| ชื่อพระเครื่อง | พระพุทธนฤมิตโชค หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี พิมพ์กวางเล็ก |
| รายละเอียด | "พระพุทธนฤมิตรโชค"(กวางเล็ก)เป็นพระพิมพ์รุ่นแรกเนื้อดินผสมแร่ของ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงค์บุรี เป็นผู้สร้างเมื่อ ปีพ.ศ. 2511 เป็นพระปางประทานพร (แบบอินเดีย) ยกมือขวาประทานพรนั่งอยู่บนดอกบัวบานอยู่ในพื้นฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าองค์พระนั่งภายใต้ต้นอัมพฤกษ์ (ต้นมะม่วง)หมายถึงชื่อวัดอัมพวันอันเป็นสถานที่สร้างพระนี้เกิดขึ้นนั่นเอง โดยภายใต้ฐานที่ประทับนั่ง มีรูปพระธรรมจักรกับรูปกวางหมอบหันหลังอยู่หนึ่งคู่(2 ตัว)หมายถึงการประกาศธรรมของพระพุทธเจ้า กำลังเริ่มหมุนต่อไป ซึ่งจะมีผลแผ่ไพศาลฉายแสงออกไปในทุกๆที่ที่มีพระพุทธศาสนาดำรงค์อยู่อันนำมาซึ่งความสงบสุขร่มเย็นเป็นไปยังเวไนยสรรพสัตว์ทุกถ้วนหน้า อย่างไม่มีประมาณกาล
เพื่อความรู้ความเข้าในพระเครื่องที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯสร้างขึ้นมานั้น จึงขอนำเรื่องความเป็นมาเป็นไปมาเล่าเพื่อแนวทางสำหรับท่านที่เคารพนับถือได้ศึกษาเพิ่มพูนศรัทธาในองค์พระเครื่องนั้นด้วย ย่อมเป็นที่ทราบกันทั่วไปแล้วว่า พระเครื่องหรือจะเป็นเครื่องรางของขลังต่าง ๆ นั้น เป็นที่นิยมนับถือของคนไทยชาวพุทธมาแต่โบราณกาลจวบจนกาลปัจจุบัน สำหรับผู้มีไว้บูชาประจำตัวเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจอันนำมาซึ่งอารมณ์ความรู้สึกเช่น อบอุ่นใจเหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งมงคลคอยปกป้องคุ้มครองผู้แขวนวัตถุมงคลนั้นๆ เพื่อเป็นมงคลชัยให้ไพศาลช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งที่ตนไม่พึงปรารถนาให้ห่างไกล เป็นเสมือนตัวแทน,สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายให้เห็นว่าผู้นับถือเป็นผู้เทิดทูนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นซึ่งเป็นศาสดาเอกซึ่งเป็นผู้ตรัสรู้ชอบแล้วทั้งในทางโลกและทางธรรม ผลแห่งการอภิวาทนั้น ย่อมอำนวยให้สำเร็จในสิ่งที่ตนปรารถนา นอกจากนั้นพระเครื่องตลอดจนเครื่องรางยังช่วยเผยแพร่ผดุงส่งเสริมพระบวรพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองฟุ้งขจรขจายสืบต่อไปในอนาคตอย่างไม่มีของเขตประมาณ มูลเหตุนี้เป็นที่ตั้ง บวกกับผลแห่งการรบเร้าและแรงศรัทธาของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย เป็นพลังดลใจให้ท่านพระครูภาวนาวิสุทธิ์(หลวงพ่อจรัญ) ได้เกิดเมตตากรุณาธรรมเสียสละเวลารวบรวมแร่และผงวิเศษจากแหล่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ด้วยความวิริยะอุตสาหะอย่างยอดเยี่ยม ยากที่ปุถุชนคนธรรมดาจะกระทำได้ นำมวลสารที่ได้ทั้งหมดมาบดผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นสร้างเป็นรูปพระพิมพ์-ปลุกเสกขึ้นมาเมื่อ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๑ ตรงกับเดือน ๑๑ วันอังคาร แรม ๙ ค่ำ อันเป็นฤกษ์งามยามดีที่สุดจนให้ก่อเกิดขึ้นพระเครื่องพระพุทธนฤมิตโชคบนโลกนี้ จุดประสงค์ ขั้นแรกพระคุณเจ้าท่านพระครูฯ ดำริจะสร้างพระอุโบสถใหม่ จะนำพระนี้เข้าบรรจุไว้ในฐานชุกชีใต้แท่นพระประธานเพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนาไปชั่วกาลนาน มิได้มีจุดมุ่งหมายที่จะจำหน่ายจ่ายแจกหาผลประโยชน์ด้วยประการใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อทำสำเร็จเป็นองค์พระขึ้นแล้ว มีนักปราชญ์บางท่านสามารถทราบล่วงรู้ถึงสรรพคุณว่าพระนี้มีพุทธานุภาพดีเลิศ ไม่ควรจะนำของดี ๆ เช่นนี้ไปฝังดินจมทรายเสียหมด แนะนำให้แบ่งส่วนจ่ายแจกแก่สาธุชนผู้ใจบุญ (ที่มาช่วยบริจาคสร้างอุโบสถ) ไว้สักการบูชาบ้างก็จะอำนวยประโยชน์อย่างมหาศาล เมื่อเป็นเช่นนี้พระคุณหลวงพ่อท่านจึงตกลงใจเมตตาให้ตามที่ขอ คือจะจ่ายแจกส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะบรรจุไว้ตามเจตนาเดิม แบบและขนาดของพระพิมพ์ เดิมตั้งใจทำเพียงแบบและขนาดเดียว คือเป็นปางสมาธิเกศเปลวเพลิงประทับนั่งใต้ต้นมะม่วงบนฐานบัวหงายแนวตรง ใต้ฐานด้านหน้าเป็นรูปพระธรรมจักร มีกวางหมอบสองตัว กรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหลังมีตัวอักษรจารึก "วัดอัมพวัน สิงห์บุรี" เมื่อนำพระไปให้ช่างที่พระนครแกะพิมพ์และทดลองพิมพ์แบบสำเร็จ ส่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเป็นเพราะเทพเจ้าเข้าดลใจหรืออย่างไรก็เหลือสัณนิษฐาน พลันก็นึกอยากได้พระปางพระทานพรทรงอินเดีย (ซึ่งมีแบบอยู่แล้ว) นึกตำหนิแบบที่ ๑ ว่ารูปกวางหมอบที่ทำไปแล้วนั้นยังไม่เป็นที่พอใจ คิดไว้แต่ในใจว่าพรุ่งนี้เช้าจะเดินทางเข้าพระนครให้ช่างแก้ไขและทำแบบใหม่ วันรุ่งขึ้นจึงเดินทางเข้าพระนครกับผู้ติดตามอีกหลายท่าน เมื่อไปถึงยังมิทันพูดอะไร นายช่างบอกว่า เมื่อคืนผมนอนไม่หลับตลอดคืน เฝ้าแกะพิมพ์พระให้ท่านพระครูใหม่พร้อมกับนำมาให้ดู พอท่านพระครูเห็นเข้าเท่านั้นถึงกับขนลุก นึกว่านี่อะไรกันเหตุไรช่างทำเหมือนกับที่คิดไว้ไม่ผิดเพี้ยนประจักษ์ต่อหน้าผู้ติดตามทุกคน จึงตอบนายช่างไปว่า ที่มานี้ก็เพื่อจะให้ทำพิมพ์อย่างนี้และกวางแบบนี้นี่แหละ (ดูแบบที่ ๒) จึงตกลงให้ทำพิมพ์ที่ ๒ ขึ้นอีกนับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทุกท่านควรทราบไว้บำรุงศรัทธาส่วนหนึ่งด้วย พระแบบที่ ๒ นั้นเรียกว่า ปางประทานพร เกศบัวตูม มีอักษรขอม ๒ แถว ทางดิ่งนั้นคือ หัวใจพรพระ ๘ บท (พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ) นอกนั้นมีลักษณะเหมือนแบบที่ ๑ ทุกอย่าง แต่มีขนาดเล็กกว่า เนื้อพระทั้งหมดเป็นผงผสมแร่เคลือบน้ำมันสีน้ำตาลอ่อน บางองค์มีสีเขียวปะปนบ้าง เนื้อของพระพิมพ์แกร่งมาก ผงวิเศษและการได้มา
ผงที่นำมาผสมพระพิมพ์ครั้งนี้ มี ๑๖ อย่าง ที่พระคุณเจ้าไปนำมาด้วยตนเอง
๑. แร่เศรษฐีป้อมเพชร ได้จาก จ.กำแพงเพชร (แดนเศรษฐีโบราณ)
๒. แร่ทรหด ได้จากถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่
๓. แร่เม็ดมะขาม ได้จากเจดีย์วัดประสาท เจดีย์หักบ้านแป้ง จ.สิงห์บุรี
๔. แร่ขวานฟ้า ได้จากอาจารย์หล่ำ บ้านเตาอิฐ จ.สิงห์บุรี
๕. แร่ข้าวตอกพระร่วง ได้จาก จ.สุโขทัย
๖. แร่ขี้เหล็กไหล ได้จากเขาหลวง จ.นครสวรรค์
๗. แร่สังคะวานร ได้จากวัดไม้แดง ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี
๘. อิฐดอกจันทร์ ได้จากวัดไม้แดง ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี
๙. คตปลวก ได้จาก โคกดินวัดพระปรางค์มุนี จ.สิงห์บุรี
๑๐.คตไม้สัก ได้จากพงพญาเย็น จ.นครราชสีมา
๑๑.ขี้ปรอท ได้จาก จ.เพชรบูรณ์
๑๒.ผงกรุพระ ได้จากวัดพระธาตุ จ.ชัยนาท
๑๓.ผงกรุพระ ได้จากหลวงพ่อจาด จ.ปราจีนบุรี
๑๔.ผงกรุพระ ได้จากพระอาจารย์ ๑๐๘ วัดพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
๑๕.ผงกรุพระ ได้จากพระครูวินิจสุตคุณ วัดเสาธงทอง จ.อ่างทอง
๑๖.ผงกรุพระ ได้จากพระครูเปลี่ยน วัดสามปลื้ม จ.พระนคร
และผงกรุพระจากจังหวัดต่างๆ
โดยหลวงพ่อจรัญท่านได้เป็นผู้ไปรวบรวมมวลสารด้วยตนเอง เนื้อพระเป็นเนื้อดินเผาผสมแร่ธาตุมงคลและมวลสารมีทั้งทาเคลือบแลคเกอร์และไม่เคลือบก็มีเช่นกันครับ |
| ราคาเปิดประมูล | 100 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 1,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 22 ก.ย. 2557 - 12:02:28 น. |
| วันปิดประมูล | - 01 ต.ค. 2557 - 12:02:28 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | bambam23 (1.2K)  
|
