(0)
พระผงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ที่ขึ้นพระธรรมธาตุหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะสร้าง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระผงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ที่ขึ้นพระธรรมธาตุหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะสร้าง
รายละเอียดพระผงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะสร้าง

ชื่อว่า “ศิษย์” ย่อมต้องมี “ครู” ด้วยกันทั้งนั้น บ้างก็ครูดัง ศิษย์ดับ บ้างก็ครูดังศิษย์ดัง อย่างเช่น พระเดชพระคุณพระราชวุฒาจารย์ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ผู้เป็นครูดี และหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ผู้เป็นศิษย์ดัง
ก็ใช่ว่าจะมีเพียงสำนักวัดป่าเท่านั้น ที่ถึงพร้อมด้วยพระสุปฏิบัติเช่นนี้ จังหวัดภาคกลางของเราก็ยังมีผู้สืบเชื้อสายของความดีอยู่มากเอ่ยชื่อ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ใคร ๆ ก็รู้จัก แต่มีผู้ศรัทธาคิดจะหาเหรียญของท่านละก็ต้องคิดหนัก เพราะของปลอมมีมากกว่าของจริงเสียอีก อย่าเพิ่งน้อยใจในวาสนาเลยครับ ด้วยพระเครื่องที่ดีมีพุทธคุณสูงยังพอหาได้อยู่ แม้จะเป็นชั้นศิษย์ แต่ผมเชื่อว่าไม่น้อยหน้าครูแน่นอน
ท่านผู้นี้คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก เมืองกรุงเก่านั่นเอง ท่านเป็นศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาหลาย ๆ อย่างจากหลวงพ่อกลั่น ผู้เป็นอุปัชฌาย์ แต่น่าประหลาดอยู่อย่างว่าหลวงพ่อกลั่น กลับไม่ยอมสอนการเจริญภาวนาให้ตรง ๆ คงบอกเพียงว่าให้ท่านภาวนา พุทโธ ไป เรื่อย ๆ เบื้องแรกก็ไม่มีใครเข้าใจว่าเพราะอะไร ครั้นมาภายหลังจึงทราบว่า หลวงปู่ดู่ ได้ค้นพบองค์ภาวนาด้วยจิตใจของท่านเอง โดยท่านใช้ “ไตรสรณาคมน์” เป็นคำบริกรรม นี้จะแสดงถึง “อนาคตังสญาณ” โดยหลวงพ่อกลั่นใช่หรือไม่ คงต้องขอให้ท่านพิจารณาเองหลวงปู่ดู่ได้เริ่มสร้างพระ รวมถึงวัตถุมงคลในแบบต่าง ๆ มานานมากพอจะสืบได้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 เรื่อยมา พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านจึงมีมากมายหลายหลาก เมื่อศิษย์เรียนถามท่านว่า ทำไมท่านสร้างพระเยอะมาก ท่านตอบว่า “จิตใจเราจะได้อยู่กับพระ ดีกว่าสวดมนต์ทิ้งไปเปล่าๆ” ซึ่งเรื่องผูกใจให้อยู่กับพระนั้นท่านจะเน้นมาก ถึงขนาดเปิดไฟฟ้าใช้ ท่านก็ให้ภาวนาว่า “โอม อัคคีไฟ พุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา” ท่านย้ำ “แค่นี้ก็ได้บุญแล้ว”
พระผงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เนื้อปูน เกิด "พระธรรมธาตุ"“พระผงของท่านนั้นมิได้มีแต่ผงต่าง ๆ หากท่านยังผสมด้วยเส้นเกศาของท่านไว้เป็นจำนวนมากในทุก ๆ ครั้งที่มีการสร้างพระ เพราะเส้นเกศานั้นเองที่มีพลังงานบริสุทธิ์จากองค์ท่านเป็นอย่างสูงประจุ อยู่ในพลังงานนั้นก็ยังมี “เตโชธาตุ” (ธาตุไฟ) รวมอยู่ด้วยครั้นผสมกันไปได้ระยะเวลาหนึ่ง “ซิลิกอน” ซึ่งมีอยู่ในปูนก็ได้ถูกพลังงานความร้อน (ที่มีสภาวะเป็นทิพย์) ในเส้นเกศาของท่านเหนี่ยวนำให้ “ซิลิกอน” เกิดการควบแน่นและตกผลึกขึ้น จากนั้นก็จะค่อย ๆ ผุดขึ้นจากองค์พระมาเป็น “พระธรรมธาตุ” ดังที่เราเห็นกันอยู่ และนี่คือที่มา”
พระที่มีพระธรรมธาตุเป็นที่ต้องการอย่างสูงของบรรดาศิษย์ทั้งหลายทั้งปวง
ความแปลกของพระเครื่องหลวงปู่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น องค์ที่ไม่มีพระธรรมธาตุจะทำให้เกิดมีขึ้นก็ได้ องค์ที่มีอยู่แล้วกลับหายไปหมดก็เคยปรากฏ อยากให้มีก็สวดมนต์ไหว้พระและภาวนามาก ๆ ก็จะ “ผุด” ขึ้นมาเป็นกำลังใจสำหรับคนทำจริง แต่มากน้อยเท่าไรนั้นผมขอโยนกลองให้เป็นเรื่องของ “บารมี” ก็แล้ว
บทความนี้ได้ตีพิมพ์เมื่อ วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2539

ประวัติอุปสมบท
อายุครบ ๒๑ ปี ท่านจึงได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๔
ค่ำ เดือน ๖ ณ วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหลวงปู่กลั่น เจ้าอาวาสวัดพระญาติกา
ราม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่แด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ฉาย วัดกลางคลองสระบัว

เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า

“พรหมปัญโญ ภิกขุ” ในพรรษาแรก ๆ ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดประดู่ทรงธรรม (สมัยนั้นเรียกวัดประดู่โรงธรรม) พระอาจารย์ผู้สอนคือ ท่านเจ้าคุณเนื่อง, พระครูชม และหลวงปู่รอด (เสือ) เป็นต้น ในด้านการปฏิบัติพระกรรมฐาน ท่านได้รับการสอนจากหลวงปู่กลั่น ผู้เป็นพระอุปัชฌายาจาและหลวงปู่เภา ศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่กลั่น ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของท่านเอง นอกจากนี้ท่านยังได้ไปศึกษากับพระ
อาจารย์ฝ่ายกรรมฐานอีกหลายรูป ที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดสระบุรี ประมาณพรรษาที่สาม หลวงปู่ดู่จึงออก
เดินธุดงค์เดี่ยว
หลวงปู่ดู่ท่านได้ถือศีลข้อวัตร คือฉันอาหารมื้อเดียวมาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ แต่ภายหลังคือประมาณปี พ.ศ.
๒๕๒๕ เหล่าสานุศิษย์ได้กราบนิมนต์ให้ท่านฉัน ๒ มื้อเนื่องจากความชราภาพ ประกอบกับต้องรับแขกมากขึ้นท่าน
จึงได้ผ่อนปรนตามความเหมาะสมแห่งอัตภาพ แต่เมื่อถามความเห็นจากท่านจึงทราบว่า ท่านต้องการโปรดญาติโยม
จากที่ไกลๆ จะได้มีโอกาสทำบุญ

ในวันที่หลวงปู่ละสังขาร
ข่าวหลวงปู่ละสังขารนั้นได้แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว สมัยนั้นยังไม่มี Internet อย่างทุกวันนี้ ส่วนใหญ่จึงเป็นการโทรบอกกันเป็นทอด ๆ ซึ่งทุกคนเมื่อทราบข่าว ก็พร้อมใจกันลางาน รีบเร่งเดินทางไปวัดสะแกทันที
บรรยากาศที่วัดสะแกในวันนั้น ดูไม่เหมือนกับวันก่อน ๆ เลย
บางคนสะเทือนใจ ไม่อาจยืนทรงตัวอยู่ได้ ก็กอดต้นไม้ ร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร
บางคนบางกลุ่มก็ง่วนอยู่กับการเช่าพระ จนบ่ายวันนั้น พระเครื่องพระบูชาชนิดต่าง ๆ ก็ไม่มีเหลือ บางคนบางกลุ่มก็ง่วนอยู่กับการตักน้ำมนต์ในตุ่ม เสียงเสีนดสีของขันกับขอบตุ่มได้ยินชัดเจน
บางคนบางกลุ่มก็มาปลงธรรมสังเวช ระลึกถึงความดีความเมตตาของหลวงปู่
บางคนบางกลุ่มก็ประชุมตระเตรียมงานศพของหลวงปู่ ฯลฯ
เป็นจริงดังที่หลวงปู่พยากรณ์ไว้แล้วว่า "หากข้าจากไป แม้แต่ผ้าขี้ริ้วก็ไม่เหลือ"
แม้ว่าหลวงปู่จะบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นระยะเวลานานนับเดือน แต่ลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยก็ยังไม่อาจทำใจได้
ผ่านไป 2 วัน ศพหลวงปู่ก็ยังคงนุ่มนิ่ม ไม่มีอาการเลือดตก ข้อมือข้อเท้า ยังคงงอได้
บางคนรอปาฏิหาริย์ให้หลวงปู่ฟื้นขึ้นมา แต่สัจจะความจริงก็ย่อมเป็นความจริงอยู่อย่างนั้น ใครเลยจะฝืนกฏแห่งอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ได้
ราคาเปิดประมูล40 บาท
ราคาปัจจุบัน200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 17 ก.ค. 2556 - 12:18:58 น.
วันปิดประมูล - 21 ก.ค. 2556 - 19:38:31 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลภาสะลอง (3.7K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 17 ก.ค. 2556 - 12:19:14 น.



เลือกโอนได้ครับ แจ้งชื่อบัญชีด้วยยิ่งดี
เดิมชื่อจำลอง ชื่อใหม่ภาษะลอง
โอนแล้วแจ้งในกล่องข้อความหรือโทรแจ้งก็ได้ครับ
จะจัดส่งรวดเร็ว
เชิญคลิกที่ รูปค้อน
มีพระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล ที่น่าสนใจครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    sattayanukrom (76)

 

Copyright ©G-PRA.COM