๓ เกิดสายพานขาดพร้อมกันทั้ง ๓ เส้น ผมเห็นเหตุการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้งก็พูดกับเพื่อน ๆ ว่า รายการนี้หลวงพ่อเหมือนคงไม่ได้เสกแน่ เมื่อรถคันที่ผมนั่งไปเสียเวลาเปลี่ยนสายพาน ก็ตามไปยังวัดกำแพง เมื่อไปถึง หลวงพ่อเริ่มท่านก็เข้าไปในกุฏิหลวงพ่อเหมือน สักพักออกมาจากกุฏิหลวงพ่อเหมือน บอกว่า เรากลับกันเถิด หลวงพ่อเหมือนท่านเสกให้ไม่ได้หรอก ผมเลยถาม ทำไมเล่าครับ หลวงพ่อเริ่มท่านบอกว่า หลวงพ่อเหมือนท่านป่วยมาก ไม่ฉันอาหารมาหลายมื้อแล้ว อย่าไปรบกวนท่านเลย บาปกรรมเปล่า ๆ ถ้าเผื่อไม่มาให้เห็น คุณมาโนชเขาไม่ยอมเชื่อ ฉันทำ (ปลุกเสก) รูปเดียวก็พอ
ภายหลังหลวงพ่อเริ่มท่านพูดกับผม และเพื่อน ๆ ว่า ในชลบุรี และภาคตะวันออกนี้ ฉันทดลองมาหมดแล้ว ฉันไม่กลัวใคร เมื่อไปปลุกเสกที่ไหน ๆ ฉันมักทดลองดูกระแสจิตของพระที่ไปร่วมนั่งปลุกเสกด้วย ยอมรับนับถือว่าแน่กว่าฉันอยู่รูปเดียวในบรรดาที่ไปปลุกเสกด้วยกันมาก็คือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ว่าฉันยังไม่ถึงท่าน แต่สำหรับรูปอื่น ๆ ฉันไม่กลัวหรอก พอจะสู้เขาได้
อีกรูปหนึ่งที่ฉันยอมรับนับถือว่าแน่กว่าฉันก็คือ หลวงพ่อทิม วัดละหารไร่ จิตท่านกล้าพอ ๆ กับหลวงปู่โต๊ะ แต่ท่านไม่เคยออกนอกวัด
ข้อความเหล่านี้ผมไม่ได้เขียนขึ้นมาเอง หลวงพ่อเริ่มท่านพูดให้ฟัง มีคนไม่เชื่อไปสอบถามท่านตรง ๆ ท่านไม่อาจตอบรับ หรือปฏิเสธ ได้แต่ยิ้ม ๆ เพราะท่านเป็นสงฆ์ กลัวข้อครหาว่าท่านโอ้อวด แต่จากการที่ผมได้ใกล้ชิด และเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง และจากที่ผู้อื่นเล่าให้ฟังถึงอภินิหารต่าง ๆ ผมเชื่อว่าท่านเป็น ของจริง จึงไม่ประหลาดใจเลยว่า ทำไม พระกริ่ง พระชัยปรโม ที่ผมสร้างจึงดังและวิ่งเร็วกว่าใคร ๆ และไม่เป็นที่น่าประหลาดใจอีกว่า ทำไม พระชัยวัฒน์ และพระกริ่งปรโมที่ผมสร้าง จึงดัง และวิ่งเร็วกว่าใคร ๆ และไม่เป็นที่น่าประหลาดใจอีกว่า ทำไม พระชัยวัฒน์ และพระกริ่งปรโมจึงมีอานุภาพสูง ขนาดฟาดรุ้งขาด เท่าเทียมกับพระกริ่งเก่า ๆ
เพราะหลวงพ่อเริ่มท่านเป็นพระ มีบารมีบริสุทธิ์ ทรงเพศพรหมจรรย์มาตลอดชีวิตของท่าน บริสุทธิ์ผุดผ่องชนิดที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเพศตรงข้ามมาก่อนเลย ท่านเกิดมาเพื่อเป็นเนื้อนาบุญของพระพุทธศาสนาโดยแท้ ท่านเคยพูดว่า เมื่อภารกิจในการก่อสร้างของท่านสิ้นสุดลง ท่านก็จะหันเข้าหาความสงบ ละทุกสิ่งอย่างทันที เข้าหาแก่นแท้ของพุทธศาสนาเสียที
ครับ ข้อเขียนของคุณชินพร สุขสถิตย์ ผู้สร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ปรโม ถวายให้หลวงพ่อเริ่มปลุกเสก ได้จบลงเพียงเท่านี้ ท่านผู้อ่านคงพิจารณากันได้เองว่า ควรเชื่อหรือไม่ ? สำหรับตัวผม อ.เล็ก พลูโต เจ้าของคอลัมน์ ขอรับรองด้วยเกียรติยศของตนที่พอมีอยู่บ้างว่า พระกริ่งปรโมของท่านนั้น ตัดสายรุ้งได้ขาดจริง ๆ เพราะผมเองเป็นผู้หนึ่งที่ได้บูชามาจากศูนย์พระเครื่อง น้ำ บุคคโล ในสนามวัดราชนัดดา เมื่อคราวที่ออกให้บูชาใหม่ ๆ ได้หมายเลข ๑๗๓๔
เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้ว มีโอกาสตอนขับรถบนฟรีเวย์ ๖๐๕ เมื่อตอนมาอเมริกาใหม่ ๆ (พ.ศ. ๒๕๓๓) เกิดฝนตก และรถติด เห็นรุ้งกินน้ำเป็นรูปครึ่งวงกลมจากฟากฟ้าหนึ่งไปยังฟากฟ้าหนึ่ง ก็เลยถอดพระกริ่งที่คล้องคอออกมา อาราธนาเพื่อทดสอบว่า ฟาดสายรุ้งขาดจริงหรือไม่ ปรากฎว่า ฟาดขาดจริง ๆ ผมได้ทดลองบนรถขณะขับรถและรถติดถึง ๒ ครั้ง เมื่อถึงจุดหมายข้างล่าง ก็ทดลองอีกครั้ง ขาดทั้งสามครั้ง แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ผมเชื่อและศรัทธาในองค์หลวงพ่อเริ่มได้อย่างไร ?
ส่วนท่านที่ต้องการจะนำติดตัวไว้เป็นประจำ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว และคุ้มครองป้องกันตัวตลอดเวลาแล้ว หลวงพ่อเริ่มท่านก็ได้สร้างพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ ปรโม ซึ่งมีขนาดเล็กไว้ เพื่อสำหรับติดตัวได้ทั้งหญิงและชาย พระกริ่งพระชัยวัฒน์ และพระบูชาประจำตระกูลซึ่งผม (ชินพร สุขสถิตย์) เป็นผู้ดำเนินการสร้างโดยความเห็นชอบของหลวงพ่อเริ่ม มีรายละเอียด และจำนวนการสร้างที่ถูกต้องแน่นอน ดังนี้
๑.ลงแผ่นพระยันต์ ๑๐๘ และ ๑๔ นะ ตามตำรับโบราณกาลที่ตกทอดมาครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาครบถ้วนถูกต้องทุกประการ
๒. แผ่นพระคาถาชินบัญชร ๒ แผ่น ลงเป็นภาษาไทย และขอม โดยหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ และแผ่นยันต์พัดโบก และวิชาการต่าง ๆ ของหลวงพ่อเริ่ม
๓. ชนวนพระกริ่งเก่า ๆ มีชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์ รุ่นฉลองพระชนม์ ปี ๒๔๘๓, ชนวนพระกริ่งนเรศวรวังจันทร์, ชนวนพระชัย ท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม, ชนวนพระกริ่งชินบัญชร ของหลวงปู่ทิม อิสริโก ระยอง, พระเกศเก่าของหลวงพ่อมงคลบพิตร อยุธยา, เหรียญ ร.๕ ซึ่งหลวงปู่ทิมปลุกเสกไว้นานแล้ว, ชนวนพระพุทธศิรากาศ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จทรงเททองในวันเกิดหลวงปู่แหวน เมื่อ ๑๖ มกราคม ๒๕๒๗ ซึ่งผมไปเก็บทองชนวนที่สันปากเบ้าด้วยตัวผมเอง
๔. ผงตะไบทองพระเกศ พระพุทธรูปหล่อ ๒๕ พุทธศตวรรษ ที่พุทธมณฑล ซึ่งนายช่างของกรมศิลปากรแบ่งมาให้
๕. เศษตะไบอนุสาวรีย์ทั่วประเทศ ซึ่งคุณอนันต์ นายช่างศิลปของกรมศิลปากรมมอบให้
๖. ห่วงเหรียญพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ ซึ่งร้านเลี่ยมพระมอบให้ ซึ่งผ่านการปลุกเสกมาพร้อมกับเหรียญนั้น ๆ แล้ว
๗. โลหะจากพระพุทธรูปเก่า ๆ ตะกรุดเก่า ๆ และที่ไม่ทราบสำนักอีกเป็นจำนวนมาก และตะกรุดมหานิทรา ของหลวงปู่ทิม ตะกรุดมหาระงับ ของหลวงพ่อนิด วัดทับมา
๘. ยอดโลหะประสาทจากวัดพระแก้ว และเศษยอดปราสาทสมัยโบราณอีกหลายชิ้น
๙. แร่บางไผ่ ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ตะกรุดเงินของหลวงปู่บุญ และเศษโลหะของหลวงปู่บุญ สำหรับแร่บางไผ่ของหลวงปู่บุญนั้น คุณปัญญา สุขสถิตย์ เป็นผู้มอบให้ ปรากฏว่า หลอมแล้วไม่ละลาย จนต้องตักขึ้นเก็บไว้
พระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ปรโม ได้ประกอบพิธีหล่อตามแบบโบราณ ณ ลานวัดจุกกะเฌอ เมื่อตกแต่งเสร็จเรียบร้อย หลวงพ่อเริ่มได้ปลุกเสกเดี่ยว ๕ วัน ๕ คืน
พระกริ่งปรโม ถอดแบบจาก พระกริ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ถัง ประเทศจีน โดยถอดโดยตรงจากองค์ต้นแบบ เนื้อนวโลหะกลับดำ เม็ดกริ่ง หรือ ผลคุณ ซึ่งใช้บรรจุในองค์พระ สร้างจากผงวิเศษต่าง ๆ ของหลวงพ่อเริ่ม ของหลวงปู่ทิม และของพระอาจารย์ในอดีตองค์สำคัญ ๆ ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่ทราบกันดี นำมาบดผสมกัน ปั้นเป็นเม็ดเล็ก ๆ บรรจุในองค์พระกริ่ง แล้วหุ้มก้นด้วยฝาบาตร ตบุ๋มเป็นแอ่งกะทะ แบบพระกริ่งก้นถ้วยของวัดสุทัศน์ โดยมีจำนวนการสร้างที่แน่นอนแล้ว ดังนี้
๑. พระกริ่งปรโม พร้อมพระชัยวัฒน์
๒. พระบูชาประจำตระกูล
พระกริ่งปรโม ซึ่งถอดแบบจากพระกริ่งใหญ่องค์จริง สร้างทั้งหมด ดังนี้
๑. เนื้อทองคำ สร้าง ๑๕ องค์ ตอกหมายเลข ๑- ๑๖ (ยกเว้นหมายเลข ๑๓)
๒. เนื้อนวโลหะ สร้างทั้งหมด ๓,๐๖๖ องค์ แยกเป็นพิเศษตามการหุ้มก้น ดังนี้
๒.๑ เนื้อนวโลหะหุ้มก้นด้วยทองคำ ๑๘ องค์ ตอกหมายเลข ๑-๑๙ (ยกเว้นหมายเลข ๑๓) ซึ่งเดิมประกาศจะสร้าง ๘๐ ชุด แต่มีผู้จองน้อย จึงสร่างเท่าที่จำนวนสั่งจองคือ ๑๘ ชุด
๒.๒ เนื้อนวโลหะหุ้มก้นฝาบาตร สร้างจำนวน ๒,๒๘๐ ชุด (พระกริ่ง และ พระชัยวัฒน์) พระกริ่งตอกหมายเลข ๑- ๒๒๘๐ ไว้ที่ฐานด้านหลังขององค์พระ และตอกโค๊ดตัว ร. ไว้ที่ด้านหลัง เหนือฐานชั้นบน เยื้องปลายสังฆาฏิมาทางขวามือ
๒.๓ เนื้อนวโลหะก้นหุ้มเงิน เดิมประกาศจะสร้าง ๒๘๐ องค์ มีผู้สั่งจองน้อยมาก เพราะตั้งราคาไว้สูงถึงชุดละ ๑,๖๐๐ บา ซึ่งลดจำนวนลง สร้างเพียง ๑๘๐ ชุด พระกริ่งตอกหมายเลข ๑-๑๘๐ ตัวเลขตอกไว้ด้านหลัง ส่วนโค๊ด ร. ตอกไว้ที่ปลายสังฆาฏิด้านหลัง เยื้องไปทางซ้ายมือ
๒.๔ เนื้อนวโลหะก้นหุ้มนวโลหะพิเศษ ซึ่งนำชนวนพระกริ่งชินบัญชรที่เหลือทั้งหมด และชนิดพระกริ่งรุ่นฉลองพระชนม์สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ๒๔๘๓ ซึ่งเป็นรุ่นที่หายากที่สุด เพราะสร้างน้อยมาก มาหลอมรวมกัน แต่นำมาหุ้มก้น สร้างทั้งหมด ๓๒๘ ชุด ให้บูชาชุดละ ๙๐๐ บาท ตอกเลข ๑-๓๒๘ ตัวเลขตอกตำแหน่งเดียวกัน แต่โค๊ดตัว ร. ตอกไว้ที่ฐานชั้นบน เหนือตัวเลขขึ้นมาเล็กน้อย
๒.๕ เนื้อนวโลหะก้นอุดผง เนื่องจากพระกริ่งชุดนี้หล่อที่ลานวัดจุกกะเฌอทั้งหมด ดังนั้นผู้รับสร้างจึงหล่อมากกว่าที่สั่งเพื่อกันเสียไว้จำนวนหนึ่ง เมื่อจัดจำนวนพระกริ่งตามลักษณะหุ้มก้นดังกล่าวแล้ว จึงมีพระเหลืออีกถึง ๒๗๐ องค์ และพระชัยวัฒน์อีก ๒๐๒ องค์ พระกริ่งจำนวน ๒๗๐ องค์นี้ ได้นำมาอุดผงพุทธคุณของหลวงพ่อเริ่ม รวมกับผงหลวงปู่ทิม โดยแบ่งเป็น ๒ ส่วน
ก. จำนวน ๒๐๒ ชุด ได้มอบให้ คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตยฺ เจ้าของภัตตาคารนาวาชายหาด อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี คุณมาโนชได้นำไปอุดผงพุทธคุณของหลวงปู่ทิม หลวงพ่อเริ่ม และหลวงพ่อเหมือน วัดกำแพง ตอกหมายเลข ๑-๒๐๒ ไว้ตามลำดับทุกองค์ ส่วนโค๊ดตัว ร. ตอกไว้ที่ฐานด้านหลังขวามือสุด
ข. ส่วนที่เหลืออีก ๖๘ องค์ ผมผู้สร้างได้นำผงพุทธคุณหลวงปู่ทิมที่ผมมีอยู่ทุกชนิด รวมกับผงเก่าที่ได้มาจากทรวงอกเบื้องซ้ายของพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่ เมื่อพบใหม่ ๆ เป็นผงที่คุณปฐม อาจสาคร ให้มา บอกเป็นผงในหัวใจพระทองคำที่ใคร ๆ ไม่สนใจ เมื่อกะเทาะปูนหุ้มพระองค์นี้ออก และได้นำผงนี้เป็นส่วนของผงซึ่งสร้างเป็น พระกริ่งปรโม ผงปฐวีธาตุ มาผสมแล้วอุดก้น และได้นำผงกลม ๆ เล็ก ๆ ซึ่งจะกดพิมพ์เป็นพระปรกใบมะขาม ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ทิมมาอุดไว้ด้วย ตอกโค๊ดไว้ที่ฐานชั้นบนซ้ายมือสุด และตอกเลข ๗๙ และ ๘๐ เท่าจำนวนปีของหลวงพ่อเริ่ม และบวกอีก ๑ เป็น ๘๐
๓. พระกริ่งปรโมเนื้อพิเศษ คือ เอาชนวนพระกริ่งชินบัญชร และชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์ รุ่น ๒๔๘๓ มารวมกัน เทเป็นพระกริ่งปรโมได้ ๔ องค์ พระชัยวัฒน์ ๑๒ องค์ รวม ๑๖ องค์ (เท่ากับเลขโสฬส) เนื้อแก่ทองคำ ใช้แล้วกลับดำเป็นเงา
๔. พระกริ่งปรโมเนื้อปฐวีธาตุ สร้างจำนวน ๑๐๘ องค์ |
|
(