(0)
พระสมเด็จหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง พิมพิ์หลังยันต์ห้า







ชื่อพระเครื่องพระสมเด็จหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง พิมพิ์หลังยันต์ห้า
รายละเอียดพระสมเด็จหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง พิมพิ์หลังยันต์ห้า เนื้อผงเหลืองนิยม (โซนเนื้อหยาบ) ปี พ.ศ.2515 สภาพผิวมีคราบจากการเก็บพระ ดูง่ายๆ สวยๆเดิมๆ ครับผม...


ประวัติการจัดสร้างพระสมเด็จ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ พิมพ์หลังยันต์ห้า ปี 15
หลวง ตาบาง ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองกาน้ำ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปหาหลวงตารอด ที่วัดละหารไร่ เพื่อปรึกษาจะสร้างพระสมเด็จ และพระปิดตา เพื่อหาทุนสร้างศาลาและโบสถ์ที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านทั้งสองได้ขออนุญาตหลวงปู่ทิมเพื่อจัดสร้าง หลวงปู่ทิมให้ก็ให้สร้างตามคำขอ พร้อมทั้งได้มอบผงพุทธคุณนำไปผสม เพื่อจัดสร้างพระจำนวนหนึ่ง หลวงตาบางท่านได้เดินทางไป วัดโกรกแก้วเขาวงศ์พระจันทร์ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เพื่อขอยืมแม่พิมพ์พระสมเด็จสามชั้น ด้านหลังเป็นยันต์สาม หรือยันต์ใบพัด พร้อมทั้งได้แกะแม่พิมพ์พระปิดตามาใหม่อีก 2พิมพ์ ก่อนนำถวายหลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกเดี่ยว 1พรรษา เมื่อถึงกำหนดเวลา หลวงตาบางก็ได้เดินทางมารับพระสมเด็จและพระปิดตาจากหลวงปู่ทิม ท่านได้พูดกับหลวงตาบาง "คราวหน้าถ้าจะสร้างพระสมเด็จให้เปลี่ยนจากยันต์สาม หรือยันต์ใบพัด ให้เป็นยันต์ห้า หรือยันต์ครู" (ยันต์มหาจินดามณีที่หลวงปู่ทิมสำเร็จ)
หลวงตาบาง จึงได้รวบรวมผงพุทธคุณที่ได้เก็บ รวบรวมไว้ทั้งหมด สร้างพระสมเด็จขึ้นอีกครั้ง และได้เปลี่ยนแม่พิมพ์ด้านหลังที่เป็นยันต์สามหรือยันต์ใบพัด มาเป็นยันต์ห้า หรือยันต์ครู (ยันต์มหาจินดามณีที่หลวงปู่ทิมสำเร็จ) ตามที่หลวงปู่ทิมท่านแนะนำ จำนวนการสร้างประมาณ 5,000องค์ ที่พบเห็นจะพบเป็นเนื้อออกสีน้ำตาล สีเหลืองอ่อน เหลือเข้ม(ว่านเหลือง) สีดำ (ว่านไพรดำ) บางองค์พบว่ามีพลอยเสกอยู่ด้วย
พระรุ่นนี้เล่นหากันเป็นหลวงปู่ทิม อย่างเป็นทางการเเล้ว เนื้อหามวลสารเข้มข้นถึงใจ เมื่อก่อนอาจจะพบเห็นบ่อยๆ แต่ตอนนี้คิดหนักครับ หายาก ใช้ได้เลย
ที่หลวงตาบางนับถือหลวงปู่ทิมเพราะท่านเคยมาหาหลวงปู่ทิมเมื่อปีพ.ศ. 2515 ตอนนั้นเห็นหลวงปู่นั่งลบผงอยู่ ก็ต้องตกใจ เพราะเห็นผงที่ท่านลบลอดกระดานชนวนลงไปในถาดข้างล่างหมด เข้า ไปดูใกล้ๆ ท่านก็ทำเป็นไม่สนใจ แล้วนั่งลบผงต่อจนเสร็จ เมื่อท่านทำเสร็จแล้ว ก็เข้าไปขอผงวิเศษจากท่าน ปรากฏว่าหลวงปู่ท่านไม่ให้ บอกว่า "อย่าเอาไปเลย ยังไม่ถึงเวลา"
แม้ กระนั้น หลวงตาบางก็เพียรวนเวียนมาขอผงวิเศษลบทะลุกระดานชนวนหลวงปู่ทิมอีกเป็นหลาย ครั้ง หลวงปู่ทิมก็ยังไม่ยอมให้ทุกครั้งไป จนอ่อนอกอ่อนใจ แต่แม้กระนั้นก็ไม่ยอมกลับวัดมือเปล่า จึงได้กราบเรียนถามหลวงปู่ว่า ผงที่ท่านลบนี้มีอะไรบ้าง ซึ่งหลวงปู่ทิมก็เมตตาตอบว่า
"ผงวิเศษที่ท่านลบนั้น มี
1.ผงอิทธิเจ (มีอานุภาพสูงทางเมตตา มหานิยม หากนำไปให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงจะลุ่มหลงและระลึกนึกถึงผู้ที่เอาผงนี้ให้กินอยู่เสมอจนทนไม่ได้ จนต้องมาอยู่กินกับชายผู้นั้นในที่สุด ซึ่งหลวงปู่ทิมได้สาปแช่งเอาไว้ หากใครเอาผงไปใช้ในทางที่ผิด)
2.ผงปถมัง (มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เป็นมหาจังงัง กำบังกายได้ ถ้านำผงนี้ติดตัว คนอื่นจะไม่เห็นเราได้)
3.ผงมหาราช (เด่นทางเสน่ห์ ใช้ได้สารพัด 108)
4.ผงพุทธคุณ (มีอุปเท่ห์คล้ายกับผงมหาราช มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ)
5.ผงตรีนิสิงเห
ซึ่ง ผงวิเศษที่ลบขึ้นนี้ มีคุณวิเศษและประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อนำมาผสมสร้างวัตถุมงคล ก็ทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีพลานุภาพสูงยิ่งๆขึ้น และยิ่งได้รับการประจุกระแสจิตจากพระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ก็ยิ่งทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้นไปอีก สามารถนำมาอธิษฐานได้ดั่งใจต้องการ..."

ครั้งหนึ่ง เมื่อราวปี พ.ศ.2516 ขณะที่หลวงปู่ทิมกำลังสร้างพระสมเด็จยันต์ 5 (ไล่เรี่ยกับพระสมเด็จองค์จ้อย หลังยันต์เฑาะว์) คุณเพียรวิวิทย์ จารุสถิติเห็นหลวงปู่ทิมกำลังคร่ำเคร่งลบผงวิเศษแบบหามรุ่งหามค่ำติดต่อกัน หลายวัน จึงนึกขึ้นว่า "หลวง ปู่ท่านทำอะไรของท่านอยู่นะ วันๆเห็นท่านเขียนผงเขียนยันต์เสร็จแล้วใช้ลบ จากนั้นก็เอาผงมาผสมกับดินสอพองมาปั้นเป็นแท่งแล้วตากแห้ง แล้วนำมาเขียนยันต์ซ้ำอีกแล้วลบอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้หลายรอบ"จึงได้ถามหลวงปู่ทิมไปว่า
"หลวงพ่อทำอะไร ไม่เบื่อบ้างหรือ เห็นนั่งทำแบบนี้มาหลายวันหลายคืนแล้ว."
เมื่อได้ฟัง หลวงปู่ทิมก็นั่งนิ่งไปพักใหญ่ แล้วตอบคุณเพียรวิทย์ว่า
"นี่กำลังลบผงคุณพระอยู่ ตั้งใจจะทำผงวิเศษไว้ผสมพระ ก่อนที่จะถึงวันฝังพัทธสีมาที่วัด เดือนมีนาคม 2517 นี้"
และหลวงปู่ทิมยังบอกอีกครั้งหนึ่งถึงความมุ่งมั่นที่จะให้พระผงของท่านมีคุณภาพดีที่สุดว่า
"ถ้าไม่มีผงวิเศษจริงๆ จะให้นี่โมเมทำ นี่ก็ไม่อยากทำ เพราะให้ของไม่ดีแก่ผู้อื่น มันจะบาป


ประวัติหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

หลวงปู่ทิม อิสริโก นามเดิมชื่อ "ทิม งามศรี" เป็นบุตรของนายแจ้า นางอินทร์ เกิดที่บ้านรหัวทุ่งตาบุตร หมู่ที่ 2 ต.ละหาร (ปัจจุบันเป็น หมู่ 1 ต.หนองบัว) อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 7 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2422 เป็นบุตรคนที่ 2 ของครอบครัว

เมื่ออายุ 17 ปี นายแจ้ผู้เป็นบิดา นำตัวไปฝากไว้กับหลวงพ่อสิงห์ (วัดละหารใหญ่) เล่าเรียนหนังสือทั้งไทยและอักษรขอม ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นขอลาหลวงพ่อสิงห์กลับไปช่วยโยมบิดา มารดา ทำงานบ้าน จนถึงอายุ 19 ปี ท่านจึงถูกคัดเลือกเข้าเป็นลูกหมู่ หรือทหารประจำการในสมัยนั้นอยู่ที่กรุงเทพถึง 4 ปีเศษ จึงได้รับการปลดปล่อยกลับมาอยู่บ้านตามเดิม โยมบิดาจึงได้ขออนุญาตให้ท่านได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา

หลวงปู่ทิม ได้อุปสมบทที่วัดทับมา โดยพระครูขาว เจ้าคณะแขวงเมืองระยอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อสิงห์เป็นกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการเกตุเป็นอนุสาวนาจารย์ โดยทำพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2449 ตรงกับปีมะแม เดือน 6 วันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ ได้รับฉายานามสงฆ์ว่า "อิสริโก" หลังจากบวชแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนทางปฏิบัติสมถกัมมัฏฐานจากหลวงพ่อสิงห์ อาจารย์ของท่าน และศึกษาวิชาต่างๆ จากตำราคู่วัดละหารใหญ่ (เข้าใจว่าเป็นตำหรับเดิมของหลวงปู่สังข์เฒ่า) จนมีความรู้แตกฉานได้ออกจาริกปฏิบัติธุดงค์กับหลวงพ่อยอด นักปฏิบัติที่เป็นอาจารย์ไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเจริญสมณธรรม ออกหาความวิเวกสันโดษ ตามอัธยาศัยเป็นเวลา 3 ปี ครั้นเมื่อใกล้เข้าพรรษากลับมาถึงจังหวัดชลบุรีได้จำพรรษาที่วัดนามะตูมถึง 2 พรรษา ได้เที่ยวร่ำเรียนศึกษาวิชาเพิ่มเติม กับพระเกจิอาจารย์หลายรูป ทั้งพระสงฆ์และฆราวาสที่เก่งกล้าอีกลายคน จากนั้นได้กลับมาจำพรรษาที่วัดละหารไร่ และได้รับนิมนต์จากชาวบ้านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ตั้งแต่พ.ศ. 2450 ท่านได้ก่อสร้างเสนาสนะบูรณซ่อมแซมกุฏิ และถาวรวัตถุอีกหลายอย่าง

หลังจากหลวงปู่ทิม อิสริโก ได้สร้างอุโบสถเสร็จด้วยบารมีของท่านแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2517 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 95 ปี หลวงปู่ทิมได้วางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญ "ภาวนาภิรัติ" และสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2518 จากนั้นได้สร้างปละปรับปรุงหอฉัน "อุตตโม" หลวงพ่อทิมมีตำแหน่งครั้งสุดท้ายเป็นพระครูภาวนาภิรัติ ชาวบ้านโดยทั่วไปนิยมเรียกว่า "หลวงปู่ทิม" ซึ่งท่านได้มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2518 ณ หน้าหอสวดมนต์ วัดละหารไร่ หลังจากรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา เป็นเวลา 23 วัน คณะศิษย์จึงได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดละหารไร่ และเก้บศพไว้บนศาลาภาวนาภิรัติ โดยขอพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2526 ณ เมรุวัดละหารไร่

หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติเป็นพระที่ยึดมั่นในพระธรรมและพระวินัยขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระมักน้อย สันโดษ ไม่ยินดียินร้ายในรูปรส กลิ่น เสียง ฉันอาหารเจเป็นประจำ ฉันภัตราหารมื้อเดียวเวลาประมาณ 7.00น. และฉันน้ำชาประมาณ 4 โมงเย็น จะไม่มีการฉันเพลเลย อาหารประเภทเนื้อสัตว์ หรืออาหารคาวทุกชนิดท่านจะไม่ยอมฉัน แม้แต่น้ำปลา อาหารที่ท่านฉันส่วนใหญ่จะเป็นผัก ถั่ว หรือน้ำพริกกับเกลือป่น ปฏิบัติอย่างนี้เป็นเวลาถึง 50 ปี ร่างกายผิวพรรณของท่านก็ปกติอยู่ตามเดิม พละกำลังของท่านยังดีและสมบูรณ์อยู่เช่นเดิม ร่างกายอ้วนท้วนพอสมควร ทั้งนี้คงเป็นเพระบุญบารมีของท่านที่สะสมมา จึงทำให้ท่านเป็นพระที่เคร่งครัด และบริสุทธิ์ในพระธรรมวินัย ดำรงชีวิตอยู่ได้ถึง 96 ปี อายุพรรษา 72 พรรษา และวันที่ 16 ตุลาคม ของทุกปี วัดละหารไร่และคณะศิษย์จะร่วมกันจัดงานวันระลึกถึงหลวงปู่ทิม ซึ่งก็มีลูกศิษย์มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก
ราคาเปิดประมูล5,550 บาท
ราคาปัจจุบัน28,650 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 19 ธ.ค. 2558 - 11:49:30 น.
วันปิดประมูล - 21 ธ.ค. 2558 - 01:27:51 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลouwpon (1K)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     28,650 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    โชควัฒน (668)

 

Copyright ©G-PRA.COM